ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

 พระนางมารีย์: ผู้ร่วมในแผนการของพระเจ้า

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 18
พระนางมารีย์: ผู้ร่วมในแผนการของพระเจ้า

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
       1. รู้จักเรื่องราวและบทบาทของพระนางมารีย์ ผู้เป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า
       2. เข้าใจถึงแผนการของพระเจ้าในชีวิตของตน โดยยึดแบบอย่างจากชีวิตของพระนางมารีย์
       3. ดำเนินชีวิตตามแบบอย่างพระนางมารีย์และตอบรับพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยความเชื่อเสมอ

กิจกรรม  
เด็กเล็ก “เรียงให้ถูก”

อุปกรณ์     1. บัตรคำบทวันทามารีย์              2. ซองจดหมายสำหรับใส่บัตรคำ
                  3. กริ่งหรือนกหวีดให้สัญญาณ     4. รางวัลสำหรับกลุ่มที่ชนะ

ดำเนินการ
   1. ผู้สอนจัดเตรียมบัตรคำบทวันทามารีย์ โดยพิมพ์ใส่กระดาษ A4 สี แบบอ่อน (อาจพิมพ์คละสีกันเพื่อแยกได้ง่าย) ตัดออกเป็นคำและแยกใส่ซองไว้เป็นชุด ๆ หากสะดวกควรเคลือบด้วยพลาสติกหรือสติ๊กเกอร์ใส เพื่อเก็บรักษาไว้ใช้ต่อไปได้
                   2. ผู้สอนแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 2-3 คน แจกบัตรคำบทวันทามารีย์ให้ผู้เรียนกลุ่มละ 1 ชุด เมื่อผู้สอนให้สัญญาณเริ่ม ให้ผู้เรียนเรียงบทวันทามารีย์ให้ถูกต้อง มีเวลา 2 นาที กลุ่มใดเรียงเสร็จก่อนให้ปรบมือ 3 ครั้ง พร้อมกับพูดพร้อมกันว่า วันทามารีย์
                   3. ผู้สอนตรวจสอบความถูกต้อง กลุ่มใดเรียงถูกต้องและไม่เกินเวลาถือเป็นผู้ชนะ ผู้สอนเตรียมรางวัลให้สำหรับผู้ที่ชนะ

เด็กโต “เขียนให้ถูก”
อุปกรณ์       1. กระดาษ A4 ที่ใช้แล้ว 1 หน้า ตามจำนวนกลุ่มของผู้เรียน          2. ปากกา/ดินสอ
                   3. กริ่งหรือนกหวีดให้สัญญาณ            4. รางวัลสำหรับกลุ่มที่ชนะ

วิธีการ
1. ผู้สอนแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ให้ยืนเป็นแถวตอนลึกตามกลุ่มตนเอง
2. ผู้สอนนำกระดาษ A4 และปากกา/ดินสอ วางไว้ตรงข้ามกับแต่ละกลุ่ม ระยะห่างแล้วแต่ความเหมาะสมของสถานที่
3. เมื่อผู้สอนให้สัญญาณเริ่ม ผู้เรียนคนที่ 1 ของแต่ละกลุ่มวิ่งไปเขียนบทวันทามารีย์ลงในกระดาษ ผู้สอนให้สัญญาณอีกครั้ง คนที่ 1 วิ่งกลับมาต่อท้ายแถวกลุ่มของตนเอง คนที่ 2 ก็วิ่งไปเขียนต่อ และคนที่ 3-5 ตามลำดับ ทำเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ระยะเวลาในการเขียนของแต่ละคนและเวลาในการทำกิจกรรมนี้ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้สอน กลุ่มใดเขียนจบบทก่อน ให้มานั่งเป็นแถวตอนลึกให้เรียบร้อย พร้อมกับพูดพร้อมกันว่า วันทามารีย์
4. เมื่อเขียนเสร็จครบทุกกลุ่มหรือเมื่อหมดเวลา ผู้สอนตรวจสอบความถูกต้อง กลุ่มใดเขียนเสร็จก่อนและถูกต้องที่สุด ถือเป็นกลุ่มที่ชนะ ผู้สอนเตรียมรางวัลให้สำหรับกลุ่มที่ชนะ

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน           
            1. กลุ่มที่ชนะรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, สนุก, ตื่นเต้น)
            2. ผู้เรียนคิดว่าเพราะอะไร กลุ่มเราถึงชนะ (ท่องได้, สวดเป็นประจำ, มีความว่องไว, พยายามช่วยกัน)
            3. ในแต่ละวันผู้เรียนสวดบทวันทามารีย์บ่อยหรือไม่ เวลาใดบ้าง (ให้ผู้เรียนยกมือตอบ)
            4. ผู้เรียนทราบหรือไม่ว่า เราสวดบทวันทามารีย์ เป็นการเอ่ยถึงใคร (แม่พระ, พระนางมารีย์)
            5. ผู้เรียนรู้จักเรื่องราวของพระนางมารีย์บ้างหรือไม่ (ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบ)

                 สรุป บทวันทามารีย์เป็นบทภาวนาที่สั้น จดจำง่าย เป็นบทภาวนาบทแรก ๆ ที่คริสตชนส่วนใหญ่สามารถท่องได้ สวดได้ และเป็นบทภาวนาที่สวดกันบ่อยที่สุด เพราะเราจะถูกสอนกันต่อ ๆ มาจากรุ่นสู่รุ่น ให้พึ่งพาพระแม่และภาวนาวิงวอนหาพระแม่เสมอในชีวิตประจำวันของเรา

 

คำสอน                                                

               1. เพจเฟสบุ๊กที่ชื่อว่า “Little Monster” เป็นเพจที่นำเสนอเรื่องราวของการเป็นแม่และประสบการณ์ต่าง ๆ ในการอบรมเลี้ยงดูลูก ซึ่งมีผู้คนให้ความสนใจและติดตามกันมากถึง 4 ล้านคน เมื่อปี ค.ศ. 2016 เขาได้ให้คำนิยามคำว่า “มนุษย์แม่” เพื่อให้ผู้คนสามารถเข้าใจได้ง่ายจึงขอหยิบยกบางข้อที่น่าสนใจมานำเสนอ เช่น “มนุษย์แม่เป็นผู้หญิงธรรมดา ที่มีความอดทนระดับทีมชาติ ทันทีที่คลอดลูกออกมา”“มนุษย์แม่เป็นมนุษย์ที่ตื่นก่อนนอนหลังสุดเสมอ” “มนุษย์แม่เน้นแต่งตัวเรียบง่ายแต่มาเยอะเรื่องลูก” “มนุษย์แม่กลัวตายเป็นพิเศษ แต่สามารถตายแทนลูกได้” เป็นต้น จากคำนิยามเหล่านี้บ่งบอกได้ว่า การเป็นมนุษย์แม่ไม่ได้สะดวกสบายนัก แต่การเป็นมนุษย์แม่มีความสุขเมื่อได้เลี้ยงลูก ได้อยู่กับลูก ซึ่งมีผู้หญิงอีกมากมายที่อยากจะมีโอกาสได้เป็นมนุษย์แม่ จากประสบการณ์ต่างบอกเล่ากันว่า การคลอดลูกจะต้องเจ็บปวดทรมาน แต่เมื่อได้เห็นหน้าลูก ความเจ็บปวดก็หายไป การดูแลลูกแม้จะต้องเหนื่อย อดนอน อดทน แต่ได้ทำเพื่อลูก แม่พร้อมและมีความสุขเสมอ เช่นเดียวกันกับสตรีท่านหนึ่ง ซึ่งไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าวันหนึ่งจะได้รับเลือกสรรให้เป็นแม่ และไม่ใช่แม่ธรรมดา แต่เป็นแม่ของพระเยซูเจ้า หญิงคนนั้นก็คือ พระนางมารีย์

              2. พระนางมารีย์ กำเนิดและเติบโตขึ้นในหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อว่านาซาเร็ธเป็นบุตรสาวของนักบุญยออากิมและนักบุญอันนา ชื่อมาจากภาษาฮีบรูแปลว่า “ผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน” พระนางมารีย์ถวายตัวแด่พระเจ้า โดยตั้งใจจะถือพรหมจรรย์ เมื่อเติบโตขึ้นพระนางหมั้นกับชายชื่อโยเซฟ เรื่องราวของพระนางมารีย์มีบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญลูกาเริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่ทูตสวรรค์ แจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูเจ้าทูตสวรรค์กล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตกับท่าน” เมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางก็ทรงวุ่นวายพระทัยไม่เข้าใจในคำทักทาย แต่ทูตสวรรค์กล่าวว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลยท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์ และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง... บุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าเป็นบุตรของพระเจ้า เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้” พระนางมารีย์ตรัสตอบกับทูตสวรรค์ว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (เท่ียบ ลก. 1:28-38) จากประโยคนี้เอง พระนางตอบรับการเรียกของพระเจ้า น้อมรับภารกิจสำคัญและพิเศษที่พระเจ้าทรงเลือกสรรท่าน ให้มีส่วนร่วมในแผนการแห่งความรอดพ้นตามพระสัญญาในการเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า

             3. จากการตอบรับภารกิจสำคัญที่พระเจ้าได้ทรงมอบหมาย ชีวิตของพระนางมารีย์ก็แสดงออกถึงการเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้าอย่างแท้จริง เมื่อทราบว่านางเอลีซาเบธ ญาติของพระนางตั้งครรภ์ในขณะที่ชรามากแล้ว พระนางรีบออกเดินทางไปเยี่ยม เมื่อเสด็จเข้าไปในบ้านทรงกล่าวคำทักทายนางเอลีซาเบธ บุตรในครรภ์ก็ดิ้น นางเอลีซาเบธได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ร้องเสียงดังว่า “เธอได้รับพระพรยิ่งกว่าหญิงใด ๆ และลูกของเธอก็ได้รับพระพรด้วย...” (เทียบ ลก. 1:39-56) จากเหตุการณ์นี้แสดงออกถึงความเอื้ออาทร ความห่วงใย และการใส่ใจความต้องการที่พระนางมารีย์มีต่อนางเอลีซาเบธ หลังจากนี้พระนางมารีย์ได้ทำหน้าที่ในการเป็นมารดาอย่างเต็มที่ ตามเรื่องราวการประสูติของพระเยซูเจ้า ตั้งแต่ออกเดินทางไปลงทะเบียนสำรวจสำมโนประชากรในขณะทรงพระครรภ์และถึงกำหนดที่จะมีพระประสูติกาล และเมื่อพระนางประสูติพระโอรส พระนางก็ทำหน้าที่ในการเป็นมารดาอย่างดีด้วยการดูแลพระเยซูเจ้าร่วมกับนักบุญโยเซฟ ตามแผนการต่าง ๆ ที่พระเจ้าทรงมอบหมายให้ในบทเรียนเรื่องนักบุญโยเซฟที่เราได้ศึกษาไปจนถึงเวลาที่พระเยซูเจ้าเริ่มออกเทศนาสั่งสอน ในพระคัมภีร์มีบันทึกถึงพระนางมารีย์ไม่มากนัก แต่เหตุการณ์สำคัญ ๆ ก็จะพบพระนางเสมอ

             4. ในงานมงคลสมรสที่หมู่บ้านคานา พระนางมารีย์อยู่ในงานนั้นด้วย พระนางแสดงออกถึงความห่วงใยและคอยสังเกตความต้องการของผู้อื่น พระนางสังเกตว่าเหล้าองุ่นกำลังจะหมด จึงทูลพระเยซูเจ้าว่า “เขาไม่มีเหล้าองุ่นแล้ว” และกล่าวกับบรรดาผู้รับใช้ว่า “เขาบอกให้ท่านทำอะไรก็จงทำเถิด” เหตุการณ์นี้พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำให้เป็นเหล้าองุ่นอย่างดี ทรงกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ครั้งแรก (เทียบ ยน. 2:1-11) พระเยซูเจ้าทรงกระทำภารกิจเทศนาสั่งสอนอีกมากมายเป็นเวลา 3 ปี เราพบกับพระนางมารีย์อีกครั้งในการร่วมเดินทางพร้อมกับพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ณ เชิงไม้กางเขน พระมารดาทรงยืนอยู่ข้างไม้กางเขน เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเห็นพระมารดาและศิษย์ที่รักยืนอยู่ใกล้ ๆ จึงตรัสกับพระมารดาว่า “แม่ นี่คือลูกของแม่” แล้วตรัสกับศิษย์ผู้นั้นว่า “นี่คือแม่ของท่าน” ตั้งแต่เวลานั้น ศิษย์ผู้นั้นก็รับพระนางเป็นมารดาของตน ซึ่งเป็นเครื่องหมายยืนยันว่าพระนางมารีย์เป็นมารดาของเราทุกคนด้วย (เทียบ ยน. 19:25-27) พระนางมารีย์ทรงกระทำหน้าที่ของการเป็นมารดาเสมอ แม้กระทั่ง หลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ไปแล้ว บรรดาอัครสาวกรวมกันยังห้องชั้นบน ทุกคนร่วมกันอธิษฐานภาวนาสม่ำเสมอเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันพร้อมกับบรรดาสตรีรวมทั้งพระนางมารีย์ เมื่อถึงวันเปนเตกอสเต ทุกคนมาชุมนุมในสถานที่เดียวกัน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมและเริ่มพูดภาษาอื่น ๆ ถือเป็นวันเริ่มต้นพระศาสนจักร (เทียบ กจ. 1:12-14, 2:1-4)

             5. พระนางมารีย์ ทรงทำให้การยอมรับความเชื่อเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ที่สุด พระนางทรงรับข่าวสารและพระสัญญาที่ทูตสวรรค์กาเบรียลนำมาแจ้งให้ทราบ ด้วยความเชื่อและทรงน้อมรับพระประสงค์ เพราะความเชื่อนี้เอง ชนทุกสมัยจะกล่าวว่าพระนางเป็นสุข พระนางมารีย์ไม่เคยหยุดเชื่อเลยว่าพระวาจาของพระเจ้าจะต้องสำเร็จเป็นจริง เพราะเหตุนี้ พระศาสนจักรจึงให้ความเคารพนับถือพระนางมารีย์ ว่าทรงเป็นผู้ทำให้ความเชื่อเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ (คำสอนพระศาสนจักร ข้อ 148-149) ในการน้อมรับเป็นเครื่องมือรับใช้พระเจ้าของพระนางมารีย์นี้ พระนางดำเนินตามภารกิจที่พระเจ้าทรงมอบให้อย่างนอบน้อมและอดทน แม้จะต้องทุกข์ยากลำบากก็ทุ่มเทจนสุดจิตใจ จากชีวิตของพระนางนี้เองทำให้พระนางได้รับพระพรแห่งความรอดเป็นบุคคลแรกพระศาสนจักรได้ประกาศรับรองข้อความเชื่อถึงพระนางมารีย์ว่า ท่านทรงเป็นพระมารดาพระเจ้าเป็นพรหมจารีเสมอ เป็นผู้ปฏิสนธินิรมล และได้รับเกียรติสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ขอให้เราได้เลียนแบบพระนางมารีย์ในความเชื่อและไว้วางใจ ยินดีสละน้ำใจตนเองและยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต นอบน้อมที่จะปฏิบัติตาม แม้จะมีอุปสรรคหรือต้องพบเจอกับความยากลำบากและหมั่นสวดภาวนาวิงวอนพระแม่เสมอ ด้วยบทวันทามารีย์และการสวดสายประคำ เพื่อพระแม่จะได้เสนอวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อเรา

 

ก. ข้อควรจำ
        1. พระนางมารีย์ เป็นบุตรสาวของนักบุญยออากิมและนักบุญอันนา ชื่อ “มารีย์” มาจากภาษาฮีบรู แปลว่า“ผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน” พระนางถวายตัวแด่พระเจ้า โดยตั้งใจจะถือพรหมจรรย์
        2. “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” (ลก. 1:38) พระนางตอบรับการเรียกของพระเจ้า น้อมรับภารกิจสำคัญและพิเศษที่พระเจ้าทรงเลือกสรรท่านให้มีส่วนร่วมในแผนการแห่งความรอดพ้นในการเป็นพระมารดาของพระเยซูเจ้า
        3. พระนางมารีย์ไม่เคยหยุดเชื่อ ว่าพระวาจาของพระเจ้าจะต้องสำเร็จเป็นจริง เพราะเหตุนี้ พระศาสนจักรจึงให้ความเคารพนับถือพระนางมารีย์ว่าทรงเป็นผู้ทำให้ความเชื่อเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ (คำสอนพระศาสนจักรข้อ 149)
        4. พระศาสนจักรได้ประกาศรับรองข้อความเชื่อถึงพระนางมารีย์ว่าทรงเป็นพระมารดาพระเจ้า เป็นพรหมจารีเสมอ เป็นผู้ปฏิสนธินิรมล และได้รับเกียรติสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
        5. ขอให้เราได้เลียนแบบพระนางมารีย์ในความเชื่อและไว้วางใจ ยินดีสละน้ำใจตนเอง และยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้ามาเป็นอันดับหนึ่งในชีวิต นอบน้อมที่จะปฏิบัติตามแม้จะมีอุปสรรคหรือต้องพบเจอกับความยากลำบาก
        6. ให้เราจะได้หมั่นสวดภาวนาวิงวอนพระแม่เสมอ ด้วยบทวันทามารีย์ และสวดสายประคำเพื่อพระแม่จะได้เสนอวิงวอนต่อพระเจ้าเพื่อเรา

ข. กิจกรรม    "ภาวนากับแม่”

เพลง “ใครรักเท่าแม่” (ส.ดำเนินสดวก)
1. แม่รักลูกยิ่งสิ่งใด ลูกวอนขออะไรแม่ให้ดังปรารถนา
ชีวิตแม่พลีได้ทุกเวลา ใครเล่าหนารักเราเท่าแม่รักเอย
2. โอ้แม่มารีย์ยอดสตรีเหนือใครทั้งปวง พระแม่ทรงเป็นห่วงเหล่าพวกลูกที่อ่อนแอ
แม้มีศัตรูร้ายจู่โจมคอยรังแก ไม่ผันแปรโอ้พระแม่คอยช่วยเรา
3. โอ้แม่มารีย์ราชินีของชาวคริสตัง พระแม่เป็นพลังหนุนนำให้ลูกทำดี
จึงขอสรรเสริญเทิดเทินพระแม่มารีย์ ลูกยินดีฉลองพระนามในวันนี้เอย
4. แม่ขอให้ลูกอย่าทำความชั่ว บาปเมามัวอย่าได้กลัวสู้มัน
อย่าหนีจงสู้สุดชีวัน แม่เป็นประกันบาปมันจะพ่ายแพ้เอย


อุปกรณ์   1. ดอกไม้ คนละ 1 ดอก
                2. พิมพ์เนื้อเพลงตามจำนวนผู้เรียน
                3. คอมพิวเตอร์/ลำโพงบลูทูธ

วิธีการ       1. ให้ผู้เรียนเตรียมดอกไม้มาจากบ้าน คนละ 1 ดอก เพื่อนำมาถวายแด่แม่พระ เป็นดอกอะไรก็ได้ตามที่สะดวกหากบริเวณบ้านมีอยู่ก็สามารถนำมาได้ จะได้ไม่ต้องซื้อ
                 2. ผู้สอนพาผู้เรียนไปที่วัดหรือถ้าในโรงเรียนไม่มีวัด ให้ไปที่หน้ารูปปั้นแม่พระ และนำผู้เรียนสวดบทวันทามารีย์10 บท (หากเวลาไม่พอผู้สอนพิจารณาตามความเหมาะสม)
                 3. หลังจากภาวนาจบ ให้ผู้เรียนแต่ละคนนำดอกไม้ที่เตรียมมาไปถวายให้แม่พระด้วยความสำรวม ช่วงที่ถวายดอกไม้ให้เปิดเพลง “ใครรักเท่าแม่” สำหรับเด็กโตให้ช่วยกันร้อง เพื่อเป็นการสรรเสริญแม่พระ โดยผู้สอนหาเวลาซ้อมร้องเพลงกับผู้เรียนมาก่อน
                 4. ผู้สอนเน้นย้ำให้ผู้เรียนไหว้แสดงความเคารพต่อแม่พระเมื่อเดินผ่านรูปปั้น หรือหากมีเวลาเชิญชวนให้มาสวดภาวนาขอพรแม่พระเสมอ ๆ

ค. การบ้าน              

      - อ่านใบความรู้เรื่องพระนางมารีย์ เพิ่มเติม
- ให้ผู้เรียนกลับไปเล่าเรื่องราวของพระนางมารีย์ ให้สมาชิกในครอบครัวฟัง และเชิญชวนให้ทุกคนมาสวดสายประคำร่วมกัน

       ::: Download  บทเรียนที่ 18 ::

 

 พระนางมารีย์

 พระนางมารีย์: ผู้ร่วมในแผนการของพระเจ้า

(ลูกา 1:26-56, 2:1-52, ยอห์น 19:25-30, กิจการฯ 1:12-14, 2:1-47)

 

              พระนางมารีย์ เป็นบุตรสาวของนักบุญยออากิมและนักบุญอันนา มาจากภาษาฮีบรูแปลว่า “ผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน” พระนางมารีย์ถวายตัวแด่พระเจ้าโดยตั้งใจจะถือพรหมจรรย์ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งพระนางมารีย์ได้หมั้นกับชายชื่อ “โยเซฟ” ซึ่งสืบเชื้อสายมาจากตระกูลดาวิด เรื่องราวพระนางมารีย์มีบันทึกไว้ในพระวรสารนักบุญลูกา เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์ที่ทูตสวรรค์แจ้งข่าวการประสูติของพระเยซูเจ้า (ลก. 1:26-37)

 

               เมื่อนางเอลีซาเบธตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว พระเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์กาเบรียลมายังเมืองหนึ่งในแคว้นกาลิลีชื่อนาซาเร็ธ มาพบหญิงพรหมจารีคนหนึ่ง ซึ่งหมั้นอยู่กับชายชื่อโยเซฟในราชวงศ์ของกษัตริย์ดาวิด หญิงพรหมจารีผู้นั้นชื่อมารีย์ ทูตสวรรค์เข้าในบ้านกล่าวกับพระนางว่า “จงยินดีเถิด ท่านผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน พระเจ้าสถิตอยู่กับท่าน” เมื่อทรงได้ยินถ้อยคำนี้ พระนางมารีย์ทรงวุ่นวายพระทัยมาก ทรงถามพระองค์เองว่า คำทักทายนี้หมายความว่ากระไร แต่ทูตสวรรค์กล่าวแก่พระนางว่า “มารีย์ อย่ากลัวเลย ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน ท่านจะตั้งครรภ์และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง ท่านจะตั้งชื่อเขาว่าเยซู เขาจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่และพระเจ้า ผู้สูงสุดจะทรงเรียกเขาเป็นบุตรของพระองค์ พระเจ้าจะประทานพระที่นั่งของกษัตริย์ดาวิดบรรพบุรุษให้แก่เขา เขาจะปกครองวงศ์ตระกูลของยาโคบตลอดไปและพระอาณาจักรของเขาจะไม่สิ้นสุดเลย” พระนางมารีย์จึงทรงถามทูตสวรรค์ว่า “เหตุการณ์นี้จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะข้าพเจ้าตั้งใจจะเป็นพรหมจารี” ทูตสวรรค์ตอบว่า “พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และพระอานุภาพของพระผู้สูงสุดจะแผ่เงาปกคลุมท่าน เพราะฉะนั้นบุตรที่เกิดมาจะเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์และจะรับนามว่าบุตรของพระเจ้า ดูซิ เอลีซาเบธ ญาติของท่านทั้งที่ชราแล้ว ก็ยังตั้งครรภ์บุตรชาย ใคร ๆ คิดว่านางเป็นหมัน แต่นางก็ตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว เพราะไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าจะทรงกระทำไม่ได้” พระนางมารีย์จึงตรัสว่า “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่านเถิด” แล้วทูตสวรรค์ก็จากพระนางไป

 

              เราได้เห็นความเอื้ออาทร การสังเกตความต้องการและให้การช่วยเหลือคนอื่น การคิดถึงคนที่ยากลำบากกว่าของพระนางมารีย์ เพราะหลังจากที่ทรงทราบว่า นางเอลีซาเบธ ญาติของเธอที่ชรามากแล้วตั้งครรภ์ พระนางก็รีบออกเดินทางไปและอยู่ช่วยเหลือประมาณสามเดือน เมื่อครบกำหนดที่นางเอลีซาเบธคลอด พระนางมารีย์จึงเสด็จกลับ (เทียบ ลก. 1:38-57) และในอัศจรรย์แรกของพระเยซูเจ้าในงานสมรส ณ หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี พระนางมารีย์ได้รับเชิญไปในงานเลี้ยงนั้นพร้อมกับพระเยซูเจ้าแบะบรรดาศิษย์ พระนางสังเกตว่าเหล้าองุ่นในงานเลี้ยงหมด จึงบอกพระเยซูเจ้าให้ทรงทราบ และพระนางมารีย์ยังกล่าวแก่บรรดาคนรับใช้ด้วยว่า พระเยซูเจ้าทรงให้ทำอะไรก็จงทำตามนั้น ที่สุด พระเยซูเจ้าทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่นอย่างดี มาเลี้ยงบรรดาแขกในงาน (เทียบ ยน. 2:1-11)

 

              ไม่ใช่แค่นั้น พระนางอยู่ร่วมกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตของพระเยซูเจ้าตลอดมา รวมถึงการร่วมเดินทางไปพร้อมกับพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้าและที่แทบเชิงกางเขน (เทียบ ยน. 19:25-30) การอยู่ท่ามกลางบรรดาศิษย์ในฐานะแม่ หลังจากพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ และการเริ่มต้นพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในเหตุการณ์วันพระจิตเจ้าเสด็จมา (กจ. 1:12-14, 2:1-47) การที่พระนางมารีย์น้อมรับการเป็นเครื่องมือของพระเจ้า ในการประทานพระพรแห่งความรอดพ้นของพระองค์แก่มนุษย์ ด้วยการตอบรับที่จะร่วมมือดำเนินการตามภารกิจ ที่พระเจ้าทรงมอบแก่พระนางอย่างนอบน้อมด้วยความเชื่ออย่างล้นเหลือ และพระนางได้เจริญชีวิตตามความเชื่อนี้อย่างทุ่มเทจนสุดจิตสุดใจไม่มีที่ติ และเป็นความจริงที่ว่า พระนางได้น้อมรับสภาพมนุษย์นี้พร้อมทั้งภาระหน้าที่ความเป็นแม่ด้วยอาศัยความนบนอบอย่างสิ้นเชิงต่อพระเจ้าและต่อพระบุตร ทำให้พระนางได้รับพระพรแห่งความรอดเป็นบุคคลแรก

 

 

 

 

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน