CCP ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 บทเรียนที่ 3
ประตูแห่งความหวัง

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
        1. รู้ความหมายของการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ 2025
        2. ตระหนักว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นประตูแห่งความรอดพ้นของเรา
        3. สามารถบอกเล่าและอธิบายภาพเหตุการณ์บนประตูศักดิ์สิทธิ์ได้

กิจกรรม

เด็กเล็ก ภาพเหตุการณ์บนประตูศักดิ์สิทธิ์
อุปกรณ์ ภาพเหตุการณ์บนประตูศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 16 ภาพ
ลิงค์ดาวน์โหลดรูปภาพ https://stpetersbasilica.info/Interior/HolyDoor/Panels/HD-panels.htm

ดำเนินการ
      1. ผู้สอนพิมพ์ภาพหรือเปิดภาพประตูศักดิ์สิทธิ์ โชว์ขึ้นบนจอให้ผู้เรียนดูก่อนเป็นภาพแรก และบอกกับผู้เรียนว่านี่คือภาพประตูศักดิ์สิทธิิ์ เดี๋ยวเราจะมาดูกันว่าเราจดจำใคร หรือภาพเหตุการณ์ใดได้บ้าง
      2. จากนั้นผู้สอนอาจเลือกภาพบางภาพมาให้ผู้เรียนดู (ถ้าเวลาไม่พอ) หรือโชว์ขึ้นบนจอให้ผู้เรียนดูทีละภาพ ตั้งแต่ภาพที่ 1-16 แล้วใช้การสนทนากับผู้เรียนตามคำถามด้านล่าง

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
       1. ภาพบนประตูศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดกี่ภาพ (16 ภาพ)
       2. ในขณะที่ผู้สอนแสดงภาพบางภาพ ถามผู้เรียนว่า ในภาพมีใครบ้าง (ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบ หรือเรียกบางคนตอบ: อาดัม เอวา, พระเยซูเจ้า, พระนางมารีย์, นักบุญยอห์น บัปติส, นักบุญโทมัส ฯลฯ)
       3. เราทราบได้อย่างไรว่าเป็นใคร เราจดจำเหตุการณ์ได้ใช่หรือไม่ มีเหตุการณ์อะไรบ้าง (ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบหรือเรียกบางคน: ภาพมนุษย์ถูกขับออกจากสวนเอเดน, ภาพพระเยซูเจ้ารับพิธีล้าง, ภาพเปโตรปฏิเสธพระเยซู,พระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน, ภาพการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ)
       4. ผู้สอนอธิบายภาพแต่ละภาพคร่าว ๆ ว่ามีเหตุการณ์อะไรบ้าง
       5. ใครเคยเห็นประตูศักดิ์สิทธิ์แบบนี้บ้าง และเห็นที่ไหน (ในรูปภาพ, ที่อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก, อาสนวิหารของตน, ในห้องคำสอน, ในวัดของตน, ในทีวี ฯลฯ)
       6. ทำไมรูปภาพเหล่านี้จึงอยู่บนประตู (เป็นภาพที่ทำให้เราได้เห็นพระเมตตาของพระเจ้า ความรัก ความใจดีที่พระเจ้ามีต่อเรา แม้เราจะเป็นคนบาป, เป็นประวัติศาสตร์ความรอดพ้นของมนุษยชาติ ฯลฯ)

เด็กโต เรียงได้ไหม จำได้หรือป่าว
อุปกรณ์     1. ภาพเหตุการณ์บนประตูศักดิ์สิทธิ์ 16 ภาพ       2. ใบงานแบบประตูศักดิ์สิทธิ์
                 3. เฉลยภาพเหตุการณ์ประตูศักดิ์สิทธิ์                 4. ภาพประตูศักดิ์สิทธิ์


ดำเนินการ
        1. ผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละ 2-3 คน หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้สอน
        2. ผู้สอนแจกภาพเหตุการณ์บนประตูศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 16 ภาพ และใบงานแบบประตูศักดิ์สิทธิ์ให้กลุ่มละ 1 ชุด
        3. ให้ผู้เรียนช่วยกันเขียนหมายเลขลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นลงบนแบบประตูศักดิ์สิทธิ์ ให้เวลาประมาณ 10 นาที
        4. เมื่อครบกำหนดเวลาแล้ว กลุ่มใดเรียงภาพได้ถูกต้องหรือใกล้เคียงที่สุดอาจมีรางวัลให้ ผู้สอนเฉลยคำตอบ

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
       1. ภาพบนประตูศักดิ์สิทธิ์มีทั้งหมดกี่ภาพ (16 ภาพ)
       2. ในขณะที่ผู้สอนแสดงภาพบางภาพ ถามผู้เรียนว่า ในภาพมีใครบ้าง (ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบ หรือเรียกบางคนตอบ: อาดัม เอวา, พระเยซูเจ้า, พระนางมารีย์, นักบุญยอห์น บัปติส, นักบุญโทมัส ฯลฯ)
       3. เราทราบได้อย่างไรว่าเป็นใคร เราจดจำเหตุการณ์ได้ใช่หรือไม่ มีเหตุการณ์อะไรบ้าง (ให้ผู้เรียนช่วยกันตอบหรือเรียกบางคน: ภาพมนุษย์ถูกขับออกจากสวนเอเดน, ภาพพระเยซูเจ้ารับพิธีล้าง, ภาพเปโตรปฏิเสธพระเยซู,
พระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน, ภาพการเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ ฯลฯ)
       4. ใครเคยเห็นประตูศักดิ์สิทธิ์แบบนี้บ้าง และเห็นที่ไหน (ในรูปภาพ, ที่อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก, อาสนวิหารของตน, ในห้องคำสอน, ในวัดของตน, ในทีวี ฯลฯ)
       5. ทำไมรูปภาพเหล่านี้จึงอยู่บนประตู (เป็นภาพที่ทำให้เราได้เห็นพระเมตตาของพระเจ้า ความรัก ความใจดีที่พระเจ้ามีต่อเรา แม้เราจะเป็นคนบาป, เป็นประวัติศาสตร์ความรอดพ้นของมนุษยชาติ ฯลฯ)
       6. ผู้สอนแจกใบงานภาพประตูศักดิ์สิทธิ์ให้กับผู้เรียนและอธิบายเหตุการณ์แต่ละภาพให้ผู้เรียนฟัง

ภาพที่ 1 เครูบผู้ถือดาบเพลิง เฝ้าทางไปสู่ต้นไม้แห่งชีวิต (ปฐก. 3:24)
ภาพที่ 2 มนุษย์ตกในบาป (ปฐก. 3), มนุษย์ถูกขับออกจากสวนเอเดน (ปฐก. 3:23-24)
ภาพที่ 3 พระนางมารีย์รับสาร (ลก. 1:26-38)
ภาพที่ 4 ทูตสวรรค์กาเบรียลแจ้งข่าวแด่พระนางมารีย์ (ลก. 1:26-38)
ภาพที่ 5 พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง (มธ. 3:13-17, ลก. 3:21-22)
ภาพที่ 6 เรื่องแกะที่หายไป (ลก. 15:4-7)
ภาพที่ 7 เรื่องลูกที่หายไป (ลก. 15:11-31)
ภาพที่ 8 พระเยซูเจ้าทรงรักษาคนอัมพาต (มธ. 9:1-7, ลก. 5:17-25)
ภาพที่ 9 หญิงคนบาป (ลก. 7:36-50)
ภาพที่ 10 การให้อภัยความผิด (มธ. 18:21-22)
ภาพที่ 11 เปโตรปฏิเสธพระเยซูเจ้า (มธ. 26:69-75, ลก. 22:54-62)
ภาพที่ 12 ผู้ร้ายกลับใจ (ลก. 23:39-43)
ภาพที่ 13 โทมัสพบพระเยซูเจ้า (ยน. 20:24-29)
ภาพที่ 14 พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระองค์กับบรรดาศิษย์ (ยน. 20:19-23)
ภาพที่ 15 เซาโลกลับใจ (กจ. 9:1-19)
ภาพที่ 16 พิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์

               สรุป  พระวาจาของพระเจ้าเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับชีวิตคริสตชน เพราะพระวาจาพระเจ้าเป็นหนทางที่นำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร โดยผ่านทางความเชื่อในองค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นองค์แห่งความหวังของเรา เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะฟังพระวาจาพระเจ้า เพื่อจะเข้าใจและจะได้นำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้อย่างดีและอย่างสม่ำเสมอ

คำสอน                                                              

           1. ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบัน ปัจจัยที่จำเป็นและเปรียบเสมือนประตูสู่ความสุขของมนุษย์ก็คือ“เงิน” แม้ปัจจัยทั้ง 4 ที่ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากที่สุดสำหรับมนุษย์ ก็ยังต้องใช้เงินในการซื้อมา เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า “เงินซื้อทุกอย่างไม่ได้ แต่ทุกอย่างต้องใช้เงิน” แล้วอะไรบ้างที่เงินซื้อไม่ได้ นั่นก็คือความรัก ความสุข เวลาและสุขภาพ แต่พอมาคิดดี ๆ ถ้าเราใช้เงินในทางที่ถูกต้อง เงินก็สามารถเป็นใบเบิกทางที่จะนำความสุข ความรักและเวลาที่ใช้ไปโดยไม่รู้สึกเสียดาย รวมถึงการรักษาพยาบาล และการเลือกอาหารการกินเพื่อสุขภาพที่ดีได้ แต่ต่อให้มีเงินที่ซื้อทุกอย่างที่กล่าวมาข้างต้นได้ ก็เกิดคำถามตามมาอีกว่า ถ้าเช่นนั้น คนรวยทุกคนก็ไม่มีความทุกข์ ถูกต้องไหม ก็ไม่ใช่ ฉะนั้น ความรวยหรือการมีทุกอย่างพร้อมก็ไม่ได้การันตีถึงการมีความสุขแท้เสมอไป ซึ่งทุกคนก็ล้วนแต่แสวงหาชีวิตที่มีความสุข แล้วชีวิตคริสตชนของเราล่ะ อะไรคือประตูที่จะนำเราไปสู่ความสุขที่แท้จริง

          2. พระศาสนจักรมีเครื่องหมายประการหนึ่ง ที่จะนำเราไปพบกับความสุขที่แท้จริง คือประตูศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะถูกเปิดออกในทุก ๆ ปีศักดิ์สิทธิ์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ทุกคนได้พบ “พระพักตร์แห่งพระเมตตาของพระเจ้า” ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ ประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตรถูกเปิดออกแล้ว เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2024 ซึ่งเป็นการเริ่มต้นปีศักดิ์สิทธิ์ และจะปิดในวันที่ 6 มกราคม 2026 เป็นการสิ้นสุดปีศักดิ์สิทธิ์

           3. การเปิดประตูในปีศักดิ์สิทธิ์ เป็นโอกาสให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ความรักอย่างเข้มข้นของพระเจ้า ผู้ทรงปลุกความหวังอันแน่นอนแห่งความรอดในพระคริสตเจ้าในใจของทุกคน และปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้จะนำเราเข้าสู่การเฉลิมฉลองครั้งสำคัญ เนื่องจากปีศักดิ์สิทธิ์ 2033 จะเป็นปีที่จะเฉลิมฉลองครบรอบสองพันปีแห่งการไถ่บาป ซึ่งสำเร็จสมบูรณ์ด้วยพระมหาทรมาน การสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า (Spes Non Confundit 6)

           4. เราจะได้พบเจอโอกาสพิเศษที่จะได้รับพระหรรษทานเช่นนี้ในปีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ซึ่งหมายความว่าต้องรอถึง 25 ปี แต่พระหรรษทานของพระเจ้ามีมากกว่านั้น นอกจากประตูศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นหนทาง และสัญลักษณ์ที่นำเราเข้าสู่พระหรรษทานของพระเจ้าแล้ว เรายังมีประตูแห่งความรอดอีกบานหนึ่งที่ไม่ต้องรอถึง 25 ปี ประตูนั้นคือองค์พระเยซูคริสตเจ้านั่นเอง พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นประตู ผู้ที่เข้ามาทางเราก็จะรอดพ้น”(ยน. 10:9) พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นประตูแห่งความรอดพ้นของเราเป็นความหวังอันสูงสุดของเรา และประตูบานนี้แหละที่จะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร

              ฉะนั้น คริสตชนไม่ควรแต่แสวงหาเงินทอง หรือความมั่งคั่งของชีวิตในโลกนี้เป็นสิ่งสูงสุดเท่านั้น แต่ต้องแสวงหาความรอด เพราะเราเชื่อว่าชีวิตของเราไม่ได้จบเพียงแค่โลกนี้ แต่คือชีวิตนิรันดรที่เป็นเป้าหมายสูงสุดผ่านทางความเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นประตูแห่งความรอดและความหวังของเรา

ก. ข้อควรจำ
     1. การเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์แห่งการเริ่มต้นปีศักดิ์สิทธิ์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อต้องการให้ทุกคนได้พบ “พระพักต์แห่งพระเมตตาของพระเจ้า”
     2. พระสันตะปาปาฟรังซิส ทรงเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตร เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2024 และจะปิดในวันที่ 6 มกราคม 2026 เป็นการสิ้นสุดปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
      3. พระเยซูคริสตเจ้าทรงเป็นประตูที่จะนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร

ข. กิจกรรม    ที่แขวนประตูแห่งความหวัง

อุปกรณ์  1. กระดาษรูปแบบที่แขวนประตู  
               2. ดินสอ
               3. สีไม้หรือสีชนิดอื่นก็ได้
               4. กรรไกร

ดำเนินการ       

สำหรับเด็กเล็ก 1. ผู้สอนพิมพ์ภาพที่แขวนประตูตามแบบ และตัดออกมาเป็นแบบที่สำเร็จพร้อมสำหรับแจกผู้เรียน
                        2. ผู้สอนแจกดินสอและสี ตามจำนวนผู้เรียน
                        3. ให้ผู้เรียนตกแต่งและระบายสีให้สวยงาม -- ผู้สอนตรวจสอบผลงาน

สำหรับเด็กโต  1. ผู้สอนพิมพ์ภาพที่แขวนประตูตามแบบ พร้อมกรรไกร ดินสอและสีแจกให้ตามจำนวนผู้เรียน
                       2. ให้ผู้เรียนวาดภาพพระเยซูเจ้าลงบนที่วางตรงกลาง พร้อมตกแต่งและระบายสี ให้สวยงาม เมื่อเสร็จแล้วให้ผู้เรียนตัดออกมาเป็นที่แขวนประตูตามแบบ

ค. การบ้าน              

       1. ให้ผู้เรียนเลือกภาพที่ประทับใจบนประตูศักดิ์สิทธิ์มา 1 ภาพ และอธิบายเหตุผลที่ประทับใจให้กับผู้สอนและเพื่อน ๆ ฟัง อาจทำในคาบเรียนเลยถ้ามีเวลา หรือในการพบปะกันในครั้งต่อไป
       2. ให้ผู้เรียนนำผลงาน «ที่แขวนประตูแห่งความหวัง» กลับไปให้คนในครอบครัวดู พร้อมทั้งอธิบายด้วยว่า ทำไมที่แขวนประตูจึงต้องเป็นรูปพระเยซูเจ้า
       3. ให้ผู้เรียนนำที่แขวนประตูไปแขวนไว้ที่ประตูบานใดบานหนึ่งของบ้าน หรือห้องนอนของตน พร้อมทั้งถ่ายรูปส่งให้ครูผู้สอนดูเป็นการส่งการบ้าน

       ::: Download บทเรียนที่ 3 ::