CCP ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 บทเรียนที่ 4
จาริกแห่งความหวัง

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
         1. รู้และเข้าใจความหมายของคำว่าจาริกแสวงบุญ
         2. เห็นคุณค่าของการจาริกแสวงบุญ
         3. ไปจาริกแสวงบุญ ณ วัดที่พระศาสนจักรกำหนด อย่างน้อย 1 วัด

กิจกรรม   การจาริกแห่งความหวัง
อุปกรณ์ หนังสือ/ชีทวจนพิธีกรรมสั้น ๆ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของผู้สอน

ดำเนินการ
      1. ผู้สอนจัดหาและเตรียมสถานที่ ๆ ใช้เป็นจุดแสวงบุญสำหรับผู้เรียน อาจเป็นวัดหรือบริเวณที่ตั้งรูปพระที่สำคัญ ๆ ในโรงเรียนก็ได้ ให้กำหนดสถานที่มากกว่า 1 จุด
      2. ผู้สอนจำลองการเดินทางแสวงบุญ โดยพาผู้เรียนเดินไปยังสถานที่ ๆ กำหนดไว้ เมื่อไปถึงแต่ละสถานที่ ให้ทำวจนพิธีกรรมสั้น ๆ อาจเป็นการภาวนาเพื่อรับพระคุณการุณย์ การภาวนาสายประคำ การอ่านพระวาจาเกี่ยวกับความหวัง ฯลฯ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้สอน
      3. เมื่อจำลองการเดินทางแสวงบุญจนครบตามที่กำหนดแล้ว ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน (อาจใช้สถานที่แสวงบุญในจุดสุดท้ายในการพูดคุย แต่หากสภาพแวดล้อมไม่เอื้อ ให้พาผู้เรียนกลับมายังห้องคำสอนหรือห้องเรียน)

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
       1. ระหว่างที่เดินทางไปแต่ละจุดรู้สึกอย่างไรบ้าง (เหนื่อย, ร้อน, เมื่อยขา, สนุก ฯลฯ)
       2. เมื่อเดินทางถึงจุดหมายปลายทางแล้วรู้สึกอย่างไร (ดีใจ, รู้สึกว่าได้พักแล้ว, หายเหนื่อย, อยากไปต่ออีก ฯลฯ)
       3. ในชีวิตเราต้องเดินทางไปที่ไหนบ้าง และทำไมเราต้องเดินทางไปยังที่แห่งนั้น (ให้ผู้เรียนแบ่งปัน)
       4. ใครเคยมีประสบการณ์ที่ดีเกี่ยวกับการเดินทางบ้าง เพราะอะไร (ให้ผู้เรียนแบ่งปัน)
       5. ผู้เรียนคิดว่าทำไมเราต้องเดินทางแสวงบุญ (ไปศึกษาหาความรู้, ไปเยี่ยมเยียนวัดอื่น ๆ, เพื่อจะได้รับพร,เพื่อรับพระคุณการุณย์, เพราะพระศาสนจักรกำหนดให้ทำ, ยากไป ฯลฯ)

               สรุป  ชีวิตคริสตชนเปรียบเสมือนการเดินทาง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อเราได้รับเครื่องหมายแห่งการเป็นคริสตชนผ่านทางศีลล้างบาป เราต้องเดินทางเพื่อแสวงหาความรอดฝ่ายวิญญาณ เพราะฉะนั้น คริสตชนไม่ได้มีเป้าหมายในการเดินทางบนโลกนี้เพียงอย่างเดียว แต่ต้องเดินทางสู่ชีวิตนิรันดรในโลกหน้า โดยผ่านทางพระเยซูเจ้า ผู้ทรงเป็นประตูที่จะนำพาเราให้เดินทางไปจนถึงเป้าหมาย

คำสอน                                                              

             1. ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ความต้องการในการเดินทาง และการขนส่งของมนุษย์เพิ่มมากขึ้น ยิ่งเทคโนโลยีเจริญเติบโตมากเท่าไร ความสะดวกสบายก็เจริญเติบโตมากขึ้นเท่านั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า การคมนาคมเป็นตัวแปรสำคัญในกิจกรรมเกือบทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ การคมนาคมที่ดีสามารถทำให้ธุรกิจขยายผลและเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การเจริญเติบโตของชีวิตผู้คนจึงประกอบไปด้วยการเดินทาง เหตุผลที่ผู้คนออกเดินทางมีมากมายไม่ว่าจะเป็นการแสวงหาที่ใหม่ ๆ ในการศึกษา การทำงาน การท่องเที่ยวหรือการพักผ่อนส่วนตัว การอพยพย้ายถิ่นฐาน รวมถึงในด้านของศาสนาและจิตวิญญาณ อย่างเช่นการแสวงบุญ ฯลฯ การเดินทางจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ปัจจุบัน รวมไปถึงเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตคริสตชนด้วย

            2. ย้อนกลับไปในสมัยของพระเยซูเจ้า พระองค์ก็เดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ เพื่อเทศนาสั่งสอนและช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก หลังจากที่พระองค์เสด็จสู่สวรรค์แล้ว บรรดาศิษย์ต่างก็ออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อการประกาศข่าวดีนักบุญเปาโลที่ได้ชื่อว่าเป็นธรรมทูตที่ยิ่งใหญ่ของพระเยซูคริสตเจ้า หลังจากกลับใจเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตท่านออกเดินทางไปยังที่ต่าง ๆ การเดินทางของท่านไม่ได้ราบเรียบ แต่กลับพบเจอกับความยากลำบากมากมายจนการประกาศข่าวดีของท่าน ได้กลายมาเป็นแบบอย่างชีวิตของผู้แพร่ธรรม จึงเห็นได้ว่าชีวิตคริสตชนนอกจากการดำเนินชีวิตที่ต้องเป็นประจักษ์พยานถึงพระคริสตเจ้าแล้ว การออกไปประกาศข่าวดีก็เป็นหน้าที่ของเราทุกคน โดยเริ่มจากบุคคลที่สิ้นหวังและกำลังแสวงหาพระเจ้า แต่บางครั้งเราก็กลับกลายเป็นผู้สิ้นหวังเสียเอง

             3. พระศาสนจักรเข้าใจในความอ่อนแอ ท้อแท้ และสิ้นหวังนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิสจึงได้ออกสมณโองการ“ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” ซึ่งกล่าวว่า “ชีวิตคริสตชน คือการเดินทางที่เรียกร้องให้มีช่วงเวลาที่เข้มข้นมากขึ้นในการส่งเสริมและรักษาความหวัง ซึ่งเป็นเสมือนเพื่อนร่วมทางของเรา ที่จะคอยแนะนำขั้นตอนให้เราก้าวเข้าสู่เป้าหมายของการพบกับพระเยซูเจ้าได้มากขึ้น” (Spes Non Confundit 5) ดังนั้น คริสตชนจึงไม่ได้ออกเดินทางเพื่อการประกาศข่าวดีเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเป็นการจาริกเพื่อแสวงหาความหวังในการพบกับพระเยซูเจ้าในชีวิตให้มากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้การจาริกยังเป็นเครื่องหมายของการเดินทางเพื่อกลับไปหาพระเจ้า กลับไปมีความหวังในพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการกลับใจที่แท้จริง และเป็นหนทางที่จะนำเราไปพบกับพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นองค์ความหวังแห่งความรอดของเรา

              4. ด้วยเหตุนี้ พระศาสนจักรจึงกำหนดให้การจาริกแสวงบุญ เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 เพื่อให้คริสตชนจะได้ออกแรงที่จะแสวงหาความรอด ในการพบปะกับพระเยซูคริสตเจ้า แม้ในระหว่างเส้นทางแห่งการจาริก จะต้องประสบพบเจอกับความยากลำบากต่าง ๆ เช่นเดียวกับเส้นทางของชีวิตคริสตชน ที่บางครั้งทำให้เราเหนื่อยหรือท้อแท้ และไม่อยากที่จะเดินอีกต่อไป แต่เราต้องไม่ละทิ้ง ด้วยความหวังและความมั่นใจว่าเมื่อได้พบกับพระเยซูเจ้าแล้วพระองค์จะเป็นผู้นำความรอดอย่างแท้จริงมาให้เรา พระศาสนจักรเปิดโอกาสให้มีการจาริกแสวงบุญ โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้เชิญชวนให้พระศาสนจักรในแต่ละเขตปกครอง จัดให้มีวัดสำหรับแสวงบุญขึ้น และเชิญชวนให้คริสตชนได้ออกเดินทางจาริกแสวงบุญไปตามวัดต่าง ๆ ที่กำหนดเพื่อรับพระคุณการุณย์ เป็นการเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ร่วมกัน

ก. ข้อควรจำ
    1. การจาริกแสวงบุญของคริสตชน เป็นการเดินทางเพื่อแสวงหาการพบกับพระเยซูคริสตเจ้าในชีวิตมากยิ่งขึ้น
    2. ในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ พระศาสนจักรเชิญชวนให้คริสตชนออกเดินทางแสวงบุญไปยังเขตวัดต่าง ๆ ตามที่พระศาสนจักรกำหนด เพื่อรับพระคุณการุณย์และเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ร่วมกัน

ข. กิจกรรม 

  
เด็กเล็ก ใบงาน วัดแสวงบุญในสังฆมณฑลของเรา

เด็กโต ใบงาน วัดแสวงบุญในประเทศไทย

ดำเนินการ 1. ผู้สอนแจกใบงานให้ผู้เรียนแต่ละคน
                  2. ให้ผู้เรียนช่วยกันค้นหา อาจทำเป็นกลุ่มเพื่อความรวดเร็ว แต่หากผู้เรียนไม่รู้ จดจำไม่ได้ให้นำกลับไปทำที่บ้าน และนำกลับมาส่งในการเรียนครั้งต่อไป
                  3. ผู้สอนอาจพิมพ์ข้อมูล “วัดจาริกแสวงบุญในประเทศไทย” ให้ผู้เรียนนำไปเขียนลงใบงานก็ได้
                  4. ผู้สอนติดตามและตรวจสอบความถูกต้อง

ค. การบ้าน              

       1. ให้ผู้เรียนนำใบงานให้สมาชิกในครอบครัวดู และเล่าให้คนที่บ้านฟังว่ามีวัดแสวงบุญอยู่ที่ใดบ้าง
       2. ให้ผู้เรียนเชิญชวนสมาชิกในครอบครัวไปแสวงบุญยังวัดที่พระศาสนจักรกำหนด อย่างน้อย 1 วัด
       3. ในโอกาสปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ ให้ผู้เรียนรับศีลอภัยบาปและตั้งใจรับพระคุณการุณย์อย่างดีในทุกวัดที่ผู้เรียนมีโอกาสไปแสวงบุญ

       ::: Download บทเรียนที่ 4 ::