บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 8
โยชูวา: ผู้นำชาวอิสราเอลสู่ดินแดนพระสัญญา
จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
1. รู้จักชีวิตของโยชูวา ผู้นำชาวอิสราเอลเข้าสู่ดินแดนพระสัญญา
2. เชื่อฟังและไว้วางใจในความช่วยเหลือของพระเจ้า
3. ร่วมมือกับพระเจ้าในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความซื่อสัตย์มั่นคง
กิจกรรม เกม เป่ายิงฉุบหาผู้นำ
ดำเนินการ 1. ให้ผู้เรียนจับคู่กันและให้แต่ละคู่เป่ายิงฉุบเพื่อหาผู้ชนะ
2. คนที่เป่ายิงฉุบชนะจะได้เป็นผู้นำและคนที่แพ้ให้ไปยืนต่อด้านหลัง
3. ผู้นำที่ชนะของแต่ละคู่ไปหาผู้นำของคู่อื่น เพื่อเป่ายิงฉุบหาผู้ชนะต่อไปเรื่อย ๆ ทีมที่แพ้ให้ไปต่อด้านหลัง ทำเช่นนี้จนได้ผู้ชนะเหลือเป็นคนสุดท้ายคือคนที่เป่ายิงฉุบไม่แพ้ใครเลย ซึ่งจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำกลุ่มจากน้ำ”
วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
1. ผู้ชนะที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้นำว่ารู้สึกอย่างไร (ให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็น)
2. ผู้เรียนคิดว่า “ผู้นำที่ดี” ควรมีลักษณะอย่างไร (เก่ง, กล้าหาญ, เสียสละ, มีน้ำใจ, อดทน ฯลฯ)
3. ผู้เรียนคิดว่า “ผู้นำกลุ่มคริสตชนที่ดี” ควรมีลักษณะอย่างไร (มีความเชื่อศรัทธา, เข้มแข็ง, หนักแน่นมั่นคงต่อพระเจ้า, ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ, ยำเกรงพระเจ้า, รับใช้, ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ฯลฯ)
สรุป ผู้นำที่ดีต้องมีคุณสมบัติหลายประการ เช่น มีคุณธรรม ซื่อสัตย์ กล้าหาญกล้าเปลี่ยนแปลง เป็นที่ยอมรับของผู้คน มีความรับผิดชอบสูง มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี เก่ง ฉลาด เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีการสื่อสารที่ดี แต่ผู้นำทางศาสนา นอกจากสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้วต้องเป็นมากกว่านั้น เพราะพระเจ้าจะเลือกบางคนเพื่อมาทำงานบางอย่างตามพระประสงค์ของพระองค์ สิ่งที่พระเจ้าต้องการไม่เหมือนที่มนุษย์ต้องการ เพราะพระองค์ต้องการผู้ที่มีหัวใจที่เชื่อฟัง มีความเชื่อที่มั่นคงและไว้วางใจในความช่วยเหลือของพระเจ้า
คำสอน
1. บางคนมีคุณสมบัติความเป็นผู้นำตั้งแต่กำเนิด เช่น มีความสามารถพิเศษ มีสติปัญญาดีมีความกล้าแสดงออก มีความกล้าหาญ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ที่ทำให้พวกเขาแตกต่างจากผู้อื่น แต่ก็มีอีกหลายคนที่ค่อย ๆ พัฒนาทักษะของตนเองไปเรื่อย เพื่อเหมาะสมกับการเป็นผู้นำ ซึ่งสำหรับบางคนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ชายคนหนึ่งเคยเป็น “ผู้ช่วย” ของโมเสสมาตลอด และวันหนึ่งเขาต้องกลายมาเป็น “ผู้นำ”ต้องมาสานต่องานของโมเสสในการนำชาวอิสราเอลเข้าสู่ดินแดนพันธสัญญา แน่นอนว่าต้องมีความกดดันมีความกลัวอยู่ในใจ เขาคนนั้นคือ “โยชูวา” แน่นอนการเป็นผู้นำชาวอิสราเอลไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะตลอดการเดินทางในถิ่นทุรกันดารที่ได้ร่วมเดินทางติดตามโมเสส “เขาได้เห็นความดื้อดึงของชาวอิสราเอล” พวกเขาบ่นและต่อว่าโมเสสซึ่งเป็นผู้นำพวกเขาออกมาจากอียิปต์ แต่หากโยชูวาจมอยู่กับความกลัวหรือความกังวล เขาคงไม่สามารถที่จะเป็นผู้นำอิสราเอลคนต่อไปให้สำเร็จได้
2. หลังจากโมเสสสิ้นชีวิต พระเจ้าได้แต่งตั้งโยชูวาให้เป็นผู้นำชนชาติอิสราเอลเดินทางไปยังแผ่นดินซึ่งพระองค์สัญญาจะมอบให้แก่ชาวอิสราเอล ทรงตรัสว่า “เราจะอยู่กับท่านเหมือนกับที่ได้อยู่กับโมเสส เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังหรือทอดทิ้งท่าน จงเข้มแข็งและหนักแน่น และเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติทุกข้อ ที่โมเสสผู้รับใช้ของเราได้กำหนดไว้สำหรับท่าน จงอย่าบ่ายเบี่ยงไปทางขวาหรือทางซ้าย แล้วท่านจะประสบความสำเร็จในทุกแห่งที่ท่านไป จงมีหนังสือธรรมบัญญัตินี้ติดอยู่กับริมฝีปากของท่านเสมอและจงไตร่ตรองทุกเช้าค่ำ เมื่อท่านปฏิบัติตามที่มีบันทึกไว้ในธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน การกระทำของท่านจะเจริญรุ่งเรือง ท่านจะประสบความสำเร็จ เราไม่ได้บอกท่านหรือว่าจงเข้มแข็งและหนักแน่น ดังนั้น จงกล้าหาญและอย่ากลัวสิ่งใด เพราะไม่ว่าท่านจะไปไหน พระเจ้าของท่านจะสถิตกับท่าน”
โยชูวาประกาศคำสั่งนี้ให้ประชากรรู้ และให้เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเข้ายึดครองแผ่นดินซึ่งพระเจ้าของท่านมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ โยชูวาได้ส่งชายสองคนเข้าไปสอดแนมเมืองเยรีโคและปฏิบัติตามที่พระเจ้าสั่งทุกประการ และด้วยการเชื่อฟังและไว้วางใจในความช่วยเหลือจากพระเจ้า พวกเขาก็สามารถยึดเมืองเยรีโคไว้ได้ ภายใต้การนำของโยชูวา เป็นช่วงที่มีการแบ่งแผ่นดินแก่เผ่าต่าง ๆ เป็นมรดกเป็นช่วงที่มีความสงบสุข และพระเจ้าทรงให้อิสราเอลหยุดพักจากศัตรูทั้งหมดโดยรอบเป็นเวลานาน ก่อนที่โยชูวาจะสิ้นชีวิต เขาได้กำชับชาวอิสราเอลให้ยำเกรงพระเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์ ให้ละทิ้งพระที่บรรพบุรุษของเขากราบไหว้ในอียิปต์ ในถิ่นทุรกันดารและพระของพวกต่างชาติ เลือกที่จะปรนนิบัติพระเจ้า โยชูวาประกาศกับชาวอิสราเอลอย่างชัดเจนว่า “ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้า จะรับใช้พระเจ้า เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา” และในวันนั้นประชาชนอิสราเอลได้ทำพันธสัญญากับโยชูวา ว่าพวกเขาจะปรนนิบัติและเชื่อฟังพระเจ้า โยชูวาถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี
3. แบบอย่างที่เราได้รับจากชีวิตของโยชูวาก็คือ การมีความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า ร่วมมือกับพระองค์ในการทำหน้าที่ผู้นำด้วยความซื่อสัตย์มั่นคง ความเข้มแข็งและกล้าหาญของโยชูวาไม่ได้มาจากมนุษย์ แต่ได้มาจากพระสัญญาของพระเจ้าและการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ดังนั้น พระวาจาของพระเจ้าจึงเป็นพละกำลังสำหรับเขา
4. ให้เรายึดมั่นในพระวาจาของพระเจ้า ให้พระวาจาของพระองค์เป็นพละกำลังของเราด้วยเช่นกัน จงเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราเสมอ หากพระเจ้าทรงเรียกและเลือกให้เราทำสิ่งใด ก็อย่าได้หวั่นกลัวเลย แต่จงมีความเชื่อและไว้วางใจในพระเจ้า กล้าตอบรับเสียงเรียกของพระเจ้าดังเช่นที่โยชูวาได้กระทำ
5. เมื่อเราตั้งใจอ่านพระคัมภีร์และดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้า เรามั่นใจว่าเราจะไม่ออกนอกเส้นทางที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ให้เรา และเรายังเป็นผู้หนึ่งที่สามารถส่งสารแห่งความรักเมตตาของพระเจ้าแก่ผู้อื่นได้ ผ่านถ้อยคำและการทำหน้าที่ี่ี่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างดี
ก. ข้อควรจำ
1. โยชูวา เป็นผู้นำต่อจากโมเสส เขามีความเชื่อมั่นในพระเจ้า พระเจ้าทรงสัญญาว่า “เราจะอยู่กับท่านเหมือนกับที่ได้อยู่กับโมเสส เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังหรือทอดทิ้งท่าน
2. ก่อนที่โยชูวาจะสิ้นชีวิต ได้กำชับคนอิสราเอลให้ยำเกรงพระเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์ กำชับให้ชาวอิสราเอลละทิ้งพระที่บรรพบุรุษของเขากราบไหว้ในอียิปต์ ในถิ่นทุรกันดาร และของพวกต่างชาติ
3. ความเข้มแข็งและกล้าหาญของโยชูวาไม่ได้มาจากมนุษย์ แต่ได้มาจากพระสัญญาของพระเจ้า และการปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ดังนั้น พระวาจาของพระเจ้าเป็นพละกำลังสำหรับเขา
4. ให้เรายึดมั่นในพระวาจาของพระเจ้า ให้พระวาจาของพระองค์เป็นพละกำลังของเราและเชื่อว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่กับเราเสมอ
5. เมื่อเราตั้งใจอ่านพระคัมภีร์และดำเนินชีวิตตามพระวาจาของพระเจ้า เราก็เป็นผู้หนึ่งที่สามารถส่งสารแห่งความรักเมตตาของพระเจ้าแก่ผู้อื่นได้ ผ่านถ้อยคำและการทำหน้าที่ี่ี่ีที่ได้รับมอบหมายอย่างดี
ข. กิจกรรม สวดภาวนาร่วมกัน
ถามผู้เรียนแต่ละคนว่า อยากให้พระเจ้าช่วยผู้เรียนในเรื่องอะไร และนำผู้เรียนภาวนาวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าตามความปรารถนาของแต่ละคน และขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือทุกคนในการทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างดี
ค. การบ้าน
1. อ่านใบความรู้เรื่องโยชูวา เพิ่มเติม
::: Download บทเรียนที่ 8 ::
โยชูวา
โยชูวา: ผู้นำชาวอิสราเอลสู่ดินแดนพระสัญญา
(โยชูวา 1-2, 6:1-5, 22-25; 21:43-44; 24:14-29)
เมื่อโมเสสสิ้นชีวิต พระเจ้าได้แต่งตั้งให้โยชูวาบุตรของนูนเป็นผู้นำชนชาติอิสราเอลเดินทางข้ามแม่น้ำจอร์แดนเข้าไปยังแผ่นดิน ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าจะมอบให้แก่ชาวอิสราเอล พระเจ้าตรัสว่า “ทุกที่ที่ฝ่าเท้าของท่านย่างเข้าไปเหยียบ จะเป็นที่ที่เราจะมอบให้ท่านตามที่ได้สัญญาไว้กับโมเสส ตราบใดที่ท่านยังมีชีวิต ไม่มีผู้ใดจะต่อต้านท่านได้ เราจะอยู่กับท่านเหมือนกับที่ได้อยู่กับโมเสส เราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง หรือทอดทิ้งท่าน จงเข้มแข็งและหนักแน่น เพราะท่านจะต้องนำประชากรนี้เข้าไปรับกรรมสิทธิ์ ในแผ่นดินซึ่งเราได้สัญญากับบรรพบุรุษว่าจะมอบแก่เขา เพียงแต่ท่านต้องเข้มแข็ง หนักแน่นและเอาใจใส่ต่อการปฏิบัติตามธรรมบัญญัติทุกข้อ ที่โมเสสผู้รับใช้ของเราได้กำหนดไว้สำหรับท่านจงอย่าบ่ายเบี่ยงไปทางขวาหรือทางซ้าย แล้วท่านจะประสบความสำเร็จในทุกแห่งที่ท่านไป จงมีหนังสือธรรมบัญญัตินี้ติดอยู่กับริมฝีปากของท่านเสมอ และจงไตร่ตรองทุกเช้าค่ำ เมื่อท่านปฏิบัติตามที่มีบันทึกไว้ในธรรมบัญญัติอย่างครบถ้วน การกระทำของท่านจะเจริญรุ่งเรือง ท่านจะประสบความสำเร็จ เราไม่ได้บอกท่านหรือว่าจงเข้มแข็งและหนักแน่น ดังนั้น จงกล้าหาญและอย่ากลัวสิ่งใด เพราะไม่ว่าท่านจะไปไหน พระเจ้าของท่านจะสถิตกับท่าน” โยชูวาจึงออกคำสั่งแก่บรรดาผู้นำประชากรว่า “จงไปทั่วค่าย และประกาศคำสั่งนี้ให้ประชากรรู้ จงเตรียมสัมภาระให้พร้อม เพราะอีกสามวันเราจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน และเข้ายึดครองแผ่นดินซึ่งพระเจ้าของท่านมอบให้เป็นกรรมสิทธิ์” เขาทั้งหลายตอบโยชูวาว่า “พวกเราจะทำตามทุกอย่างที่ท่านสั่ง และไม่ว่าท่านจะส่งพวกเราไปที่ใด เราก็จะไป เราได้เชื่อฟังโมเสสอย่างไร เราจะเชื่อฟังท่านเช่นเดียวกัน ขอเพียงให้พระเจ้าของท่านสถิตกับท่านเหมือนดังที่พระองค์สถิตกับโมเสส ถ้าผู้ใดขัดคำสั่งของท่านหรือไม่เชื่อฟัง ผู้นั้นจะต้องรับโทษประหารชีวิต ท่านจงเข้มแข็งและหนักแน่นเถิด”
โยชูวาส่งชายสองคนอย่างลับ ๆ เข้าไปสอดแนมเมืองเยรีโคเขาทั้งสองคน จึงออกเดินทางไปค้างคืนในบ้านของโสเภณีคนหนึ่งชื่อราหับ มีผู้รายงานกษัตริย์เมืองเยรีโคถึงเรื่องที่ชายชาวอิสราเอลบางคนเข้ามาสอดแนม กษัตริย์เมืองเยรีโคจึงมีหนังสือถึงนางราหับ ให้ส่งคนที่มาค้างคืนที่บ้านของนางออกมา เพราะเขามาสอดแนม นางจึงพาชายสองคนนั้นไปบนหลังคาบ้าน และซ่อนไว้ใต้กองป่านที่นางเก็บมา หลังจากนั้น นางราหับได้กล่าวแก่ชายสองคนนั้นถึงความหวาดกลัวของคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้ เนื่องจากพวกเขาได้ยินเรื่องราวขององค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าทั้งในสวรรค์เบื้องบนและบนแผ่นดินเบื้องล่าง นางได้ขอชายสองคนนั้นให้ความกรุณาต่อครอบครัวของเธอ และให้เครื่องหมายที่แน่นอนว่าจะไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง รวมทั้งทรัพย์สินทุกอย่างและช่วยให้พ้นจากความตาย เป็นการตอบแทนที่เธอให้ความช่วยเหลือเขาทั้งสอง
ชายทั้งสองคนตอบนางว่า “เราขอเอาชีวิตเป็นประกัน แต่ท่านต้องไม่แพร่งพรายข้อตกลงของเรา เมื่อองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบเมืองนี้ให้แก่เราแล้ว เราจะปฏิบัติต่อท่านด้วยความเมตตาและความซื่อสัตย์” นางได้หย่อนเขาทั้งสองลงทางหน้าต่างติดกับกำแพงเมืองและบอกหนทางหลบหลีกจากผู้คนที่ออกติดตามเขาหลังจากนั้นพวกเขากลับมาหาโยชูวา เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า“พระเจ้าทรงมอบแผ่นดินทั้งหมดไว้ในมือของเราแล้ว ผู้อาศัยในแผ่นดินต่างตื่นตระหนก เมื่อเห็นพวกเรากำลังเข้าไปใกล้”
เมืองเยรีโคถูกปิดไว้อย่างแน่นหนาเพราะชาวอิสราเอล ไม่มีผู้ใดเข้าออกได้ พระเจ้าตรัสกับโยชูวาว่า “ดูซิ เรากำลังจะมอบเมืองเยรีโค กษัตริย์และนักรบชายฉกรรจ์ไว้ในมือของท่าน ท่านทั้งหลายที่เป็นนักรบทุกคน จะเดินเป็นขบวนไปรอบเมืองหนึ่งรอบ ท่านจะทำเช่นนี้หกวัน สมณะเจ็ดรูปจะเดินถือแตรเขาแกะเจ็ดคันนำหน้าหีบพันธสัญญา ในวันที่เจ็ด ท่านจะต้องเดินรอบเมืองเจ็ดรอบและบรรดาสมณะจะเป่าแตร เมื่อเสียงแตรเขาแกะดังขึ้น ทันทีที่ท่านได้ยินเสียงแตร ประชากรทั้งหมดจะต้องตะโกนร้องออกศึกกึกก้อง กำแพงเมืองโดยรอบจะพังทลายลง ประชากรจะวิ่งกรูเข้าโจมตี แต่ละคนวิ่งตรงไปข้างหน้า” และยึดเมืองไว้ได้ โยชูวากล่าวกับชายสองคนผู้ได้สอดแนมแผ่นดินว่า “จงไปบ้านของหญิงโสเภณีคนนั้น นำนางออกมาพร้อมกับทุกคนในครอบครัวของนาง ตามที่ท่านได้สัญญาไว้” ชายหนุ่มผู้สอดแนมทั้งสองคน จึงเข้าไปนำนางราหับออกมาพร้อมกับบิดามารดา พี่น้องของนางและทุกสิ่งที่เป็นของนาง เขาพาคนในตระกูลของนางออกมาด้วย และจัดให้อยู่ในที่ปลอดภัยนอกค่ายของชาวอิสราเอล โยชูวาไว้ชีวิตนางราหับหญิงโสเภณี ครอบครัวของบิดาของนางและทุกสิ่งที่เป็นของนาง นางยังอยู่ในหมู่ชาวอิสราเอลจนทุกวันนี้ เพราะนางได้ซ่อนผู้ที่โยชูวาได้ส่งเข้าไปสำรวจเมืองเยรีโค
ภายใต้การนำของโยซูวา เป็นช่วงที่มีการแบ่งแผ่นดินแก่เผ่าต่าง ๆ เป็นมรดก เป็นช่วงที่มีความสงบสุขและพระเจ้าทรงให้อิสราเอลหยุดพักจากศัตรูทั้งหมดโดยรอบเป็นเวลานาน ก่อนที่เขาจะสิ้นชีวิต เขาได้กำชับคนอิสราเอลให้ยำเกรงพระเจ้าและรับใช้พระองค์ด้วยความซื่อสัตย์ ให้พวกเขาละทิ้งพระที่บรรพบุรุษของเขากราบไหว้ในอียิปต์ ในถิ่นทุรกันดาร และพระของพวกต่างชาติ ให้พวกเขาเลือกที่จะปรนนิบัติพระเจ้า โยชูวาประกาศกับคนอิสราเอลอย่างชัดเจนว่า “ส่วนข้าพเจ้าและครอบครัวของข้าพเจ้าจะรับใช้พระเจ้า เพราะพระองค์เป็นพระเจ้าของเรา” และในวันนั้นประชาชนอิสราเอลได้ทำพันธสัญญากับโยชูวา โดยสัญญาว่า จะปรนนิบัติและเชื่อฟังพระเจ้า โยชูวาถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี