ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

 บทเรียนที่ 19 การคืนดีและพระคุณการุณย์คือความหวังในปีศักดิ์สิทธิ์

CCP ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 บทเรียนที่ 19 
การคืนดีและพระคุณการุณย์คือความหวังในปีศักดิ์สิทธิ์

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ              
          1. รู้และเข้าใจความหมายของศีลอภัยบาปและพระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรมอบให้
          2. ตระหนักถึงคุณค่าของศีลอภัยบาปและพระคุณการุณย์ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์
          3. เพื่อให้ผู้เรียนเตรียมตัวรับศีลอภัยบาปและรับพระคุณการุณย์ตามที่พระศาสนจักรมอบให้อย่างดี

 

กิจกรรม   เรื่อง “เด็กชายขโมยที่สำนึกผิด”

ดำเนินการ       ผู้สอนเล่าเรื่อง “เด็กชายขโมยที่สำนึกผิด” ให้ผู้เรียนฟัง

           เช้าวันหนึ่ง มารดาของเด็กชายคนหนึ่งได้รับโทรศัพท์จากเจ้าของร้านขายของเล่นแจ้งว่าลูกชายของเธอได้มาขโมยของเล่นจากในร้านของเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงรีบไปที่ร้านขายของเล่นแห่งนั้น เมื่อไปถึง เธอก็เห็นว่าลูกชายของเธอสำนึกผิดและกำลังขอโทษเจ้าของร้านด้วยความจริงใจ เขาต้องการจ่ายเงินคืนให้กับเจ้าของร้าน แต่เขามีเงินไม่พอที่จะจ่ายค่าของเล่นชิ้นนั้น เธอรู้สึกสงสารและมองลูกชายด้วยความเมตตา และแน่นอนว่าเธอต้องช่วยให้ลูกชายได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อชดเชยความผิดที่เขาได้ทำ


             เมื่อลูกชายเห็นมารดา จึงหันมาหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะเขารู้ว่ามารดาของเขามีเงินพอที่จะจ่ายคืนให้กับเจ้าของร้านได้อย่างแน่นอน มารดาจึงพูดกับลูกชายว่า “ถ้าลูกสำนึกผิดในสิ่งที่ลูกได้ทำและปรารถนาจะชดใช้ในความผิดพลาดของลูก แม่จะช่วยจ่ายค่าของเล่นทั้งหมดที่ลูกต้องจ่ายให้กับเจ้าของร้าน แต่ลูกต้องไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ สวดภาวนาพร้อมกับแม่ก่อนนอนทุกคืนตลอดหนึ่งเดือนนี้ และไปเยี่ยมผู้ป่วย คนชรากับแม่ในวันอาทิตย์นี้ด้วย” ลูกชายรับปากว่าจะทำตามที่มารดาบอกทุกประการ และมารดาก็ทำตามที่ได้คุยกับลูก เธอได้ไปพูดคุยกับเจ้าของร้าน และจ่ายเงินค่าของเล่นที่ลูกชายของเธอได้หยิบไป เมื่อกลับถึงบ้าน ลูกชายของเธอก็ได้ทำตามที่ได้รับปากกับเธอไว้ทุกประการเช่นกัน

 

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน

          1. เด็กชายคนนั้นได้ทำอะไรและเขารู้สึกอย่างไร (เขาขโมยของเล่นจากร้านขายของเล่น–รู้สึกสำนึก เสียใจที่ได้ทำผิด ขอโทษเจ้าของร้านและพยายามจะจ่ายเงินให้ครบตามจำนวน)
          2. เมื่อมารดาของเด็กชายคนนั้นไปถึงร้าน เธอเห็นอะไรและรู้สึกอย่างไร (เธอเห็นว่าลูกชายของเธอกำลังขอโทษเจ้าของร้านอย่างสำนึกผิด เธอรู้สึกสงสารลูกชายของเธอ)
          3. มารดาบอกว่าจะช่วยลูกชาย โดยมีเงื่อนไขว่าลูกชายต้องทำสิ่งใด (สำนึกผิดในสิ่งที่ได้ทำและปรารถนาจะชดใช้ในความผิดพลาด จะต้องไปสารภาพบาปกับพระสงฆ์ สวดภาวนาพร้อมกับแม่ก่อนนอนทุกคืนในเดือนนี้และไปเยี่ยมผู้ป่วยและคนชรากับแม่ในวันอาทิตย์)
          4. หากมารดาของเด็กชายคนนั้นไม่ช่วย ลูกชายของเธอจะเป็นอย่างไร (ต้องรับโทษตามกฎหมาย)
          5. เมื่อได้ฟังเรื่องนี้แล้วผู้เรียนได้ข้อคิดอะไร (เมื่อเราทำผิดพลาด เราต้องยอมรับ ขอโทษและชดเชยความผิดที่เราได้กระทำ)
          6. เรื่องราวของเด็กชายคนนี้ตรงกับคำสอนของพระศาสนจักรเรื่องอะไร (การอภัยบาป/พระคุณการุณย์)


               สรุป เมื่อใดก็ตามที่ลูกทำผิด ผู้ที่เป็นพ่อแม่จะเป็นคนแรกที่พร้อมจะช่วยเหลือและให้อภัยลูกได้เสมอ เพื่อเปิดโอกาสในการสำนึก กลับตัวกลับใจ เริ่มต้นใหม่เช่นเดียวกัน “พระศาสนจักร” ซึ่งได้รับเรียกว่าเป็น “มารดา” ของเรา มีอำนาจจัดการและแจกจ่ายการชดเชยบาป ที่พระคริสตเจ้าและบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ได้สะสมไว้ ซึ่งเป็น “ขุมทรัพย์ของพระศาสนจักร” และได้มอบขุมทรัพย์นี้ให้กับคริสตชนทุกคน สามารถช่วยยกโทษของบาปสำหรับวิญญาณของตนและสามารถช่วยวิญญาณในไฟชำระได้ ซึ่งเราเรียกว่า “พระคุณการุณย์”

 

คำสอน                                                                                                                                                   

             1. โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 พระศาสนจักรผู้เป็นมารดาของเรา ได้มอบพระคุณการุณย์ตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อให้บรรดาสัตบุรุษได้รับพระคุณการุณย์ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้อย่างเกิดผลฝ่ายวิญญาณมากที่สุด (Spes Non Confundit 23)โดยผ่านทางพระสังฆราชประจำสังฆมณฑล สามารถมอบพระพรของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Blessing) พร้อมกับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ ซึ่งสัตบุรุษทุกคนสามารถรับพระพรได้ภายใต้เงื่อนไขปกติในช่วงเวลาปีศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสเฉลิมฉลองใหญ่ ในอาสนวิหารและในแต่ละวัดที่กำหนดไว้สำหรับปีศักดิ์สิทธิ์

 

             2. พระคุณการุณย์เป็นหนทางในการพบพระเมตตาของพระเจ้า เมื่อเราทำบาปจะมีผลของบาปตามมาด้วยสองประการ บาปหนัก จะทำให้เราสูญเสียความสัมพันธ์กับพระเจ้าและสูญเสียชีวิตนิรันดร ส่วน บาปเบา ก็ต้องรับการชำระในชีวิตนี้หรือหลังจากความตาย เพื่อเป็นการชดเชยบาปหรือความผิดที่ได้ทำไป ศีลอภัยบาปช่วยให้เราพ้นโทษนิรันดร แต่โทษชั่วคราวของบาปยังคงอยู่ คริสตชนที่สำนึกว่าตนเป็นคนบาปจึง “ทำพลีกรรม” เป็นการยอมรับ “โทษ” เพื่อชดเชยบาปของตน หากเขาชดเชยบาปได้หมดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อตายไป เขาก็จะได้รางวัลในสวรรค์ทันที แต่ถ้าหากยังชดเชยไม่หมด ก็จะต้องไปชดเชยในไฟชำระ ซึ่งตามปกติพระสงฆ์จะกำหนด“กิจใช้โทษบาป” อันเนื่องมาจากบาป แต่ว่าในปัจจุบันพระสงฆ์ไม่ได้กำหนด “โทษ” ที่คู่ควรกับบาป เพราะเห็นว่าผู้ที่มาสารภาพบาป ควรมีความสำนึกและพยายามทำพลีกรรมตามความสมัครใจเพื่อชดเชยบาป (เทียบ CCC 1472-1473) หากว่าเราใช้โทษบาปในโลกนี้หมด เรก็จะไปสวรรค์ แต่หากเราใช้โทษบาปในโลกนี้ไม่หมด เราก็ต้องใช้โทษบาปต่อไปในไฟชําระ

 

             3. พระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรมอบให้นี้ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ ช่วยให้พ้นจากโทษชั่วคราวทั้งหมด และพระคุณการุณย์บางส่วน ช่วยให้พันจากโทษชั่วคราวเพียงบางส่วน เราสามารถรับพระคุณการุณย์สำหรับตนเองหรืออุทิศให้แก่ผู้ล่วงลับก็ได้ แต่ไม่สามารถมอบให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ พระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ รับได้วันละหนึ่งครั้ง ส่วนพระคุณการุณย์บางส่วนรับได้วันละหลายครั้ง แต่ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 บรรดาสัตบุรุษที่ประกอบกิจแห่งความรักเพื่อวิญญาณในไฟชําระ ถ้าเขารับศีลมหาสนิทเป็นครั้งที่สองในวันนั้น ก็สามารถรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ได้สองครั้งในวันเดียวกัน ซึ่งครั้งที่สองนี้ สามารถอุทิศแก่ผู้ล่วงลับได้เท่านั้น

 

             4. เงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ จะต้องมีเจตนาที่จะรับพระคุณการุณย์ โดยเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจ รับศีลอภัยบาปและศีลมหาสนิท และสวดตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปา ด้วยบทข้าพเจ้าเชื่อ บทข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์ และปฏิบัติตามเงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามระเบียบการมอบพระคุณการุณย์ระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 สำนักงานศาลพระศาสนจักรเพื่อชีวิตภายใน ดังต่อไปนี้
                • การจาริกแสวงบุญไปที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่กําหนดไว้ พร้อมกับร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างศรัทธา
                • ร่วมวจนพิธีกรรม สวดพิธีกรรมทําวัตร เดินรูป 14 ภาค สวดสายประคํา หรือร่วมการประกอบพิธีศีลอภัยบาปแบบที่ 2 คือพิธีคีนดีสําหรับหลายคน โดยสารภาพบาปและรับการอภัยบาปทีละคน
                • เยี่ยมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่กําหนดไว้ ด้วยความศรัทธา พร้อมทั้งใช้เวลาพอสมควรเพื่อเฝ้าศีลมหาสนิทและรําพึงภาวนา จบด้วยการสวดบทข้าพเจ้าเชื่อ บทข้าแตพระบิดา และวอนขอพระนางมารีย์ (วันทามารีย์)
                • การทํากิจเมตตากรุณา เพื่อเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังที่เป็นรูปธรรมโดยการ ทํากิจเมตตาฝ่ายกายและกิจเมตตาฝ่ายจิต ซึ่งสามารถทําซ้ำได้หลายครั้งและได้รับพระคุณการุณย์แต่ละครังในทุกวัน
                • ทำกิจใช้โทษบาปในวันศุกร์ เว้นจากการบริโภคอย่างฟุ่มเฟือย บริจาคทานแก่คนยากจน
                • เข้าเงียบ หรือศึกษาคำสอนของสังคายนาวาติกันที่ 2

 

             5. ศีลอภัยบาป เป็นของประทานอันงดงามที่พระเจ้าประทานให้เรา ให้เราก้าวเดินไปหาพระเจ้าให้พระองค์ลบล้างบาปของเรา รักษาใจเรา เลี้ยงดูเราและโอบกอดเราด้วยพระพักตร์อันอ่อนโยน และพระเมตตาของพระองค์เราจึงควรไปสารภาพบาป ทำกิจใช้โทษบาปอย่างตั้งใจ และทำกิจเมตตาตามที่พระศาสนจักรกำหนด เพื่อรับพระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรมอบให้ในโอกาสพิเศษนี้ และเมื่อพระเจ้าทรงอภัยให้เรา เราก็จำเป็นที่จะต้องอภัยแก่ผู้อื่นด้วย การให้อภัยมิได้เปลี่ยนแปลงอดีตและไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ แต่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคต ทำให้ชีวิตของเราแตกต่างออกไป คือชีวิตที่ปราศจากความโกรธ ความเกลียดชัง การให้อภัยทำให้อนาคตสดใสและทำให้เรามองอดีตด้วยสายตาที่แตกต่างมีความสงบมากขึ้น (Spes Non Confundit 23)

 

ก. ข้อควรจำ                   
            1. “พระคุณการุณย์” คือการยกโทษชั่วคราวสำหรับบาปที่ได้รับอภัยความผิดแล้ว เพื่อจะรับพระคุณการุณย์ คริสตชนจะต้องเตรียมตัวอย่างเหมาะสม และจะต้องทำตามเงื่อนไขเฉพาะที่ระบุไว้ให้สำเร็จ “เราสามารถรับพระคุณการุณย์ได้สำหรับตนเอง หรืออุทิศแก่ผู้ล่วงหลับก็ได้”
            2. เงื่อนไขการรับพระคุณการุณย์ จะต้องมีเจตนาที่จะรับพระคุณการุณย์ โดยเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างจริงใจ รับศีลอภัยบาปและรับศีลมหาสนิท สวดตามพระประสงค์ของสมเด็จพระสันตะปาปาด้วยสวดบทข้าพเจ้าเชื่อ บทข้าแต่พระบิดา วันทามารีย์
            3. กิจการที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อรับพระคุณการุณย์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 คือการจาริกแสวงบุญไปที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่กําหนดไว้ พร้อมกับร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณอย่างศรัทธา เดินรูป 14 ภาคสวดสายประคํา
            4. ศีลอภัยบาป เป็นของประทานอันงดงามที่พระเจ้าประทานให้เรา ให้เราก้าวเดินไปหาพระเจ้าให้พระองค์ลบล้างบาปของเรา รักษาใจเรา เลี้ยงดูเรา และโอบกอดเราด้วยพระพักตร์อันอ่อนโยนและพระเมตตาของพระองค์
            5. เราควรไปสารภาพบาป ทำกิจใช้โทษบาปอย่างตั้งใจ และทำกิจเมตตาตามที่พระศาสนจักรกำหนด เพื่อรับพระคุณการุณย์ที่พระศาสนจักรมอบให้ในโอกาสพิเศษนี้
            6. เมื่อพระเจ้าทรงอภัยให้เรา เราจำเป็นที่จะต้องอภัยแก่ผู้อื่นด้วย การให้อภัยมิได้เปลี่ยนแปลงอดีตและไม่สามารถแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ แต่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงอนาคต ทำให้ชีวิตของเรามีความสงบมากขึ้น

 

ข. กิจกรรม  เขียนคำอธิษฐานขอภัยบาปของฉัน                     

 อุปกรณ์ บทสารภาพบาปของฉัน

ดำเนินการ
            1. พูดคุยกับผู้เรียน เกี่ยวกับความสำคัญของการขอการอภัยจากพระเจ้า เมื่อเราทำสิ่งที่เป็นความผิดต่อความรัก ต่อพระเจ้า ต่อตนเองและต่อผู้อื่น
            2. กระตุ้นให้ผู้เรียนเข้าใจ ถึงเวลาที่พวกเขาต้องการอภัยจากคุณครู ผู้ใหญ่ ครอบครัวหรือเพื่อน ๆ บอกผู้เรียนว่า..บาปได้ตัดความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับพระเจ้า แต่พวกเขาสามารถเขียน “คำอธิษฐานขออภัยโทษจากพระเจ้าได้” ด้วยคำพูดของตนเอง
            3. ให้ผู้เรียนเริ่มต้นเขียน “บทสารภาพบาปของฉัน” ด้วยการทำสำคัญมหากางเขนและเชิญพระเยซูเจ้ามาประทับอยู่กับพวกเขา และเขียนคำอธิษฐานขออภัยโทษของพระเจ้า ลงในใบงานบทสารภาพบาป

 

ค. การบ้าน               ให้ผู้เรียนกลับไปสวดบทแสดงความทุกข์

บทเสดงความทุกข์

ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าเป็นทุกข์เสียใจที่ได้ทำบาป
เพราะบาปเรียกร้องการลงโทษ
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบาปทำเคืองพระทัยพระองค์
ผู้ทรงความดีและทรงสมควรได้รับความรักจากมนุษย์ทั้งมวล
เดชะพระหรรษทานช่วย ข้าพเจ้าตั้งใจแน่วแน่ว่า จะไม่ทำบาปอีกเลย
จะหลีกหนีโอกาสบาปและจะพยายามใช้โทษบาป
โปรดทรงพระกรุณาอภัยบาปแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด อาแมน

 

       ::: Download บทเรียนที่ 19 ::

 

 

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน