CCP ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 บทเรียนที่ 7
เครื่องหมายแห่งความหวังต่อบรรดาผู้ถูกคุมขังและหมดอิสรภาพ
จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
1. รู้และเข้าใจถึงความทุกข์ของบรรดาผู้ถูกคุมขังและหมดอิสรภาพ
2. ตระหนักถึงผลดีของการให้อภัยและให้โอกาสแก่ผู้ถูกคุมขังและหมดอิสรภาพ
3. เป็นเครื่องหมายแห่งความหวังด้วยการเห็นอกเห็นใจและให้อภัยผู้ที่เคยผิดพลาด
กิจกรรม เกมบอลเชลย
อุปกรณ์ ลูกบอล 1 ลูก
ดำเนินการ
1. แบ่งพื้นในสนามเป็นสี่เหลี่ยมสองฝั่ง ให้ผู้เล่นแข่งกันแบ่งเป็น 2 ทีมเท่า ๆ กัน
2. ตัวแทนแต่ละทีมเป่ายิงฉุบกันว่าทีมใดจะได้เล่นบอลก่อน เป้าหมายคือ แต่ละทีมจะต้องปาบอลให้โดนตัวผู้เล่นฝั่งตรงข้ามให้ได้ มีข้อแม้ว่า “ลูกบอลห้ามตกลงพื้นก่อนโดนตัว”
3. ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่ลูกบอลโดนตัว จะต้องออกจากสนามและกลายเป็น “เชลย” ซึ่งเชลยจะถูกส่งตัวไปอยู่ด้านหลังเขตของทีมตรงข้าม
4. หากฝ่ายตรงข้ามสามารถรับบอลที่ปาไปได้โดยบอลไม่ตกลงพื้น จะไม่กลายเป็นเชลยและสามารถปาบอลกลับได้ทันที
5. ในกรณีที่ปาบอลไม่โดนใครเลย ลูกบอลออกนอกเขตไปอยู่ฝั่งไหน ฝั่งนั้นจะได้เล่นบอลต่อ
6. เชลยที่อยู่ด้านหลังเขต ต้องรอจนกว่าสมาชิกทีมฝั่งตนจะปาบอลข้ามไปให้แล้วรับได้ ถึงจะได้รับอิสรภาพ และมีโอกาสกลับไปเป็นผู้เล่นฝั่งตนเองได้อีกครั้ง
7. ทีมใดปาบอลโดนฝั่งตรงข้ามได้จนหมด จะเป็นฝ่ายชนะ ส่วนทีมที่แพ้ให้กระโดดตบ 10 ครั้งหรือลงโทษอื่น ๆ ตามความเหมาะสม (อยู่ในดุลยพินิจของผู้สอน)
วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
1. ผู้เล่นที่โดนลูกบอลและต้องไปเป็นเชลยมีความรู้สึกอย่างไร (เจ็บ, เสียดาย, ไม่นาพลาด, รอคอยให้เพื่อนโยนบอลมาช่วย, ฯลฯ)
2. จากที่เป็นเชลยเมื่อได้รับโอกาสกลับมาเล่นใหม่อีกครั้งรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, ระมัดระวังมากขึ้น ฯลฯ)
3. ผู้ที่โยนบอลให้เพื่อนที่เป็นเชลยกลับมาเป็นผู้เล่นอีกครั้งสำเร็จรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, สะใจ ฯลฯ)
4. ทีมที่แพ้และต้องถูกลงโทษรู้สึกอย่างไร (อยากชนะ, ได้รับอิสรภาพ, เสียดาย, อยากเล่นใหม่อีกครั้ง, ฯลฯ)
5. ผู้เรียนได้รับข้อคิดหรือบทสอนในเรื่องใดบ้างจากกิจกรรมนี้ (ให้ผู้เรียนแบ่งปัน)
สรุป ผู้เล่นที่ถูกลูกบอลโดนตัวต้องหยุดเล่นเพื่อไปเป็นเชลยฝั่งตรงข้าม ต่างรอคอยเพื่อน ๆ ที่จะส่งบอลไปให้ถึงตน โดยหวังที่จะมีโอกาสได้กลับมาเป็นผู้เล่นอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อได้รับโอกาสนั้นแล้ว ก็พยายามระมัดระวังมากขึ้นไม่ให้ลูกบอลมาโดนตัว เพื่อจะได้ไม่ต้องกลับไปเป็นเชลยอีก ทีมที่แพ้ก็มีความหวังว่าจะได้กลับไปเล่นเพื่อแก้ตัวใหม่ จะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ
คำสอน
1. ตามกฎหมายบ้านเมือง เมื่อศาลตัดสินเป็นที่สุดแล้ว ผู้กระทำผิดที่ต้องรับโทษจำคุก จะยาวนานมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความผิด ความเสียหายที่ก่อให้เกิดขึ้น นับเป็นจำนวนวัน เดือน ปีหรือตลอดชีวิต ซึ่งการต้องโทษจำคุก คือการถูกจำกัดอิสรภาพ ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จนกว่าจะถึงวันพ้นโทษและได้กลับออกมาใช้ชีวิตอย่างมีอิสระอีกครั้งหนึ่ง ในประเทศไทย เมื่อถึงวันสำคัญ เช่น วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็จะพระราชทานอภัยโทษให้แก่ผู้ต้องขังที่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้ลดโทษ ผู้ต้องขังทุกคนจึงมีความหวังและรอคอยว่าตนจะได้รับโอกาสนั้น เพื่อจะพ้นโทษและมีอิสรภาพได้เร็วยิ่งขึ้น
2. ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนเราให้นึกถึงนักโทษที่ขาดอิสรภาพ ทุกวันพวกเขาต้องประสบกับความเข้มงวดและข้อจำกัดของการถูกคุมขัง การขาดความรัก และหลายกรณีขาดความเคารพต่อความเป็นบุคคล ทรงขอให้ยกเลิกโทษประหารชีวิต หรือมีการอภัยโทษ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้บุคคลได้ฟื้นคืนความมั่นใจในตนเองในสังคมและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ (เทียบ Spes Non Confundit 10)
3. ในหนังสือของประกาศกอิสยาห์ ได้กล่าว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเจิิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปปลอบโยนคนที่่มีีใจชอกช้ำ ประกาศอิิสรภาพแก่เชลย ประกาศการปลดปล่อแก่ผู้ถููกจองจำ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า” (อิิสยาห์ 61:1-2) และพระเยซููเจ้าได้ทรงปฏิิบััติิตามถ้อยคำเหล่านี้ เมื่อพระองค์ทรงเริ่มปฏิิบััติิพัันธกิิจ โดยแสดงพระองค์ว่า ทรงเป็นผู้กระทำให้เกิิด “ปีแห่งความโปรดปรานของพระเจ้า” (เทีียบ ลููกา 4:18-19)
4. นักบุญมารีอากอแรตตี เป็นแบบอย่างของผู้ที่ให้อภัยและให้โอกาสกับบุคคลที่ทำผิดต่อเธอ เธอถูกชายคนหนึ่งชื่ออเล็กซานโดร พยายามจะทำมิดีมิร้าย เมื่อเธอไม่ยินยอมและร้องขอความช่วยเหลือ เขาก็โมโหฉุนเฉียว ในอารมณ์ชั่ววูบหนึ่งซึ่งขาดสติสัมปชัญญะ ใช้มีดแทงร่างกายของเธอ 14 ครั้ง และวิ่งหนีไป ก่อนเธอหมดลมหายใจ เธอได้บอกว่าอเล็กซานโดรได้พยายามมา 2 ครั้งแล้ว แต่เธอถูกขู่จึงไม่กล้าบอกใครเธอยกโทษให้อเล็กซานโดรและอยากเห็นเขาสักวันหนึ่งในเมืองสวรรค์มารีอากอแรตตี สิ้นใจวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ. 1902 ขณะอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น
อเล็กซานโดรถูกจับกุม ฟ้องศาลดำเนินคดี และถูกตัดสินจำคุก30 ปี ในตอนแรกเขายังมีจิตใจแข็งกระด้าง แต่ 8 ปีต่อมา เขาเล่าว่า มารีอาได้ปรากฏตัวให้เขาเห็นในฝัน เธอสวมชุดสีขาวกำลังเก็บดอกลิลลี่อยู่ในสวน เธอเดินมาใกล้เขาและยิ้มให้ พลางคะยั้นคะยอให้เขารับดอกลิลลี่ในอ้อมแขนของเธอ ขณะที่เขารับดอกไม้จากเธอนั้น ดอกลิลลี่แต่ละดอกได้เปลี่ยนเป็นแสงสีขาว แล้วมารีอาก็จากไป
ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของอเล็กซานโดรได้เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เขาได้กลับใจ และได้เป็นพยานยืนยันถึงคุณธรรมของมารีอากอแรตตีด้วย เมื่อเขาได้รับอิสรภาพแล้ว เขาได้ไปเยี่ยมคารวะและขอขมามารดาของมารีอาและตัดสินใจบวชเป็นภราดาน้อยกาปูชิน วันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 1950 พระสันตะปาปาปีโอที่ 12 ได้แต่งตั้งมารีอากอแเรตตีเป็นนักบุญ และอเล็กซานโดร ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์สำคัญนี้ด้วย เขายังมีชีวิตอยู่ในอารามและทำงานสวนจนสิ้นใจอย่างสงบในปี ค.ศ. 1970 ด้วยอายุ 87 ปี
5. ผู้เรียนสามารถเป็นเครื่องหมายแห่งความหวังให้กับ “บรรดาผู้ถูกคุมขังและหมดอิสรภาพ” ได้ หากผู้เรียนมีคนรู้จักที่เคยติดคุก หรือมีเพื่อนเยาวชนที่ทำผิดต้องไปอยู่ในสถานพินิจ และได้โอกาสกลับมาอยู่ในสังคมอีกครั้งหรืออาจมีเพื่อนที่เคยกระทำผิดต่อเรา และได้รับการลงโทษแล้ว ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์นี้ ขอให้เราจะได้เปิดใจต้อนรับบุคคลเหล่านี้ ให้อภัยในสิ่งที่เขาเคยทำผิด ให้กำลังใจในการที่เขาจะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิต จากที่เคยผิดพลาด สู่การดำเนินชีวิตในความถูกต้อง เพื่อเราแต่ละคนจะได้เป็นเครื่องหมายแห่งความหวังสำหรับพวกเขาอย่างแท้จริง
ก. ข้อควรจำ
1. ในปีศักดิ์สิทธิ์ พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนเราให้นึกถึงนักโทษที่ขาดอิสรภาพ ทรงขอให้ยกเลิกโทษประหารชีวิตหรือมีการอภัยโทษ เพื่อช่วยให้ผู้ที่เคยทำผิดได้มีอิสรภาพและได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
2. พระเยซููเจ้าทรงปฏิิบััติิตามถ้อยคำของประกาศกอิสยาห์ ซึ่งกล่าวว่า“องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปปลอบโยนคนที่่มีีใจชอกช้ำ ประกาศอิิสรภาพแก่เชลย ประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถููกจองจำ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า” (อิิสยาห์ 61:1-2) เมื่่อพระองค์ทรงเริ่มปฏิิบััติิพัันธกิิจ
3. นักบุญมารีอากอแรตตี เป็นแบบอย่างของผู้ที่ให้อภัยและให้โอกาสกับบุคคลที่ทำร้ายเธอเพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้สำนึกผิดกลับใจ และเริ่มต้นชีวิตใหม่
4. โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์นี้ เชิญชวนเราให้เปิดใจต้อนรับบุคคลที่เคยติดคุกหรือเคยทำผิด ให้อภัยให้กำลังใจ เพื่อเขาจะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงชีวิตจากที่เคยผิดพลาดสู่การดำเนินชีวิตในความถูกต้อง
ข. กิจกรรม “การ์ดส่งกำลังใจให้เพื่อน ๆ”
อุปกรณ์ 1. กระดาษการ์ดขนาด A5 ตามจำนวนผู้เรียน 2. สีไม้หรือสีอื่น ๆ ตามความถนัด
ดำเนินการ 1. ให้ผู้เรียนประดิษฐ์ “การ์ดกำลังใจ” เขียนข้อความให้กำลังใจแก่เพื่อน ๆ เยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจหรือบ้านฟื้นฟูเยาวชนที่กระทำผิด เมื่อเสร็จแล้วผู้สอนรวบรวมและนำไปส่งให้ หรือ “ไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจเพื่อน ๆ ในสถานพินิจ”
2. เตรียมกิจกรรม เช่น ร้องเพลง การแสดง หรือกิจกรรมที่เสริมสร้างกำลังใจให้เพื่อน ๆ เยาวชนที่อยู่ในสถานพินิจ หรืออาจเป็นการทำบุญสนับสนุนสิ่งของจำเป็นและนำไปมอบให้ก็ได้
*** ผู้สอนพิจารณาถึงความเหมาะสม ความเป็นไปได้ ซึ่งต้องมีการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสถานพินิจคุ้มครองเด็กก่อน
ค. การบ้าน
1. ภาวนาให้บรรดาผู้ถูกคุมขังและหมดอิสรภาพร่วมกันในครอบครัว
2. กล่าวถ้อยคำให้กำลังใจเพื่อน ๆ หรือบุคคลที่เคยทำผิดพลาดเป็นต้นผู้ที่ทำกับเรา
::: Download บทเรียนที่ 7 ::