ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

 ccp038.jpgบทเรียนที่         2 เดือนกุมภาพันธ์ 1997

หัวข้อเรื่อง        พระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 เอกบุรุษผู้เกรียงไกรดุจกองทัพ

จุดมุ่งหมาย     
เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความภาคภูมิใจที่จะยืนหยัดบนความถูกต้องโดยไม่หวั่นไหวต่อกระแสต่อต้านใดๆ ทั้งสิ้น ตามแบบอย่างของพระสันตะปาปา


ขั้นที่ 1 กิจกรรม
                  ให้ผู้เรียนทายคำพังเพย หรือสุภาษิต จากภาพต่อไปนี้ 
                  จะให้ทายเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้
                  (พิมพ์คำพังเพย หรือสุภาษิต 7 ภาพ ตามที่กำหนดไว้ลงตรงเนื้อที่ข้างล่างนี้

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
                 ครูและผู้เรียนช่วยกันคิดพิจารณาดูว่า คำพังเพยและคำสุภาษิตเหล่านี้
                - มีความหมายว่าอย่างไร
                - มีส่วนดีที่สอนใจอะไรบ้าง
                - มีส่วนเสียที่อาจชักพาผู้คนให้ไขว้เขวไปอย่างไร

       สรุป  คำพังเพยและคำสุภาษิตเหล่านี้ เป็นขุมทรัพย์และภูมิปัญญาของคนไทยเรา
              นับแต่อดีตกาลที่เกิดจากประสบการณ์อันยาวนาน แต่กาลเวลาที่เปลี่ยนไป
              อาจจะทำให้ความหมายบางอย่างไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์และสถานการณ์
              ในปัจจุบันได้ จึงจำเป็นจะต้องนำมาให้ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ

ขั้นที่ 3 คำสอน
            1.สังคมสมัยก่อนยังเป็นสังคมเล็กๆ ที่อยู่กันเป็นเอกเทศ ไม่สู้จะไปมาหาสู่หรือผูกพันกันเท่าใดนัก ไม่เหมือนกับสังคมในปัจจุบันที่ใหญ่โตขึ้น ผู้คนติดต่อไปมาหาสู่และมีความสัมพันธ์กันในระดับต่างๆ มากขึ้น สิ่งนี้มีผลทำให้ผู้คนจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน จะอยู่แบบตัวคนเดียวโดยไม่คิดถึงกันไม่ได้ ฉะนั้นคำพังเพยและคำสุภาษิตบางประการที่อาจใช้ได้อย่างเหมาะเจาะในสังคมสมัยก่อน เช่น ปลาใหญ่กินปลาเล็ก มือใครยาวสาวได้สาวเอา น้ำขึ้นให้รีบตัก อิ่มก่อนดูโขนดูหนัง อิ่มทีหลังล้างถ้าวยล้างชาม ฯลฯ ครั้นมาถึงยุคสมัยนี้ อาจจะนำมาใช้เป็นบรรทัดฐานของการดำเนินชีวิตไม่ได้แล้ว เพราะจะเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่อื่น ซึ่งจะเป็นอุสรรคสำหรับชีวิตของสังคมส่วนรวมและเราก็เห็นกับตาเราเองว่ายังมีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ยังยึดติดอยู่กับกระแสที่เกิดจากคำพังเพยและคำสุภาษิตเหล่านี้ ทำให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบกัน การแข่งขันกันแบบใครดีใครอยู่ การสร้างความสำเร็จบนความทุกข์ของคนอื่น หรือที่เรียกว่า การทำนาบนหลังคน ฯลฯ การจะฝืนกระแสนี้ไม่ใช่เป็นสิ่งง่าย ใครเล่าจะสามารถทำได้?
 
2.พระเป็นเจ้าทรงโปรดให้มีผู้หนึ่งเข้ามารับบทบาทหน้าที่นี้อย่างทะนงองอาจ ผู้นั้นคือ สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ประมุขของพระศาสนจักโรมันคาทอลิกองค์ปัจจุบัน ผู้ทรงได้รับสมัญญาว่า “เอกบุรุษ ผู้เกรียงไกรดุจ กองทัพ” (จากหนังสือแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 90 ปีที่ 15 พฤศจิกายน – ธันวาคม 1996/2539) เพราะพระองค์ทรงยืนหยัดยึดมั่นและสั่งสอนความถูกต้องโดยไม่หวั่นเกรงอุปสรรค การต่อต้านขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะจากภายในพระศาสนจักรเอง หรือจากภายนอกพระศาสนจักร พระองค์ทรงนำทัพผู้อยู่ข้างความจริงทั้งหลายออกสู้รบกับความไม่ถูกต้องต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นตามมุมต่างๆ ของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ซึ่งถูกย่ำยีด้วยการทำแท้ง โสเภณี แรงงานเด็ก ผู้อพยพย้ายถิ่นฐานเพราะภัยสงคราม การเข่นฆ่ากันเพราะความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา การคุมกำเนิด การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ฯลฯ พระองค์ทรงปกป้องสิทธิของสตรีอย่างออกหน้าออกตา ทรงยกย่องสถานภาพและบทบาทของสตรีในสังคมมนุษย์ แต่ในเวลาเดียวกันพระองค์ก็ทรงความเด็ดเดี่ยวที่จะประกาศอย่างเปิดเผยว่า ไม่ทรงเห็นด้วยที่จะให้สตรีบวชเป็นพระสงฆ์ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากฝ่ายตรงข้าง

“พระองค์มิได้ตรัสสิ่งที่ทุกคนอยากฟัง แต่พระสมณดำรัสของพระองค์แจ้งชัดและไม่โอนเอน..... พระองค์ทรงคัดค้านและต่อต้านอย่างแข็งขันซึ่งความคิดก้าวหน้าสมัยใหม่ แต่ขัดต่อศีลธรรมมูลฐาน อาทิเช่น มนุษย์มีสิทธิ์ร่วมกับพระเจ้าในการชี้ขาดว่าใครควรจะเกิดและใครไม่ควรเกิด..... พระองค์ทรงประท้วงความไม่เสมอภาคแบบฟ้ากับดินระหว่างคนมีกับคนจน และความทุกข์ทรมานของผู้ตกทุกข์ได้ยาก เนื่องจากความยากจนหรือถูกเบียดเบียนข่มเหงและความอยุติธรรมในรูปแบบต่างๆ..... ผู้มีความคิดต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับพระดำรัสของพระองค์ก็มีเหมือนกัน แต่ไม่มีใครกล้าโต้แย้งเกี่ยวกับความบรุสุทธิ์ยุติธรรมและความครบครันของพระองค์ กับการที่พระองค์ท่านประทานอภัยแก่ผู้ที่ปองร้ายพระองค์โดยสิ้นเชิง ชนิดที่ไม่มีอะไรติดค้างในพระทัยเลย”

 “.....พระประสงค์อันสำคัญของสมเด็จพระสันตะปาปาก็ได้แก่การอธิบายหลักพระคริสตธรรมให้ชัดเจน เยี่ยมเยียนส่วนต่างๆ ของโลก เปิดความสัมพันธ์กับพระศาสนจักรนิกายต่างๆ เพื่อให้บังเกิดเอกภาพ.....”

“ในปัญหาเรื่องศีลธรรมทางเพศซึ่งผู้อยู่ในสหรัฐและยุโรปมักจะมีความคิดเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนและขึ้นอยู่กับมโนธรรมของเขาแต่อย่างเดียว คนอื่นไม่ควรมาเกี่ยวข้อง แต่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงแย้งว่า ถ้าเช่นนั้นแล้ว ใครเล่าจะเป็นผู้ชี้แนะมโนธรรมของพวกเขา?” 

“คุณพ่อโทมัส รีส ประจำศูนย์เทววิทยาวู้ดสต๊อก แห่งมหาวิทยาลัยยอร์จทาวน์ที่กรุงวอชิงตันออกความเห็นว่า ผู้คนที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกับสมเด็จพระสันตะปาปาในเรื่องการคุมกำเนิด การทำแท้ง หรือพวกรักร่วมเพศก็ยังยอมรับว่า พระองค์ตรัสอย่างมีเหตุผล พระองค์ไม่สามารถบังคับพฤติการณ์ดังกล่าว แต่ทรงเตือนพวกเขาให้รำลึกเสมอว่า นี่เป็นปัญหาเรื่องศีลธรรม ไม่ใช่เรื่องการแพทย์หรืเศรษฐกิจ”

“ดังนั้น ทรงถือเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะแสดงพระองค์เป็นผู้ปกป้องคำสอนและความเชื่อคาทอลิก พระองค์ทรงเป็นผู้รักษามาตรฐานทางศีลธรรมทั้งสำหรับคาทอลิกและมิใช่ทั้งทรงใช้สื่อทุกอย่างที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ในการแสดงให้โลกรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด.....”

“พระองค์มิได้ตรัสสิ่งที่ทุกคนชอบฟัง แต่ทรงถือที่เป็นหลักที่จะต้องตรัสเฉพาะสิ่งจำเป็นที่จะต้องให้ทุกคนได้รับรู้..... ปอล จอห์นสัน นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษกล่าวอย่างแน่ใจว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 จะต้องได้รับการยกย่องว่าเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง เพราะทรงเป็นพระสันตะปาปาของที่ประชุมนานาชาติขององค์การโลก และเป็นผู้นำของพระคริสต์ศาสนาที่กำลังรณรงค์กับโลกที่มีความคิดเห็นเป็นปฏิปักษ์”

“สาธุคุณบิลลี่ เกรแฮม นักเทศน์ผิวดำผู้ยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกา กล่าวสดุดีพระองค์ว่า ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ว่า พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาผู้ยิ่งใหญ่ของโลกสมัยใหม่ เพราะเป็นผู้นำอันเข้มแข็งทางมโนธรรมของโลกคริสตัง.....”

 ดังนั้น จึงเป็นความจริงที่กล่าวว่า “สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ทรงมีพลังแห่งวาจาสัจ เป็นเอกบุรุษผู้เกรียงไกรดุจกองทัพ” (จากหนังสือแม่พระยุคใหม่ ฉบับเดียวกัน)
 
 3.ในเมื่อผู้นำของเรา คือสมเด็จพระสันตะปาปาทรงแสดงความกล้าหาญออกต้านกระแสอันไม่ถูกต้องต่างๆ ของโลก เราซึ่งสังกัดในกองทัพธรรมของพระองค์ก็จะต้องลุกขึ้นจับอาวุธเข้าสู้ศัตรูเคียงข้างกับพระองค์ นักบุญเปาโลกล่าวเตือนคริสตชนชาวเมืองเอเฟซัสว่า “จงสวมยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเป็นเจ้า เพื่อจะต่อต้านยุทธอุบายของพญามารได้..... จงเอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก และเอาข่าวดีแห่งสันติภาพซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรักพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยอาศัยโล่นั้นท่านจะได้รับดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ จงถือพระแสงของพระจิตคือพระวาจาของพระเป็นเจ้า” (อพ 6:11-17)

-เอาความจริงคาดเอว หมายถึง การยึดมั่นในความจริง เพื่อต่อสู้กับความเท็จและความหลอกลวง
-เอาความชอบธรรมป้องกันอก หมายถึง การยึดความถูกต้องเป็นชีวิตจิตใจ เพื่อต่อสู้กับความผิดหลง
-เอาข่าวดีมาสวมเป็นรองเท้า หมายถึง การก้าวออกไปประกาศข่าวดี

      “เท้าของคนเหล่านั้นที่นำข่าวดีมาช่างงามจริงหนอ” (รม 10:15)
-เอาความเชื่อเป็นโล่ หมายถึง การพักพิงพระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นองค์ความจริง ยึดพระองค์เป็นสรณะ เพื่อมิให้ตกเป็นเป้าของพวกอธรรม
-เอาความรอดเป็นหมวกเหล็ก หมายถึง เจตนา หรือจิตมุ่งมั่นที่จะบรรลุถึงความรอดนั้นต้องเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตเรา เพื่อต่อสู้กับความสุขชั่วแล่นในโลกนี้
-เอาพระวาจาของพระเป็นเจ้าเป็นอาวุธ หมายถึง การประกาศพระวาจาเปรียบประดุจการซัดสาดอาวุธเข้าใส่ศัตรู เป็นอาวุธที่มิได้มีไว้เพื่อเข่นฆ่า แต่เพื่อให้ชีวิต

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก.ข้อควรจำ
1. ค่านิยมของโลกปัจจุบันขัดแย้งกับค่านิยมของพระเป็นเจ้า โลกสอนให้เห็นแก่ตัว แต่พระเป็นเจ้าทรงสอนให้เสียสละเพื่อผู้อื่น
2. สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอลที่ 2 ทรงเป็นเอกบุรุษผู้เกรียงไกรดุจกองทัพ เพราะพระองค์ทรงกล้าทวนกระแสนิยมของโลกโดยทรงประกาศว่าอะไรถูกต้อง อะไรไม่ถูกต้อง โดยไม่หวั่นเกรงสิ่งใดทั้งสิ้น
3. สมเด็จพระสันตะปาปามิได้ตรัสสิ่งที่ทุกคนอยากฟัง แต่พระสมณดำรัสของพระองค์ชัดเจนและไม่โอนเอน
4. “ข้าพเจ้ามิได้ทูลขอให้พระองค์ยกเขาไปจากโลกเสีย แต่ให้เขาอยู่ในโลกโดยไม่เป็นของโลก” (เทียบ ยน 17:15)
ข.กิจกรรม 
 -ครูจัดทำกระป๋องมหาพรตขึ้นในชั้นเรียน
 -เชิญชวนผู้เรียนให้กระทำกิจพลีกรรม (ฝืนค่านิยมของสังคม) เล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน เช่น อดขนม ตั้งใจเรียน ถือระเบียบวินัยของโรงเรียนอย่างดี สละเวลามาวัด อดทนความลำบาก นบนอบเชื่อฟังพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ช่วยเหลือการงานทางบ้านและโรงเรียน ฯลฯ
 -บริจาคเงินค่าขนม หรือที่อดออมไว้ ใส่ในกระป๋องมหาพรตตามกำลังความสามารถ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ยากจนขัดสน
ค.พิธีปิดภาคเรียนปลายปี
วจนพิธีกรรมเรื่อง “บุญลาภ 8 ประการ”
จัดเตรียมสถานที่ อุปกรณ์ที่ต้องใช้ เช่น พระแท่น ไม้กางเขน เทียน ดอกไม้ พระคัมภีร์ ผู้อ่าน ภาวนาของมวลชน ฯลฯ
 -เพลงเริ่มพิธี
 -ครูกล่าวนำถึงวัตถุประสงค์สั้นๆ
 -อ่านพระวาจา มธ 5:1-22 (เรื่องบุญลาภ 8 ประการ)
 -ครูอธิบายสั้นๆ (บุญลาภของพระเยซูคริสต์ ตรงข้ามกับบุญลาภของโลก)
 -ภาวนาของมวลชน ปิดท้ายด้วย “ข้าแต่พระบิดา”
 -การอำลาแสดงความเป็นมิตรต่อกัน
 -เพลงปิดพิธี

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3
👟"การจาริกแห่งความหวัง"ชุมนุมและฟื้นฟูจิตใจคริสตชนใหม่ สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 3❤️วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรม ราชบุรี...
พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์และปิดการอบรมค่ายคำสอนภาคฤดูร้อน ปี 2025
วันเสาร์ที่ 26 เมษายน 2025 เวลา 09.30 น. พระคุณเจ้าซิสวีโอ สิริพงษ์ จรัสศรี...
วันชุมนุมครูคำสอน สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 31 “ครูคำสอน ผู้จาริกแห่งความหวัง”
🎉วันชุมนุมครูคำสอน สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 31🌈“ครูคำสอน ผู้จาริกแห่งความหวัง” วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2024 ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี...

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 170 ต้นกำเนิดลึกซึ้งที่สุดของพิธีกรรมคืออะไร ?
📍ต้นกำเนิดลึกซึ้งที่สุดของพิธีกรรมคืออะไร ?#YOUCAT 170 บอกเราว่า พิธีกรรมบนโลกนี้...
Youcat 115 เครื่องหมายและชื่อของพระจิตเจ้ามีอะไรบ้าง ?
เครื่องหมายและชื่อของพระจิตเจ้ามีอะไรบ้าง ? #YOUCAT 115 บอกเราว่า......
Youcat 475 พระเยซูเจ้าทรงภาวนาอย่างไร ?
พระเยซูเจ้าทรงภาวนาอย่างไร ? #YOUCAT 475 บอกเราว่า...

พระวาจานำชีวิต

พระตรีเอกภาพ
ถ้อยคำจากพระคัมภีร์ที่กล่าวถึง พระบิดา พระบุตร และพระจิต พระเจ้าองค์เดียวสามพระบุคคล...
ดำเนินชีวิตในพระจิตเจ้า
ชีวิตของผู้ที่มีพระจิตเจ้าประทับอยู่ จะเกิดผลเป็นความดี ขอพระวาจาพระเจ้าเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตในพระองค์ คนชั่วย่อมติดกับดักอยู่ในความชั่วของตน แต่ผู้ชอบธรรมย่อมร่าเริงและยินดี...
ให้ชีวิตเป็นพระพรแก่กันและกัน
ขอพระวาจาพระเจ้านำชีวิตเราให้เป็นพรเพื่อกันและกันในทุกวัน ดั่งเช่นพระนางมารีย์ที่นำพระพรไปสู่นางเอลีซาเบธในวันนี้ ขอพระยาห์เวห์ทรงอวยพรท่านและพิทักษ์รักษาท่าน ขอพระยาห์เวห์ทรงสำแดงพระพักตร์แจ่มใสต่อท่านและโปรดปรานท่าน (กดว....

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC225 เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะนำเสนอแนวทางของการสอนคำสอนที่แตกต่างกันไปตามความต้องการอายุและสภาพชีวิตที่แตกต่างกันของผู้เข้าร่วม
ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะนำเสนอแนวทางของการสอนคำสอนที่แตกต่างกันไปตามความต้องการอายุและสภาพชีวิตที่แตกต่างกันของผู้เข้าร่วม จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ที่จะต้องเคารพความเป็นจริงในการพัฒนาทางมานุษยวิทยาและเทววิทยาทางการอภิบาลโดยคำนึงถึงวิทยาการทางการศึกษา นี่คือเหตุผลว่า ทำไมการสอนจึงมีความสำคัญในขั้นตอนของการสอนคำสอนเพื่อให้แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญและมีความจำเพาะของแต่ละขั้นตอน...
DC224 ทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปได้รับเรียกให้มีวุฒิภาวะทางความเชื่อ มีสิทธิที่จะได้รับการสอนคำสอนอย่างเหมาะสม
ทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปได้รับเรียกให้มีวุฒิภาวะทางความเชื่อ มีสิทธิที่จะได้รับการสอนคำสอนอย่างเหมาะสม ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของพระศาสนจักรที่ต้องตอบสนองต่อสิ่งนี้ในลักษณะที่น่าพอใจ พระวรสารไม่ได้มีไว้สำหรับมนุษยชาติในแบบนามธรรม...
DC223 ควรให้กำลังใจแก่ความพยายามในการสอนคำสอนในสถานที่ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม เป็นความจริงที่พลังของพระศาสนจักรที่เกิดขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นโดยอาศัยการสอนคำสอน ก็มีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่ด้วยเช่นกัน ควรให้กำลังใจแก่ความพยายามในการสอนคำสอนในสถานที่ต่าง...

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

สารคำสอน 182 (ปีการศึกษา2023)

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์

สถิติการเยี่ยมชม

0.png6.png2.png9.png0.png3.png0.png
วันนี้1359
เมื่อวานนี้2394
สัปดาห์นี้10756
เดือนนี้53015
ทั้งหมด629030

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

14
Online

วันศุกร์, 20 มิถุนายน 2568 10:31