ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

 ประกาศกอิสยาห์: ผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 16
ประกาศกอิสยาห์: ผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
       1. รู้จักชีวิตของประกาศกอิสยาห์
       2. ตระหนักถึงหน้าที่ของการประกาศข่าวดีในฐานะที่เป็นคริสตชน
       3. บอกเล่าเรื่องราวของพระเจ้าให้ผู้อื่นได้รับรู้ผ่านทางชีวิตของตน

กิจกรรม   “ผู้ประกาศข่าวดี”

อุปกรณ์ หนังสือพิมพ์ (ตามจำนวนผู้เรียน)

ดำเนินการ
   1. แจกหนังสือพิมพ์ให้ผู้เรียนคนละ 1 ฉบับ หากมีผู้เรียนจำนวนมาก อาจให้จับคู่กัน 2 คนหรือกลุ่ม 3 คนแล้วแต่ผู้สอนเห็นว่าเหมาะสม
                    2. ให้ผู้เรียนเลือกหาข่าวที่เป็นเรื่องดี 1 ข่าว/เรื่อง ให้เวลา 10 นาที เพื่ออ่านและทำความเข้าใจ จากนั้นให้ผู้เรียนทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าว ด้วยการออกมาเล่าข่าวที่ตนได้อ่านที่หน้าชั้นเรียนให้ทุกคนฟัง
                    3. ผู้เรียนคนใดทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวได้น่าสนใจและถูกใจที่สุด ให้เพื่อน ๆ ในห้องช่วยกันเลือก ผู้สอนเตรียมรางวัลหรือขนมให้เล็กน้อย

 

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
             1. ถามผู้เรียนว่ารู้สึกอย่างไรเมื่อต้องออกมาเล่าข่าวให้เพื่อน ๆ ฟังที่หน้าชั้นเรียน (เฉย ๆ, ตื่นเต้น, กังวล,สนุก ฯลฯ)
             2. มีใครชอบเป็นผู้เล่าบ้าง และใครที่ไม่ค่อยชอบ (ให้ผู้เรียนยกมือตอบ พร้อมบอกเหตุผล)
             3. เพื่อนคนที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ประกาศข่าวที่น่าสนใจที่สุด เพราะลักษณะการเล่าของเขาเป็นอย่างไร (เล่าได้สนุก, เสียงดังฟังชัด, น่าสนใจ, เข้าใจง่าย, บุคลิกดี ฯลฯ)

 

                 สรุป ผู้ประกาศข่าวอาจเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเป็น ซึ่งคุณสมบัติของผู้ประกาศข่าวก็คือ มีบุคลิกที่ดี มีความมั่นใจ พูดจาฉะฉาน น่าฟัง เข้าใจง่ายและต้องรู้ทันข่าวสารเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้รายงานข่าวไปสู่ประชาชนผ่านทางสื่อประเภทต่าง ๆ อย่างเป็นกลาง เป็นธรรม เป็นความจริงและในมุมมองที่ถูกต้อง ถ้าหากไม่มีผู้ประกาศข่าว ประชาชนก็จะไม่สามารถรับรู้ข่าวสารประจำวันได้เลยฉะนั้น บทบาทหน้าที่ของผู้ประกาศข่าวจึงมีความสำคัญในการส่งสาร บอกสาร และทำให้ประชาชนรู้ถึงความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกันในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เราก็มีหน้าที่หนึ่งที่สำคัญในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า ส่งสารความรักของพระองค์ไปสู่คนรอบข้าง ผ่านทางชีวิตของเรา

 

 

คำสอน                                                

               1. ตามหน้าจอของโทรทัศน์แต่ละช่อง เราจะพบกับผู้ประกาศข่าวที่โด่งดังมากมายหลายคน ซึ่งทำหน้าที่ในแต่ละช่วงข่าวต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป มีทั้งข่าวเด็ดประจำวัน ข่าวกีฬา ข่าวบันเทิง ข่าวในพระราชสำนัก และอีกหนึ่งช่วงที่ผู้คนต่างให้ความสนใจกันมาก ก็คือช่วงพยากรณ์อากาศ เพราะจะได้ทราบถึงสภาพภูมิอากาศประจำวัน ว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไร ฝนจะตกหรือไม่ เพื่อจะได้เตรียมตัวในการใช้ชีวิตได้ถูกต้อง การรู้และเตรียมตัวล่วงหน้าได้ก่อนเป็นเรื่องที่ดี แม้ในบางครั้งข้อมูลก็อาจจะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง คลาดเคลื่อนไปบ้างก็ตาม นอกจากฟังการพยากรณ์อากาศแล้ว อาจจะคาดเดาได้จากสภาพความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็ได้ ยิ่งผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า อายุมากกว่า ก็จะทราบดีว่าเมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้ม แสดงว่าฝนกำลังจะตก หากมีลมพัดแรงทำให้พัดพาฝนไปก็อาจจะไม่ตก ก็เป็นการคาดเดาและทำนายตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคล

 

               2. เช่นเดียวกันในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม จะมีการพูดถึงบุคคลกลุ่มหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ประกาศก เขาถูกกล่าวว่าเป็นนักพยากรณ์บ้าง เป็นผู้ทำนายบ้าง แท้จริงแล้วประกาศกเป็นใคร ประกาศกก็คือบุคคลหนึ่งที่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าและพูดในพระนามของพระองค์ พระเจ้าทรงเลือกพวกเขาไว้เป็นพิเศษเพื่อเปิดเผยความจริงแก่มนุษยชาติ เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพระเจ้า และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาด้านศาสนาของชนชาติอิสราเอล หนังสือของประกาศกแต่ละเล่มค่อย ๆ ทำให้เห็นพระดำริและพระประสงค์ของพระเจ้า ในการช่วยไถ่กู้มนุษยชาติให้รอดพ้นชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะพระเจ้าทรงมีขั้นตอนในการเผยแสดงความจริงของพระองค์ ประกาศกถือว่าเป็นผู้ประกาศสารจากพระเจ้าทั้งที่เกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และอนาคตและประกาศกหลายท่านได้พยากรณ์เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย หนึ่งในนั้นก็คือประกาศกอิสยาห์ ผู้ถูกกล่าวถึงว่าเป็นผู้ทำนายล่วงหน้า เกี่ยวกับการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ และก็เป็นจริงตรงตามที่ท่านได้ทำนายไว้

 

                3. ประกาศกอิสยาห์เป็นบุตรของอามอส เกิดในราวปี 765 ก่อน ค.ศ.ชื่อของท่านมีความหมายว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดพ้น” พระเจ้าทรงเรียกท่านในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม ให้เป็นประกาศกในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ ราวปี 740 ก่อน ค.ศ. ท่านมีภรรยาและมีบุตรชาย 2 คน ชื่อ มาเฮอร์ชาลาลหัชบัสและเชอาร์ยาชูบในสมัยของท่าน อิสราเอลแบ่งออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรเหนือเรียกว่าอิสราเอล เมืองหลวงคือกรุงสะมาเรีย และอาณาจักรใต้เรียกว่ายูดาห์ เมืองหลวงคือกรุงเยรูซาเล็ม พันธกิจของท่านคือการประกาศให้รู้ว่า อาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์จะต้องล่มสลายเป็นการลงโทษที่ประชากรไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ (เทียบ อสย.6:1-13)

 

                4. ท่านเป็นคนซื่อตรง กล้าที่จะประกาศ สั่งสอนเรื่องความบาปผิดของประชากรพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์และสังคมที่กำลังเผชิญกับความอยุติธรรมในด้านต่าง ๆ เตือนสติให้พวกเขาหันกลับมาหาพระเจ้า ให้ดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟัง และให้ทำตามพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าไม่เป็นเช่นนั้นพวกเขาจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลยและแผ่นดินจะว่างเปล่า การเชื่อฟังพระเจ้า การชิดสนิทกับพระเจ้าและการพึ่งพาพระเจ้าเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องพวกเขาได้ ประกาศกอิสยาห์มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ของชาติ ทำให้ประกาศกเป็นบุคคลสำคัญระดับชาติ ท่านเป็นประกาศกที่เน้นถึงความเชื่อในช่วงเวลาวิกฤตของชาติ ท่านได้สั่งให้ทุกคนมีความวางใจต่อพระเจ้าเท่านั้นไม่ต้องวางใจใครอื่น เพราะการวางใจต่อพระเจ้าจะนำความรอดพ้นมาให้ ประกาศกอิสยาห์เป็นประกาศกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในบรรดาประกาศกทั้งหลาย เพราะได้กล่าวถึงพระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ที่ชาวอิสราเอลรอคอย เขาได้กล่าวพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ว่า “จะทรงสืบเชื้อสายจากราชวงศ์กษัตริย์ดาวิด พระองค์จะทรงสถาปนาสันติภาพและความยุติธรรมบนแผ่นดิน และทรงเผยแผ่ความรู้จักพระเจ้าแก่มวลมนุษย์”(เทียบ อสย. 2:1-5; 7:10-17; 9:1-6; 11:1-9; 28:16-17) และพระจิตเจ้าทรงทำให้คำพยากรณ์ในพันธสัญญาเดิม สำเร็จบริบูรณ์ไปในพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นการเผยแสดงธรรมล้ำลึกในพันธสัญญาใหม่ (ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกข้อ 140)

 

                 5. ประกาศกอิสยาห์เป็นแบบอย่างให้กับเรา ในการทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศที่ดี การพูดถึงเรื่องพระเจ้าอย่างซื่อตรง มีความไว้วางใจในพระเจ้า สอนผู้คนให้หันกลับมาพึ่งพาพระเจ้าเสมอและไม่หลงเชื่อในทางที่ผิด เราอาจจะไม่ได้ทำกิจการที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นเดียวกับประกาศก แต่ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เรามีหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้าไม่ต้องมีการทำนาย ไม่ต้องวิเคราะห์คาดเดาตามสถานการณ์ แต่เป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว พระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมา ดำเนินชีวิตและมีคำสอนมากมายให้เราได้ฟังและปฏิบัติตาม จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องบอกเล่าและประกาศถึงเรื่องราวความรักของพระเจ้าไปสู่บุคคลอื่นรอบข้าง ผ่านทางคำพูดและการดำเนินชีวิตของเรา ทำให้เพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้างได้เห็นและสัมผัสถึงความรักของพระเจ้าในตัวเรา

 

ก. ข้อควรจำ
         1. ประกาศกอิสยาห์เป็นบุตรของอามอส เกิดในราวปี 765 ก่อน ค.ศ. ชื่อของท่านมีความหมายว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดพ้น”
         2. พันธกิจของท่านคือ การประกาศให้รู้ว่าอาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์จะต้องล่มสลาย เป็นการลงโทษที่ประชากรไม่ซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ (เทียบ อสย. 6:1-13)
         3. ท่านเป็นคนซื่อตรง กล้าที่จะประกาศสั่งสอนเรื่องความบาปผิดของประชากรพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์และสังคมที่กำลังเผชิญกับความอยุติธรรมในด้านต่าง ๆ
         4. ประกาศกอิสยาห์เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาประกาศก ซึ่งได้กล่าวพยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ที่ชาวอิสราเอลรอคอย
         5. ในฐานะที่เราเป็นคริสตชน เรามีหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า ด้วยการบอกเล่าและประกาศถึงเรื่องราวความรักของพระเจ้าไปสู่บุคคลอื่นรอบข้าง ผ่านทางคำพูดและการดำเนินชีวิตของเรา

ข. กิจกรรม     ร้องเพลง “ใครจะไปบอก”

(เพลงประกอบการสอนคำสอน อัลบั้ม รักที่อบอุ่น)

ฟังและดาวน์โหลด mp3 ได้ที่ 

ใครจะไปบอก

*** ในโลกนี้มีคนมากมาย ที่อยู่ในความบาป
ใครจะไปบอกคนเหล่านั้น ให้รู้ถึงความรอด
** ใครจะไปบอก ใครจะไปบอก ว่าพระคริสต์ตายแทนเขา
ใครจะไปบอก ใครจะไปบอก ว่าพระคริสต์ตายแทนเรา (ซ้ำ ***/**)
ฉันจะไปบอก ฉันจะไปบอก ว่าพระคริสต์ตายแทนเขา
ฉันจะไปบอก ฉันจะไปบอก ว่าพระคริสต์ตายแทนเรา

 


อุปกรณ์   1. พิมพ์เนื้อเพลงตามจำนวนผู้เรียน หรือเขียนลงบนกระดาน/กระดาษชาร์ต
                2. ไฟล์เพลง ดาวน์โหลดที่ www.kamsondeedee.com
                3. คอมพิวเตอร์/ลำโพงบลูทูธ
ดำเนินการ
           1. ผู้สอนเตรียมเนื้อเพลงมาแจกให้ผู้เรียน และเปิดเพลงให้ผู้เรียนฟัง 1-2 รอบ
           2. ผู้สอน สอนผู้เรียนร้องเพลงทีละท่อนจนจบ และฝึกให้ร้องเพลงได้อย่างถูกต้อง
           3. ผู้สอนนำผู้เรียนให้ช่วยกันคิดท่าทางประกอบง่าย ๆ และทำท่าทางประกอบพร้อมกัน
           4. ผู้สอนตอกย้ำให้ผู้เรียนตระหนักถึงหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า ให้ผู้เรียนจะได้บอกเล่าเรื่องราวความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์สู่บุคคลอื่นรอบข้าง โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวของเรา คนที่บ้านและเพื่อน ๆ ในห้อง ในโรงเรียนของเรา ด้วยการดำเนินชีวิตอย่างดีกับทุกคน

ค. การบ้าน              

        - อ่านใบความรู้เรื่องประกาศกอิสยาห์
        - ดำเนินชีวิตด้วยการเป็นผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า ผ่านทางชีวิตของเรา
        - สวดภาวนาเพื่อคริสตชนจะได้มีความเชื่อที่มั่นคง ซื่อสัตย์ และไว้วางใจพระเจ้าเสมอ

       ::: Download  บทเรียนที่ 16 ::

 

 อิสยาห์

ประกาศกอิสยาห์: ผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า

(ความรู้เกี่ยวกับหนังสือประกาศก ข้อ 8; อิสยาห์ 1-3; 6:1-12; 7:3-17; 11:1-9)

 

ประกาศกอิสยาห์: ผู้ประกาศข่าวดีของพระเจ้า             อิสยาห์บุตรของอามอส เกิดราวปี 765 กคศ. ได้รับการเรียกจากพระเจ้าในราวปี 740 กคศ.ในสมัยของอิสยาห์ อิสราเอลแบ่งออกเป็น 2 อาณาจักร อาณาจักรเหนือเรียกว่าอิสราเอล เมืองหลวงคือ “กรุงสะมาเรีย” อาณาจักรใต้เรียกว่า “ยูดาห์” เมืองหลวงคือกรุงเยรูซาเล็ม อิสยาห์เป็นประกาศกและเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ฝ่ายยูดาห์ ท่านมีภรรยาและบุตรชาย 2 คน ในปีที่กษัตริย์อุสซียาห์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าทรงเรียกท่านในพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็ม ท่านเป็นประกาศกในยุคการปกครองของกษัตริย์อุสซียาห์ โยธาม อาคัสและเฮเซคียาห์ ชื่อของท่านมีความหมายว่า “พระเจ้าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดพ้น” ท่านเป็นคนซื่อตรง กล้าสั่งสอน เตือนสติเรื่องความบาปผิดของประชากรของพระเจ้า ท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองและสังคม ที่กำลังเผชิญกับความอยุติธรรมในด้านต่าง ๆ คนมั่งมีเอาปรียบคนยากจน คนยากจนถูกกดขี่ข่มเหง ผู้พิพากษาติดสินบน ศีลธรรมเสื่อมทราม การนมัสการพระเจ้าไม่ถึงแก่น ผู้คนหันหลังให้กับพระเจ้า พระเจ้ามอบหมายพันธกิจให้แก่ท่าน คือไปประกาศให้รู้ว่าอาณาจักรอิสราเอลและยูดาห์จะต้องล่มสลาย เป็นการลงโทษประชากรที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า อิสยาห์ประกาศ สั่งสอน เตือนสติเรื่องความบาปผิดของยูดาห์ และให้กำลังใจพวกเขาให้หันกลับมาหาพระเจ้า ให้ดำเนินชีวิตด้วยการเชื่อฟัง ทำตามพระบัญญัติของพระเจ้าอย่างเคร่งครัด เพราะถ้าไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย อิสยาห์ใช้คำว่าแผ่นดินจะว่างเปล่าคือไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย การเชื่อฟังพระเจ้าการติดสนิทกับพระเจ้า การพึ่งพาพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถปกป้องพวกเขาได้ พระเจ้าเท่านั้นจะนำมาซึ่งความปลอดภัย ความยุติธรรม ความชอบธรรมและสันติสุขที่แท้จริง ท่านรักพระเจ้ามากและเชื่อมั่นในพระองค์ ทั้งพยายามที่จะให้กษัตริย์ของยูดาห์เชื่อมั่นในพระเจ้าด้วย

 

            อิสยาห์เป็นประกาศกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาประกาศกท่านกล่าวถึงพระเมสสิยาห์ ซึ่งชาวอิสราเอลรอคอยว่า ผู้ซึ่งจะมาจากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิด พระองค์จะทรงสถาปนาสันติภาพและความยุติธรรมบนแผ่นดิน จะทรงเผยแผ่ความรู้จักพระเจ้าแก่มวลมนุษย์ ครั้งหนึ่ง ในนิมิตของอิสยาห์ ท่านเห็นองค์พระผู้เป็นเจ้าประทับอยู่บนพระบัลลังก์สูงและตั้งอยู่บนที่สูง ชายฉลองพระองค์แผ่เต็มพระวิหาร เสราฟหลายตนยืนอยู่โดยรอบแต่ละตนมีปีกหกปีก ใช้สองปีกบังหน้า สองปีกคลุมเท้าและสองปีกใช้บิน เสราฟแต่ละตนต่างร้องรับกันว่า “ศักดิ์สิทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมจักรวาล แผ่นดินทั้งหมดเต็มไปด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ของพระองค์” และรากฐานของธรณีประตูก็สั่นสะเทือนด้วยเสียงของเหล่าผู้ร้องอิสยาห์กล่าวว่า “วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพินาศแล้วเพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากมีมลทิน อาศัยอยู่ในหมู่ชนชาติริมฝีปากมีมลทิน ถึงกระนั้น นัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นกษัตริย์คือพระเจ้าจอมจักรวาล” แล้วเสราฟตนหนึ่งบินมาหาข้าพเจ้าถือคีมคีบถ่านที่ลุกอยู่มาจากพระแท่นบูชา เสราฟตนนั้นสัมผัสปากข้าพเจ้า พูดว่า “ดูซิ สิ่งนี้สัมผัสริมฝีปากของท่านแล้ว ความผิดของท่านก็ถูกลบล้างแล้ว บาปของท่านก็ได้รับการอภัยแล้ว” แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เราจะส่งใคร ใครจะไปแทนเรา” ข้าพเจ้าทูลตอบว่า“ข้าพเจ้าอยู่ที่นี่ โปรดส่งข้าพเจ้าไปเถิด” พระองค์ตรัสว่า“ไปเถิด ไปบอกประชากรนี้ว่า ท่านจะฟังแล้วฟังเล่าแต่จะไม่เข้าใจ ท่านจะดูแล้วดูเล่าแต่จะไม่รู้ จงทำให้ใจของประชากรนี้ด้าน ทำให้หูของเขาหนวก ทำให้ตาของเขาบอด ตาของเขาจะไม่ได้เห็น หูของเขาจะไม่ได้ยิน ใจของเขาจะไม่เข้าใจ เขาจะได้ไม่กลับมารับการรักษาให้หาย”

 

           ท่านปฏิบัติภารกิจเป็นเวลา 40 ปี ถวายตัวรับใช้พระเจ้ารับใช้ประชากรของพระองค์ โดยนำพระวาจาของพระเจ้าไปเสริมกำลังใจประชาชาติทั้งหลายให้หันกลับมาหาพระองค์ การที่ประกาศกอิสยาห์มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์ของชาติ ทำให้ท่านกลายเป็นบุคคลสำคัญ ท่านเป็นประกาศกที่เน้นถึงความเชื่อในช่วงเวลาวิกฤติของชาติ ท่านสั่งให้ทุกคนมีความวางใจต่อพระเจ้า เพราะการวางใจต่อพระเจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้นจะนำความรอดพ้นมาให้

 

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน