CCP ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 บทเรียนที่ 1
ความหมายของความหวัง และตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
        1. รู้ความหมายของปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 และตราสัญลักษณ์
        2. เข้าใจและเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ด้วยความยินดี
        3. บอกเล่าความหมายของปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 และตราสัญลักษณ์ได้

กิจกรรม   ต่อจิ๊กซอว์ ภาพ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025”

อุปกรณ์     ภาพจิ๊กซอว์ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” ตามจำนวนกลุ่มผู้เรียน


ดำเนินการ   1. ผู้สอนพิมพ์ภาพ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” และตัดภาพที่พิมพ์ออกมาให้ได้ 10 ชิ้นตามรอยปะ ในตำแหน่งที่เหมือนกันทุกภาพ แล้วใส่ซองไว้
                    2. แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มเท่า ๆ กัน แจกซองจิ๊กซอว์ภาพ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025”กลุ่มละ 1 ซอง
                    3. ให้ผู้เรียนช่วยกันต่อจิ๊กซอว์ให้เป็นภาพที่สำเร็จสมบูรณ์ในเวลาที่กำหนด ประมาณ 3-5 นาทีหรือให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้สอน
                    4. ผู้สอนตรวจสอบความถูกต้อง อาจมีรางวัลเล็กน้อยสำหรับกลุ่มที่ต่อได้เสร็จก่อนและถูกต้อง

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน           
            1. ภาพที่ผู้เรียนช่วยกันต่อคือภาพอะไร (ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025)
            2. ผู้เรียนเห็นสิ่งใดในภาพบ้าง (คน 4 คน มี 4 สี, กางเขน, สมอเรือ, คลื่นทะเล,คำว่า บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง และปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025)
            3. ภาพคน 4 คน มีลักษณะเป็นอย่างไร (กำลังเกาะกัน กอดกัน และคนหน้าสุดกอดกางเขน)
            4. ผู้เรียนคิดว่า กางเขน, สมอเรือ, คลื่นทะเล และคน 4 คน หมายถึงอะไร (ให้ผู้เรียนได้ลองร่วมกันตอบ ถูก-ผิดไม่เป็นไร ผู้สอนชมเชยหากมีคนตอบถูก อาจมีรางวัลหรือขนมมอบให้)
            5. ผู้สอนอธิบายความหมายของตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 โดยเริ่มจาก คน 4 คน, กางเขน, สมอเรือ, คลื่นทะเล และคำว่า บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง

ความหมายของตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
            1. “คน 4 คน” มีลักษณะเหมือนใบเรือ พวกเขาเป็นตัวแทนของคนทั้ง 4 มุมโลก คือ แอฟริกา อเมริกา เอเชีย และยุโรป พวกเขากำลังสวมกอดกันและหันหน้าไปในทิศทางเดียวกัน แสดงให้เห็นถึงความเป็นพี่เป็นน้อง และความเป็นหนึ่งเดียวกัน การก้าวเดินไปด้วยกัน ต่างคนต่างเป็นแรงผลักดันให้เดินไปพร้อม ๆ กันในหนทางที่
กางเขนจะนำไป

           2. “กางเขน” มีลักษณะเหมือนเสากระโดงเรือ หมายถึงพระเยซูคริสตเจ้า คนทั้ง 4 คนที่กำลังกอดกางเขน คือชีวิตที่ยึดติดและสนิทสัมพันธ์กับพระเยซูคริสตเจ้า ในการเดินทางร่วมกันครั้งนี้มีกางเขนเป็นผู้นำทาง

           3. “ลักษณะของกางเขนที่โค้งงอ” จะเห็นว่ากางเขนไม่ได้ตั้งตรงแต่กำลังโค้งเข้ามาหาคนทั้ง 4 คน ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนไหวของคลื่น และหมายถึงการถ่อมองค์ของพระเยซูคริสตเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อเป็นหนึ่งเดียว
และร่วมเดินทางไปกับเรา

          4. “สมอเรือ” เป็นหลักมั่นคงคอยควบคุมให้เราปลอดภัยและยึดแน่นอยู่ตรงจุดที่เราต้องการ ในยามที่เจอคลื่นพายุ ในที่นี้ สมอเรือหมายถึง “ความหวัง” สมอเรือซึ่งอยู่ด้านล่างของกางเขนคือพระเยซูคริสตเจ้า ซึ่งเป็นความหวังของเรา พระองค์เป็นดั่งสมอเรือแห่งความหวังที่ยึดเราไม่ให้ล่มจมเมื่อยามที่เจอคลื่นลมพายุ

           5. “คลื่นทะเล” หมายถึง การแสวงบุญของชีวิตที่ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป

           6. คำว่า “บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง” หมายถึง เราซึ่งพร้อมกับมนุษย์ทุกคน ที่กำลังออกเดินทางไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์บนเส้นทางจาริกแห่งความหวังนี้ โดยมีพระเยซูคริสตเจ้าเป็นศูนย์กลางแห่งความหวังของเรา

                 สรุป   ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ เป็นปีของ “บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง” ซึ่งเราผู้เป็นคริสตชนจะต้องดำเนินชีวิตเช่นเดียวกันกับผู้คนทั้ง 4 ที่อยู่ในตราสัญลักษณ์ โดยยึดพระเยซูเจ้า ผู้เป็นองค์ความหวังของเราเป็นศูนย์กลางของชีวิต ร่วมเดินทางและเฉลิมฉลองปีแห่งความหวังนี้ไปกับพระองค์ ในการแสวงหาความรอดของวิญญาณโดยมีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่เสมอ และเราจะมาเรียนรู้กันว่าปีศักดิ์สิทธิ์คืออะไร ความหวังคืออะไร และทำไมเราถึงต้องมีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า

คำสอน                                                              

              1. ในโลกปัจจุบันกับสังคมที่บิดเบี้ยว ความขัดแย้งทางการเมือง ความเป็นอยู่ของผู้คน ภัยธรรมชาติ โรคระบาด สงคราม รวมทั้งค่านิยมต่าง ๆ ที่ทำให้มนุษย์ไม่มีอิสรภาพในการใช้ชีวิตได้อย่างที่ใจต้องการ ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีผู้คนมากมายกำลังดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความสิ้นหวัง ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีพลังในการดำเนินชีวิต ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตนี้ไปเพื่ออะไร ถ้าเรามองดูสังคมปัจจุบัน จะเห็นว่าการใช้ชีวิตในแต่ละวันของผู้คนนั้น ไม่เป็นไปดั่งที่ใจของพวกเขาปรารถนาสักเท่าไรบางคนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะตั้งความหวังเสียด้วยซ้ำ ขอแค่มีข้าวกิน มีที่ให้นอน ใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นไปในแต่ละวันก็เพียงพอ ไม่มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ อาจด้วยภาระผูกพันหลายอย่าง การเป็นผู้นำครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทำงานนอกเวลา ปัญหาหนี้สิน สภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม การไม่มีความรู้ ฯลฯสิ่งเหล่านี้เป็นข้อจำกัดในความหวังของแต่ละคน ความหวังเดียวที่พวกเขามีคือคำปลอบใจที่บอกว่า“ไม่คาดหวังก็ไม่ต้องผิดหวัง” แต่มนุษย์ไม่อาจดำเนินชีวิตโดยไร้ความหวังได้ แม้ในขณะที่ี่พวกเขากำลังบอกว่า “ไม่คาดหวังก็ไม่ต้องผิดหวัง” พวกเขาก็กำลังหวังอยู่ว่าจะไม่ผิดหวังอีกนั่นเอง

             2. พระสันตะปาปาฟรังซิสทรงมองเห็นสถานการณ์ในโลกปัจจุบันที่เป็นเช่นนี้ พระองค์ทรงต้องการให้เรากลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง ดั่งจิตวิญญาณแห่งความหวังที่นักบุญเปาโลได้กล่าวไว้แก่คริสตชนในกรุงโรม“ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (รม. 5:5) เป็นช่วงเวลาพอดีที่ปี ค.ศ. 2025 นี้ตรงกับปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับพระศาสนจักรคาทอลิกของเรา

                สืบเนื่องมาจากประเพณีดั้งเดิมที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกาศให้ทุก ๆ 25 ปี เป็นปีศักดิ์สิทธิ์เป็นปีพิเศษแห่งพระหรรษทานที่พระศาสนจักรจะมอบให้กับคริสตชน ถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รับพระคุณการุณย์ (การอภัยโทษของบาป) ครบบริบูรณ์

                ปีศักดิ์สิทธิ์หรือปีจูบีลี (Jubilee) ในพระคัมภีร์ตามศัพท์ภาษาฮีบรูใช้คำว่า “Jobel” แปลว่า “เขาสัตว์” หรือที่ชาวยิวสมัยก่อนเรียกกันว่า “ปีเป่าเขาสัตว์” โดยชาวยิวจะประกาศปีที่ว่านี้ด้วยการเป่าเขาสัตว์ในทุก ๆ 50 ปี องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดปีเป่าเขาสัตว์นี้ให้กับชาวยิว เพื่อประชากรของพระองค์รวมทั้งแผ่นดินสิ่งสร้างของพระองค์จะได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ ดังนั้น ในปีเป่าเขาสัตว์ชาวยิวจะมีข้อปฏิบัติ 4 ประการ ได้แก่
               1. ที่ดินจะได้รับการคืนสู่เจ้าของเดิม (ลนต. 25:23-34)
               2. คนที่เป็นทาส จะได้รับการปลดปล่อยให้เป็นอิสระ (ลนต. 25:35-54)
               3. สมาชิกในครอบครัวจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง (ลนต. 25:41)
               4. คนที่มีหนี้สินจะได้รับการยกหนี้ (ฉธบ. 15:1-10)

              การเฉลิมฉลองปีเป่าเขาสัตว์หรือปีศักดิ์สิทธิ์นั้นได้ปฏิบัติกันเรื่อยมาในพระศาสนจักรคาทอลิก จากทุก ๆ 50 ปีจนมาเป็นทุก ๆ 25 ปีในปัจจุบัน และพระสันตะปาปาฟรังซิสได้ประกาศให้ปี 2025 นี้เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ ในหัวข้อ“บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง” พระองค์ทรงนึกถึงการแสวงบุญของคริสตชน ที่เดินทางมายังกรุงโรมเพื่อเฉลิมฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ เป็นการเดินทางแสวงหาความรอดโดยผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นประตูที่จะนำเราไปสู่ความรอด และพระองค์ทรงเป็นองค์ “ความหวังของเรา” (1 ทธ. 1:1)

             3. ความหวังคืออะไร ในความหมายโดยทั่วไป ความหวังเป็นสิ่งที่มนุษย์ปรารถนาให้เกิดขึ้นในอนาคตโดยมีเป้าหมายที่ต้องการไปให้ถึง เป็นที่ทราบกันดีว่า ความหวังมีผลดีต่อสมอง หากเรามีความหวัง เมื่อต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก สมองของเราจะทำงานได้ดีขึ้น และความหวังทำให้เรามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจในเชิงบวกเพิ่มมากขึ้น เช่น คนที่อยากลดน้ำหนักโดยมีความปรารถนาว่าอยากจะมีรูปร่างที่ดี มีสุขภาพที่ดี ความปรารถนาเหล่านี้ก่อให้เกิดความหวังในอนาคต เป็นแรงบันดาลใจให้เขาเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต เปลี่ยนการกินและเลือกทำแต่สิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายคนก็ละทิ้งเป้าหมายนั้นเพียงเพราะมันลำบาก ต้องใช้เวลา ใช้ความเพียรทน ต้องบังคับควบคุมตน เมื่อทำไม่ได้เลยทำให้ผิดหวัง แล้วความหวังใดล่ะ ที่จะไม่ทำให้เราผิดหวัง

             4.“ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (รม. 5:5) คือ หวังในพระเจ้าเท่านั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่ทำให้ผู้ที่วางใจในพระองค์ผิดหวัง เพราะสิ่งที่เราหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่จับต้องได้หรือสิ่งที่อยู่บนโลกนี้เท่านั้น แต่พระองค์ทรงเป็นองค์ความหวังแห่ง “ความรอด” ของเรา เป็นที่ลี้ภัยและพละกำลังของเรา เป็นดั่งสมอเรือที่เรายึดไว้ท่ามกลางกระแสน้ำแห่งปัญหาที่เข้ามารุมเร้าชีวิต หากเราวางใจในองค์พระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นสมอเรือไม่ว่าเราจะปะทะกับคลื่นลูกใหญ่สักเพียงใด มันก็จะไม่มีวันชนะเราได้เลย ความหวังนี้แหละ เป็นแรงผลักดันให้เดินหน้าต่อไปโดยไม่ละความพยายามไปจาก “ชีวิตนิรันดร” อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตคริสตชน

            ขอให้ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ เป็นปีแห่งความหวังของเราอย่างแท้จริง เป็นความหวังที่จะฟื้นฟูความไว้วางใจซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการเห็นในสังคมและพระศาสนจักรของเรา ขอให้เรามีความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างแน่วแน่ และแพร่กระจายความหวังนี้ออกไปยังผู้คนที่สิ้นหวัง ให้พวกเขาทั้งหลายได้รู้ว่า ความหวังในองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่ไม่ทำให้เราผิดหวัง (Spes Non Confundit 2025)

ก. ข้อควรจำ
      1. พระศาสนจักรได้กำหนดให้ทุก ๆ 25 ปี เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นปีพิเศษแห่งพระหรรษทานที่พระศาสนจักรจะมอบให้กับคริสตชนถึงความเป็นไปได้ที่จะได้รับพระคุณการุณย์ (การอภัยโทษของบาป) ครบบริบูรณ์
      2. พระสันตะปาปาฟรังซิสได้ประกาศให้ปี 2025 เป็นปีศักดิ์สิทธิ์ในหัวข้อ “บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง”
      3. พระวาจาประจำปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ คือ “ความหวังนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง” (รม. 5:5)
      4. “ชีวิตนิรันดร” เป็นความหวังสูงสุดของชีวิตคริสตชน
      5. เราจะได้รับความรอดโดยผ่านทางพระเยซูคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นองค์แห่งความหวังของเรา

ข. กิจกรรม    

เด็กเล็ก  ระบายสีภาพ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” 

อุปกรณ์  1. ภาพระบายสีตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ตามจำนวนผู้เรียน
              2. รูปต้นแบบตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025
              3. สีไม้หรือสีชนิดอื่นก็ได้

ดำเนินการ       1. ผู้สอนจัดพิมพ์และแจกภาพระบายสีตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 ให้ผู้เรียนคนละ 1 แผ่น พร้อมสีไม้หรือสีชนิดอื่น
                        2. ให้ผู้เรียนระบายสีภาพให้ถูกต้องตามภาพต้นแบบ ผู้สอนอาจให้ผู้เรียนวาดรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมตามจินตนาการได้ เช่น วาดตัวเองลงไปในภาพเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของบรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง นก ดอกไม้ ฯลฯ ผู้สอนตรวจสอบความเรียบร้อย

เด็กโต ใบงาน “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” 
อุปกรณ์ 1. ใบงาน “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025”   2. ดินสอ/ปากกา



ดำเนินการ
         1. ผู้สอนพิมพ์ใบงาน “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” ตามจำนวนผู้เรียน
         2. ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงาน เวลาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้สอน จากนั้นตรวจสอบความถูกต้อง

ค. การบ้าน              

        1. ผู้เรียนนำภาพระบายสีหรือใบงาน “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025” กลับไปให้ผู้ปกครองที่บ้านดู และอธิบายถึงความหมายของ “ตราสัญลักษณ์ปีศักดิ์สิทธิ์ 2025”
        2. พูดคุยเรื่องของความหวัง อาจตั้งคำถามถามคนที่บ้านว่าพวกท่านหวังอะไรในตัวของผู้เรียนบ้าง และแบ่งปันความหวังของผู้เรียนให้กับคนที่บ้านฟังเช่นกัน
        3. ตั้งเป้าหมายในปีศักดิ์สิทธิ์ 2025 นี้ว่าผู้เรียนอยากทำสิ่งใดให้สำเร็จ จากนั้นแบ่งปันให้คุณครูและเพื่อนฟังในคาบเรียนครั้งต่อไป

       ::: Download บทเรียนที่ 1 ::