บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 17
นักบุญโยเซฟ: บุรุษผู้ชอบธรรม

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
       1. รู้จักเรื่องราวและบทบาทของนักบุญโยเซฟจากในพระวรสาร
       2. ตระหนักถึงความสำคัญในการดำเนินชีวิตเป็นผู้มีคุณธรรมเช่นเดียวกับนักบุญโยเซฟ
       3. นำคุณธรรมและแบบอย่างจากชีวิตของนักบุญโยเซฟมาปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน

กิจกรรม   “แฟนพันธุ์แท้นักบุญโยเซฟ”

อุปกรณ์     1. คำถามเกี่ยวกับนักบุญโยเซฟ (ดูท้ายบทเรียน)           
                  2. กริ่งหรือนกหวีดให้สัญญาณ
                  3. กระดาษ A4 ที่ใช้แล้ว 1 หน้า ตามจำนวนกลุ่มของผู้เรียน กลุ่มละ 10 แผ่น
                  4. ปากกาเคมีหรือปากกาเมจิกตามจำนวนกลุ่ม
                  5. รางวัลสำหรับกลุ่มที่ชนะ

ดำเนินการ   1. ผู้สอนแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน ดูตามความเหมาะสม
                    2. ให้ผู้เรียนนั่งลงเป็นกลุ่ม แจกปากกาให้กลุ่มละ 1 แท่ง และกระดาษ A4 กลุ่มละ 10 แผ่น
                    3. ผู้สอนถามคำถามเกี่ยวกับนักบุญโยเซฟ ทั้งหมด 10 ข้อ (เด็กเล็กอ่านตัวเลือก แต่เด็กโตให้ตอบเองโดยไม่ต้องอ่านตัวเลือก) เมื่อผู้สอนอ่านคำถามจบในแต่ละข้อ ให้เวลาปรึกษากัน ข้อละ 30 วินาที โดยให้แต่ละกลุ่มเขียนคำตอบลงบนกระดาษ A4 ตัวใหญ่ ๆ เห็นชัด ๆ เขียนแล้วห้ามแก้ไข เมื่อครบ 30 วินาที ผู้สอนให้สัญญาณ ทุกกลุ่มต้องยกกระดาษคำตอบขึ้นให้ทุกคนในห้องเห็น หากกลุ่มใดช้าหรือมีการแก้ไขคำตอบจะไม่ได้คะแนน
                    4. ผู้สอนเฉลยคำตอบแต่ละข้อทันทีก่อนถามคำถามข้อต่อไป กลุ่มใดที่ตอบถูกเขียนคะแนนขึ้นบนกระดาน สะสมคะแนนไว้จนครบ 10 ข้อ กลุ่มใดได้คะแนนมากที่สุดเป็นผู้ชนะ ถือว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้นักบุญโยเซฟ ผู้สอนเตรียมรางวัลให้สำหรับกลุ่มที่ชนะ

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
             1. กลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุด รู้สึกอย่างไร (ดีใจ, ตื่นเต้น, เฉย ๆ)
             2. กลุ่มที่ได้คะแนนมากที่สุด คิดว่าเพราะอะไรถึงตอบคำถามเกี่ยวกับนักบุญโยเซฟได้ (เคยอ่าน, เคยได้ยินมา,เคยเรียนเรื่องราวของนักบุญโยเซฟ, ตอบแบบเดา ๆ ฯลฯ)
             3. เรื่องราวชีวิตของนักบุญโยเซฟน่าสนใจหรือไม่ ผู้เรียนสนใจหรือจดจำเรื่องใดได้เป็นพิเศษ (ให้ผู้เรียนได้ลองช่วยกันเล่า)

                 สรุป เรารู้จักนักบุญโยเซฟ บุรุษผู้ชอบธรรม เพราะท่านเป็นบิดาเลี้ยงของพระเยซูเจ้า และเป็นภัสดาของพระนางมารีย์มากไปกว่านั้น ชีวิตของท่านต้องเผชิญกับเรื่องราวมากมาย ตั้งแต่วันที่ทูตสวรรค์มาแจ้งเรื่องพระนางมารีย์จะตั้งครรภ์ โดยอาศัยความเชื่อและความรักต่อพระเจ้า ทำให้ท่านสามารถผ่านเหตุการณ์ต่าง ๆ ไปได้ เรื่องราวของท่านน่าสนใจยิ่งนักเราจะมารู้จักเรื่องราวของนักบุญโยเซฟในบทเรียนนี้กัน

คำสอน                                                

             1. เชื่อว่าเด็กทุกคน มักจะโดนถามว่าโตขึ้นฝันอยากเป็นอะไร ความฝันจึงเป็นเหมือนภาพในอุดมคติที่หลายคนนึกถึง อยากจะเป็นและอยากจะทำ ฝันอยากมีบ้านสวย ๆ ได้ขับรถที่ชอบ ฝันอยากมีอาชีพที่มั่นคง ความฝันจึงเป็นเป้าหมายที่หลายคนพยายามไปให้ถึงด้วยความมุ่งมั่นเพื่อทำให้สำเร็จ หรือในแต่ละคืนที่เรานอนหลับบางคนก็มักจะฝันอยู่บ่อย ๆ ทั้งฝันดีและฝันไม่ดี ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อเรานอนหลับ เราจะฝันหรือไม่ และฝันถึงอะไร เมื่อฝันดีก็ทำให้ตื่นมาสดใสและมีความสุข แต่หากฝันร้ายหรือฝันถึงเรื่องไม่ดี เมื่อตื่นมาก็อาจทำให้เกิดความกังวลหรือทำให้เช้าวันใหม่ไม่ค่อยสดใสนัก ซึ่งต่างจากบุคคลที่เราจะพูดถึงในบทเรียนนี้ นั่นก็คือ นักบุญโยเซฟ ผ่านทางความฝันท่านได้เข้าร่วมในแผนการแห่งความรอดกับพระคริสตเจ้า

              2. จากพระวรสารของนักบุญมัทธิวและนักบุญลูกา ทำให้เราได้รู้จักนักบุญโยเซฟในฐานะที่ท่านเป็นช่างไม้ (เทียบ มธ. 13:55) เป็นคู่หมั้นของพระนางมารีย์ (เทียบ มธ. 1:18; ลก. 1:27) เป็นผู้ชอบธรรม (มธ. 1:19) และได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญ ซึ่งพระเจ้าทรงแจ้งสารแก่ท่านผ่านทางความฝันทั้งหมด 4 ครั้ง

                  ครั้งที่ 1 พระนางมารีย์หมั้นกับโยเซฟ แต่ก่อนที่ท่านทั้งสองจะครองชีวิตร่วมกัน ปรากฏว่าพระนางตั้งครรภ์แล้วเดชะพระจิตเจ้า โยเซฟเป็นผู้ชอบธรรมจึงไม่ต้องการฟ้องหย่าอย่างเปิดเผย จึงคิดถอนหมั้นอย่างเงียบ ๆ ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็มาเข้าฝัน กล่าวว่า “โยเซฟ โอรสกษัตริย์ดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของท่านเลย เพราะเด็กที่ปฏิสนธิในครรภ์ของนางนั้นมาจากพระจิตเจ้า” เมื่อโยเซฟตื่นขึ้นเขาก็ทำตามที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งไว้ คือรับภรรยามาอยู่ด้วย (เทียบ มธ. 1:18-24)   

                 ครั้งที่ 2 เมื่อบรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาหนีไปอียิปต์ และอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำลังสืบหาพระกุมารเพื่อจะประหารชีวิต” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปอียิปต์ในคืนนั้นและอยู่ที่นั่นจนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ (มธ. 2:13-15)

                 ครั้งที่ 3 หลังจากกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟในอียิปต์ กล่าวว่า “จงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดา กลับไปแผ่นดินอิสราเอล เพราะผู้ที่ต้องการฆ่าพระกุมารตายแล้ว โยเซฟจึงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล” (มธ. 2:19-21)

                 ครั้งที่ 4 เมื่อรู้ว่าอารเคลาอัสขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ในแคว้นยูเดียสืบต่อจากกษัตริย์เฮโรดพระบิดา โยเซฟก็กลัวที่จะไปที่นั้น และเมื่อพระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝัน เขาจึงกลับไปยังแคว้นกาลิลี ไปอาศัยอยู่ในเมืองหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ (มธ. 2:22-23)

              3. จากเหตุการณ์ที่ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันและแจ้งแก่นักบุญโยเซฟ ทำให้เราได้เห็นถึงความนบนอบเชื่อฟังของท่าน ทุกครั้งเมื่อตื่นขึ้นท่านกระทำตามที่พระเจ้าบอกทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและไม่ลังเล แม้อาจจะมีความยากลำบากที่ต้องพบเจอ แต่ด้วยความเชื่อและวางใจ ท่านพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกประการด้วยความร้อนรน จากเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เราได้รู้จัก และเห็นการดำเนินชีวิตของนักบุญโยเซฟที่แสดงออกถึงการเป็นผู้ชอบธรรม ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรมหลายประการได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการนบนอบเชื่อฟัง ความยุติธรรม ความสุภาพถ่อมตน ความสงบเสงี่ยม ความเชื่อ และความหวังในพระเจ้า

              4. จึงเป็นการเหมาะสมยิ่งนักที่พระบิดาเจ้าได้ทรงเลือกสรรนักบุญโยเซฟให้เป็นบิดาของพระเยซูเจ้า และภัสดาของพระนางมารีย์ ท่านได้ทำหน้าที่ของการเป็นบิดาด้วยการปกป้องคุ้มครองชีวิตของพระนางมารีย์และพระเยซูเจ้าอย่างดีและครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่การออกเดินทางไปขึ้นทะเบียนสำมะโนประชากร พาไปเข้าสุหนัตเมื่อครบกำหนดแปดวัน พาพระกุมารไปถวายในพระวิหาร อบรมสั่งสอนพระเยซูเจ้าในฐานะบุตรตามธรรมประเพณี สอนเกี่ยวกับกฎหมายทางศาสนาและการงานอาชีพ พระเยซูเจ้าทรงเจริญวัยขึ้น ทรงพระปรีชาญาณอย่างสมบูรณ์ และพระหรรษทานของพระเจ้าสถิตกับพระองค์ ภายใต้การเอาใจใส่และการดูแลของนักบุญโยเซฟ และพระนางมารีย์ (เทียบ ลก. 2:1-40)

              5. แม้เราจะไม่ทราบถึงชีวิตบั้นปลายของนักบุญโยเซฟและในพระวรสารก็ไม่ได้บันทึกคำพูดของท่านไว้แม้แต่คำเดียว แต่ภารกิจสำคัญที่ท่านได้เป็นผู้มีส่วนร่วมกับพระนางมารีย์ ในการรับผิดชอบดูแลรักษาชีวิตของพระเยซูเจ้า บ่งบอกเราอย่างชัดเจนถึงการเป็นบิดาอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และทำให้ท่านเป็นผู้ชอบธรรมที่แท้จริง ขอให้แบบอย่างจากชีวิตของนักบุญโยเซฟเตือนใจเรา ให้เป็นผู้มีใจยึดมั่นอยู่กับพระเจ้า พร้อมเสมอที่จะตอบรับพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยการดำเนินชีวิตเป็นคริสตชนที่มีความเชื่อความหวัง ความรัก และเลือกที่จะลงมือกระทำแต่สิ่งที่ดีและถูกต้อง เพื่อให้ชีวิตของเราจะได้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าเสมอ เช่นเดียวกับนักบุญโยเซฟบุรุษผู้ชอบธรรม

ก. ข้อควรจำ
        1. ในพระวรสารทำให้เรารู้จักนักบุญโยเซฟในฐานะที่ท่านเป็นช่างไม้ (เทียบ มธ. 13:55) เป็นคู่หมั้นของพระนางมารีย์ (เทียบ มธ. 1:18; ลก. 1:27) และเป็นผู้ชอบธรรม (มธ. 1:19)
        2. นักบุญโยเซฟได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญซึ่งพระเจ้าทรงแจ้งสารแก่ท่านผ่านทางความฝันทั้งหมด 4 ครั้ง
        3. ทุกครั้งเมื่อตื่นขึ้น นักบุญโยเซฟกระทำตามที่พระเจ้าบอกทันที โดยไม่มีเงื่อนไขและไม่ลังเล แม้อาจจะมีความยากลำบากที่ต้องพบเจอ แต่ด้วยความเชื่อและวางใจ ท่านพร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้าทุกประการด้วยความร้อนรน
        4. นักบุญโยเซฟได้ทำหน้าที่ของการเป็นบิดา ด้วยการปกป้องคุ้มครองชีวิตของพระนางมารีย์และพระเยซูเจ้าอย่างดีและครบถ้วนสมบูรณ์
        5. ให้เราจะได้เป็นผู้มีใจยึดมั่นอยู่กับพระเจ้า พร้อมเสมอที่จะตอบรับพระประสงค์ของพระองค์ในชีวิตประจำวันของเรา ตามแบบอย่างของนักบุญโยเซฟ
        6. ดำเนินชีวิตเป็นคริสตชนที่มีความเชื่อ ความหวัง ความรัก และเลือกที่จะลงมือกระทำแต่สิ่งที่ดีและถูกต้องเพื่อให้ชีวิตของเราจะได้เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าเสมอ

ข. กิจกรรม    

เด็กเล็ก ระบายสีภาพนักบุญโยเซฟกับพระเยซูเจ้า
อุปกรณ์ 1. ใบงานภาพระบายสี   (ท้ายบทเรียน)       2. สีไม้
วิธีการ    1. ผู้สอนแจกภาพระบายสีให้ผู้เรียนคนละ 1 แผ่น
              2. ให้ผู้เรียนระบายสีตกแต่งภาพให้สวยงาม
              3. ให้ผู้เรียนเขียนข้อตั้งใจดีคนละ 1 ข้อ เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการเคารพเชื่อฟังบิดาหรือผู้ปกครองของเราไว้ด้านล่างของภาพ

เด็กโต  ที่คั่นหนังสือตัวอักษรคุณธรรม
อุปกรณ์ 1. กระดาษ 100 ปอนด์ หรือกระดาษแข็ง (ขาว-เทา)
              2. สีไม้และสีเมจิก        3. ที่เจาะรูกระดาษ (เครื่องเจาะตาไก่)
              4. เชือกหรือไหมพรมสำหรับร้อย         5. กรรไกร

วิธีการ
            นักบุญโยเซฟ บุรุษผู้ชอบธรรม ชีวิตของท่านมีคุณธรรมมากมายที่เราควรยึดถือนำมาปฏิบัติ จากชื่อของท่านเขียนเป็นภาษาอังกฤษจะมีตัวอักษรทั้งหมด 6 ตัว คือ JOSEPH หากนำมาจำแนกแต่ละตัว จะพบกับคุณธรรมพิเศษของนักบุญโยเซฟที่ซ่อนอยู่ ดังนี้
J = Justice หมายถึง ความยุติธรรม
O = Obedience หมายถึง การนบนอบเชื่อฟัง
S = Silence หมายถึง ความเงียบ (สงบเสงี่ยม)
E = Experience หมายถึง สันทัดจัดเจน (มีทักษะและความชำนาญในอาชีพ)
P = Prudence หมายถึง ความฉลาดรอบคอบ
H = Humility หมายถึง ความสุภาพถ่อมตน

             1. ผู้สอนอธิบายถึงชื่อของนักบุญโยเซฟเป็นภาษาอังกฤษ คือ JOSEPH เมื่อจำแนกตัวอักษรออกมาแต่ละตัวเป็น 6 ตัว จะหมายถึงคุณธรรมต่าง ๆ 6 คำ หากมีเวลาเพียงพอ ผู้สอนลองให้ผู้เรียนทายดูว่า ตัวอักษรแต่ละตัวจะเป็นคุณธรรมประการใดได้บ้างจากชีวิตของนักบุญโยเซฟที่ได้เรียนรู้ไป ใครตอบถูกอาจมีรางวัลให้เล็กน้อย
             2. ผู้สอนพิมพ์คุณธรรมจากชื่อของนักบุญโยเซฟทั้ง 6 คำ แจกให้ผู้เรียนส่วนตัว หรือเขียนบนกระดานให้ทุกคนในห้องเห็นได้ชัดเจน
             3. ผู้สอนให้ผู้เรียนพิจารณาและเลือกคุณธรรม 1 ประการที่รู้สึกว่าตนเองยังมีน้อย หรือควรพยายามปฏิบัติให้มากขึ้น
             4. แจกกระดาษและสีให้ผู้เรียนแต่ละคน วาดตัวอักษรที่ตนเลือกและตัดออกมาเพื่อทำเป็นที่คั่นหนังสือขนาดตามใจชอบและเหมาะสม พร้อมทั้งเขียนข้อตั้งใจดี 1 ข้อ จากการศึกษาชีวิตของนักบุญโยเซฟโดยยึดคุณธรรมที่ตนเลือกเป็นหลัก เขียนลงไปในตัวอักษร เช่น เลือกตัว S ข้อตั้งใจคือ “จะเป็นผู้ลงมือกระทำมากกว่าที่จะพูด”เลือกตัว P ข้อตั้งใจคือ “จะรอบคอบมากขึ้นก่อนตัดสินใจทำสิ่งใด” “เป็นต้น
             5. เมื่อตัดและเขียนเสร็จแล้ว ให้เจาะตาไก่แขวนเชือก พร้อมกับตกแต่งให้สวยงาม
             6. อาจเรียกผู้เรียนบางคน ให้แบ่งปันถึงตัวอักษรคุณธรรมที่ตนเลือกและข้อตั้งใจที่เขียน หรืออาจจะให้จับคู่กับเพื่อนและแบ่งปันกัน

ค. การบ้าน              

       - อ่านใบความรู้เรื่องนักบุญโยเซฟ เพิ่มเติม
       - ให้ผู้เรียนจดจำว่า นักบุญโยเซฟเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระศาสนจักรสากล ของผู้เป็นบิดา ช่างไม้ กรรมกร คนที่จวนจะสิ้นใจ และความเสมอภาคในสังคม ซึ่งพระศาสนจักรกำหนดให้ทุกวันที่ 19 มีนาคม เป็นวันสมโภชนักบุญโยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์ พรหมจารี และทุกวันที่ 1 พฤษภาคม ระลึกถึงนักบุญโยเซฟ กรรมกร
       - ให้ผู้เรียนได้กลับไปเล่าเรื่องราวของนักบุญโยเซฟให้คนในครอบครัวฟัง และสวดภาวนาร่วมกันเป็นพิเศษถึงผู้ที่ทำหน้าที่เป็นบิดา และบรรดาผู้ใช้แรงงาน
       - ให้ผู้เรียนกลับไปปฏิบัติตามข้อตั้งใจที่ตนได้เขียนลงในภาพระบายสีและที่คั่นหนังสือตัวอักษรคุณธรรม

       ::: Download  บทเรียนที่ 17 ::

 โยเซฟ

 นักบุญโยเซฟ: บุรุษผู้ชอบธรรม

(มัทธิว 1:18-20, 2:1-35, ลูกา 2:1-52)

             จากพระวรสารนักบุญมัทธิวและนักบุญลูกา แม้จะมีข้อมูลไม่มากนักแต่ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเรา ได้ทราบประวัติของนักบุญโยเซฟ ดังนี้ท่านเป็นช่างไม้ (เทียบ มธ. 13:55) เป็นคู่หมั้นของมารีย์ (เทียบ มธ. 1:18; ลก. 1:27) ท่านเป็น“ผู้ชอบธรรม” (มธ. 1:19) พร้อมเสมอที่จะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระเจ้า ตามที่ปรากฏในธรรมบัญญัติโดยอาศัยความฝัน 4 ครั้ง (เทียบ มธ. 1:20, 2:13,19,22) ท่านได้พาพระนางมารีย์ไปลงทะเบียนสำมะโนครัว โดยออกเดินทางจากเมืองนาซาเร็ธไปสู่เมืองของกษัตริย์ดาวิด คือเบทเลเฮม ท่านได้เห็นการประสูติของพระผู้ไถ่ในรางหญ้า ณ ที่นั้น “ไม่มีสถานที่พักพิงสำหรับพวกเขา” (เทียบ ลก. 2:7) ท่านได้เห็นคนเลี้ยงแกะและโหราจารย์สามท่าน (เทียบ มธ. 2:1-12)ซึ่งเป็นตัวแทนของประชากรอิสราเอล คนต่างชาติและต่างความเชื่อมานมัสการพระผู้ไถ่

              นักบุญโยเซฟกล้าหาญในการยอมรับเป็นบิดาตามกฎหมายของพระเยซูเจ้า และท่านได้ตั้งชื่อว่า “เยซู” ตามที่ทูตสวรรค์แจ้งให้ทราบ (มธ. 1:21) หลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดได้ 40 วัน ท่าน​พร้อมกับ​พระ​นาง​มา​รีย์​นำ​พระ​กุมาร​ไป​ที่​กรุง​เย​รู​ซา​เล็ม​เพื่อ​ถวาย​แด่​พระ​เจ้า และได้ฟังคำทำนายของสิเมโอนด้วยความประหลาดใจ เกี่ยวกับพระเยซูและพระมารดาของพระองค์ (เทียบ ลก. 2:22-35) เพื่อปกป้องพระเยซูเจ้าจากเงื้อมมือของกษัตริย์เฮโรด ท่านจึงพาพระกุมารและพระมารดาเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศอียิปต์ ในฐานะคนต่างด้าว (เทียบ มธ. 2:13-18) จนกระทั้งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ท่านจึงพาพระกุมารและพระมารดากลับไปยังตำบลนาซาเร็ธ ในแคว้นกาลิลี และในเทศกาลปัสกาของทุกปีนักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์ เดินทางไปยังกรุงเยรูซาเล็มเพื่อร่วมฉลองด้วย เมื่อพระเยซูเจ้ามีพระชนมายุสิบสองพรรษาก็ได้เดินทางไปพร้อมกับท่านทั้งสองด้วย เมื่อวันฉลองสิ้นสุดลงทุกคนต่างเดินทางกลับ แต่พระเยซูเจ้ายังคงประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม เมื่อนักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์เดินทางไปได้หนึ่งวันแล้วและไม่พบพระองค์ในหมู่ญาติ ท่านทั้งสองก็ออกตามหาพระองค์ด้วยความร้อนใจ และในวันที่สามก็พบพระเยซูเจ้าอยู่ในหมู่อาจารย์ในพระวิหาร (เทียบ ลก. 2:41-50)

              ความจริงอีกประการหนึ่งที่พระวรสารทั้ง 4 ได้บันทึกไว้เพื่อยืนยันกับเราก็คือ พระเยซูเจ้าเป็นบุตรของโยเซฟ (ลก. 4:22; ยน. 6:42; เทียบ มธ. 13:55; มก. 6:3)
               แม้เราจะไม่ทราบชีวิตบั้นปลายของท่าน แต่ในพระวรสารบอกเราว่า ท่านเป็น “ผู้ชอบธรรม” (มธ. 1:19) คือผู้ที่เลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ และแม้ว่าพระวรสารจะก็ไม่บันทึกคำพูดของท่านไว้แม้แต่คำเดียว แต่ก็แสดงให้เห็นว่าท่านเป็นผู้ชอบ “ทำ” มากกว่าพูดอย่างแท้จริง และได้รับภารกิจที่สำคัญนั่นคือการได้เป็นผู้ปกป้องดูแลพระเยซูเจ้าองค์พระผู้ไถ่

คำถาม กิจกรรมแฟนพันธุ์แท้นักบุญโยเซฟ

1. โยเซฟ มีอาชีพเป็นอะไร (มธ. 13:55)
ก. ช่างไฟ ข. ช่างไม้ ค. ชาวประมง

2. โยเซฟเป็นคู่หมั้นของใคร (มธ. 1:18; ลก. 1:27)
ก. นางเอลีซาเบธ ข. มารีย์ มักดาลา ค. พระนางมารีย์

3. โยเซฟสืบเชื้อสายมาจากราชวงศ์ของใคร (ลก. 2:4)
ก. กษัตริย์ดาวิด ข. อาดัม ค. อับราฮัม

4. ในพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงโยเซฟว่าเป็นผู้ชอบ....... อะไร (มธ. 1:19)
ก. ชอบภาวนา ข. ชอบธรรม ค. ชอบฝัน

5. เมื่อโยเซฟทราบว่าพระนางมารีย์ตั้งครรภ์ เขาไม่ต้องการฟ้องหย่าอย่างเปิดเผย แต่คิดจะทำอะไร (มธ. 1:19)
ก. ถอนหมั้นเงียบ ๆ ข. พาหนีไป ค. จัดพิธีแต่งงาน

6. ใครมาเข้าฝันโยเซฟให้รับมารีย์เป็นภรรยา (มธ. 1:20)
ก. พระเยซูเจ้า ข. พระเจ้า ค. ทูตสวรรค์

7. ทูตสวรรค์บอกโยเซฟในฝันว่าให้ตั้งชื่อบุตรชายว่าอะไร (มธ. 1:21)
ก. ดาวิด ข. เยซู ค. ยอห์น

8. โยเซฟพาพระกุมารและพระมารดาหนีกษัตริย์เฮโรดไปที่ใด (มธ. 2:13)
ก. อิสราเอล ข. เบธเลเฮม ค. อียิปต์

9. หลังจากกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ โยเซฟพาพระกุมารและพระมารดากลับไปยังแคว้นกาลิลี ไปอาศัยอยู่ที่เมืองใด (มธ. 2:19-23)
ก. เบธเลเฮม ข. นาซาเร็ธ ค. อิสราเอล

10. สมโภชนักบุญโยเซฟ ตรงกับวันที่เท่าไหร่ของทุกปี
ก. 19 มีนาคม ข. 19 พฤษภาคม ค. 19 ตุลาคม