ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCESE

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

 โยเซฟ : บุรุษแห่งการให้อภัย

บุคคลในประวัติศาสตร์ความรอด บทเรียนที่ 6
โยเซฟ : บุรุษแห่งการให้อภัย

จุดประสงค์
เมื่อจบบทเรียนแล้ว ผู้เรียนสามารถ
     1. รู้จักเรื่องราว่ชีวิตโยเซฟ บุรุษแห่งการให้อภัยด้วยใจจริง
     2. ตระหนักว่าความอิจฉาส่งผลเสียต่อความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง
     3. ให้อภัยผู้ที่ทำผิดต่อเราจากใจจริงเพื่อให้ความสัมพันธ์กลับมาดีดั่งเดิม

กิจกรรม   ร้องเพลง “โยเซฟ” อัลบั้มประกอบการสอนคำสอนชุด ทำด้วยความรัก
อุปกรณ์    1. เนื้อเพลง โยเซฟ–เขียนบนกระดานหรือพิมพ์แจกผู้เรียนทุกคน
                 2. เครื่องดนตรีหรือเครื่องเล่นเพลง ลำโพงบลูธูท

 

 เพลง โยเซฟ
1. โยเซฟเป็นบุตรยาโคบ มีพี่น้องอยู่ สิบสองคน
โยเซฟนั้นเป็นคนดี เป็นคนที่ สิบเอ็ดของครอบครัว
2. พี่ พี่ได้นำไปขาย ขายเขาไปอยู่ที่อียิปต์
ห่างไกลบ้านเกิดลิบ ลิบ อยู่ที่อียิปต์เป็นทาสทุกข์ทน
3. โยเซฟได้ทำนายฝัน ในครานั้นให้กษัตริย์ฟาโรห์
ฟาโรห์จึงทรงตั้งให้ โยเซฟได้ขึ้นเป็นข้าหลวง
4. โยเซฟได้ให้แบบอย่าง แก่พวกเราเรื่องการอภัย
พวกเราจึงจำขึ้นใจ ว่าการให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี

ดี ดี ดี ดี (ลูกพ่อยาโคบ) ดี ดี ดี ดี (ลูกแม่ราเชล)
ดี ดี ดี ดี (โยเซฟคนดี) ดี ดี ดี ดี (ใส่เสื้อหลายสี)
ดี ดี ดี ดี (ลูกพ่อยาโคบ) ดี ดี ดี ดี (ลูกแม่ราเชล)
ดี ดี ดี ดี (ทำไม ทำไม) ดี ดี ดี ดี (โยเซฟคนดี)

 ดำเนินการ

         1. ผู้สอนเขียนเนื้อเพลงบนกระดานหรือกระดาษชาร์ท หรือพิมพ์ขึ้นจอคอมพิวเตอร์
         2. ผู้สอนเปิดเพลงโยเซฟให้ผู้เรียนฟังสัก 1-2 รอบ
         3. ผู้สอนสอนให้ผู้เรียนร้องตามทีละท่อน เมื่อร้องได้แล้ว ให้ร้องพร้อมกันทั้งเพลงหรือร้องไปพร้อมกับดนตรี
         4. ผู้สอนสอนท่าประกอบเพลง ให้ผู้เรียนทำท่าตามหรือให้ผู้เรียนช่วยกันคิดท่าก็ได้
         5. ผู้สอนเปิดเพลงหรือร้องเอง และทำท่าทางประกอบเพลงไปพร้อม ๆ กัน โดยเปลี่ยนท่าทางไปตามราย ชื่อสัตว์ที่มีอยู่ในเนื้อเพลง

วิเคราะห์ ผู้สอนสนทนากับผู้เรียน
         1. จากบทเพลงเรารู้อะไรเกี่ยวกับโยเซฟบ้าง (เป็นลูกของยาโคบ, มีพี่น้องสิบสองคน, โยเซฟเป็นคนดี, เป็นลูกคนที่สิบเอ็ด, ถูกขายไปอยู่ที่อียิปต์, เป็นทาส, ทำนายฝันได้, ได้ทำนายฝันให้กษัตริย์ฟาโรห์, ฟาโรห์ทรงตั้งให้เป็นข้าหลวง, เป็นแบบอย่างให้เราเรื่องการให้อภัย)
         2. ผู้เรียนคิดว่าทำไมโยเซฟจึงถูกขายไปที่อียิปต์ (ให้ผู้เรียนลองตอบ หากผู้เรียนตอบได้ว่าเพราะพี่ ๆ รู้สึกอิจฉาและไม่ชอบโยเซฟ ให้ชมเชย หากผู้เรียนไม่ทราบเชิญชวนให้อ่านเรื่องราวของโยเซฟด้วยกัน)
         3. ผู้เรียนรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นพี่หรือน้องของตน ทำงานน้อยกว่าหรือได้รับการดูแลจากพ่อแม่เป็นพิเศษกว่า (ให้ผู้เรียนแบ่งปัน)
         4. มีใครเคยให้อภัยพี่น้องหรือให้อภัยผู้อื่นบ้างหรือไม่ ให้อภัยเรื่องอะไร และเวลาที่ให้อภัยแล้วรู้สึกอย่างไร (ให้ผู้เรียนแบ่งปัน)

               สรุป  โยเซฟเป็นคนดี แต่ต้องตกในความยากลำบากเพราะพวกพี่ ๆ รู้สึกอิจฉาและไม่ชอบเขา แต่โยเซฟก็ไม่ถือโทษโกรธพวกพี่ ๆ เขาจึงเป็นแบบอย่างที่น่าประทับใจแก่เราในเรื่องของการให้อภัยด้วยใจจริงต่อคนในครอบครัวและต่อเพื่อนพี่น้อง

คำสอน                                         

         1. การแย่งสิ่งของกัน แย่งของเล่นกัน คนนั้นคนนี้พูดไม่ดี การไม่ยอมกัน หรือทะเลาะวิวาทกันในระหว่างพี่น้องถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว แต่บางครั้งปัญหาที่ิกล่าวมาข้างต้นก็เกิดจากพ่อแม่ เช่น เมื่อพ่อแม่ให้ความสนใจหรือรักลูกคนใดคนหนึ่งมากกว่ากัน ไม่ว่าจะเป็นคำพูดหรือการแสดงออก แม้ผู้เป็นพ่อแม่จะไม่ได้ตั้งใจทำให้เกิดความรุนแรงตามมา แต่สิ่งสำคัญที่สุดและควรทำต่อกันเมื่อเกิดความขัดแย้ง หรือทะเลาะกันในครอบครัว คือการให้อภัยด้วยใจจริง เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีดั่งเดิมกลับคืนมาดั่งเช่นครอบครัวของโยเซฟ

 

         2. โยเซฟเป็นบุตรคนที่ 11 ของยาโคบและนางราเคล ยาโคบรักโยเซฟมากกว่าบุตรคนอื่น ๆ เพราะว่าโยเซฟเกิดมาในขณะที่ยาโคบชราแล้ว ยาโคบได้ตัดเสื้อยาวที่สวยงามให้โยเซฟ เมื่อพี่ชายเห็นบิดาทำเช่นนั้น ต่างก็เกลียดชังโยเซฟมาก ไม่ยอมพูดดีด้วย โยเซฟยังมีพรสวรรค์เรื่องการทำนายฝัน และเขาก็คอยรายงานสิ่งไม่ดีไม่งามที่พี่ชายทำให้บิดารู้

              วันหนึ่ง เมื่อพี่ชายของโยเซฟไปเลี้ยงแกะและแพะของบิดา โยเซฟออกไปดูพี่ชาย เมื่อพวกพี่เห็นโยเซฟแต่ไกลจึงวางแผนจะฆ่าโยเซฟ แต่รูเบนพี่ชายคนโตหาทางช่วยโยเซฟให้พ้นจากมือน้อง ๆ ของตน จึงเสนอให้ทิ้งโยเซฟในบ่อก็พอเพื่อจะได้นำไปส่งคืนให้บิดา พวกเขาจึงช่วยกันจับโยเซฟแล้วถอดเสื้อยาวที่เขาสวมอยู่ออก แล้วโยนเขาลงไปในบ่อแห้งไม่มีน้ำ เวลานั้น กอง​คาราวาน​ของ​ชาว​อิช​มา​เอล​กำลัง​เดินทาง​มา​จาก​แคว้น​กิเล​อาด​จะ​ไป​อียิปต์ พี่ ๆ จึงดึงโยเซฟขึ้นจากบ่อแล้วขายเขาให้แก่ชาวอิชมาเอลเป็นราคาเงินหนักยี่สิบบาท พ่อค้าเหล่านี้จึงพาโยเซฟไปอียิปต์

               เมื่อพี่ ๆ กลับไปบ้าน พวกเขานำเสื้อยาวที่จุ่มเลือดแพะส่งให้ยาโคบและบอกว่า “เราพบเสื้อนี้ พ่อจงดูเถิดว่าเป็นเสื้อของลูกพ่อหรือไม่” ยาโคบจำได้ พูดว่า “ใช่แล้วเป็นเสื้อของลูกฉัน สัตว์ร้ายคงกัดกินเขาแล้ว โยเซฟคงถูกมันฉีกเนื้อละเอียดแล้ว” ยาโคบเสียใจอย่างมาก พ่อค้าที่รับซื้อโยเซฟไปอียิปต์ ได้ขายเขาให้แก่โปทิฟาร์ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของกษัตริย์ฟาโรห์ และผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ พระเจ้าสถิตกับโยเซฟและทรงกระทำให้กิจการงานที่เขาทำประสบความสำเร็จ ทรงอวยพระพรครอบครัวของชาวอียิปต์คนนั้นเพราะเห็นแก่โยเซฟด้วย และความที่โยเซฟมีรูปร่างสง่างาม หน้าตาดี ภรรยาของเจ้านาย มองโยเซฟด้วยความเสน่หา แต่โยเซฟปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ด้วย จึงถูกใส่ร้ายว่าพยายามข่มขืนภรรยาของเจ้านายและถูกนำไปขังคุก ที่นั่นเขาได้ทำนายฝันให้กับข้าราชการของกษัตริย์ฟาโรห์ที่ได้ทำผิดและถูกจองจำ ต่อมาหนึ่งในสองคนนั้นคือหัวหน้าพนักงานถวายน้ำจัณฑ์ ได้รับการคืนตำแหน่งตามคำทำนายของโยเซฟ

                สองปีต่อมา กษัตริย์ฟาโรห์ทรงพระสุบินเกี่ยวกับแม่โคที่น่าเกลียดผอมโซเจ็ดตัว กินแม่โคลักษณะดีอ้วนพีเจ็ดตัว และรวงข้าวที่เมล็ดลีบเจ็ดรวงกลืนรวงข้าวเมล็ดเต็มทั้งเจ็ดรวง แต่ไม่มีโหรหรือปราชญ์คนไหนทำนายฝันได้ พนักงานถวายน้ำจัณฑ์จึงคิดถึงโยเซฟ และทูลกษัตริย์ฟาโรห์ให้ทราบเรื่องของโยเซฟที่เคยทำนายฝันแก่เขา กษัตริย์ฟาโรห์จึงรับสั่งให้พาโยเซฟมาเข้าเฝ้า โยเซฟได้ทำนายว่าพระสุบินทั้งสองครั้งมีความหมายอย่างเดียวกัน คือจะมีอาหารบริบูรณ์เจ็ดปี และต่อมาจะเกิดกันดารอาหารครั้งใหญ่อีกเจ็ดปีทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟยังบอกให้กษัตริย์ฟาโรห์หาผู้ที่ฉลาดและมีปรีชา แต่งตั้งให้เขามีอำนาจในแผ่นดินอียิปต์ และให้เก็บหนึ่งในห้าของพืชผลในแผ่นดินตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ สะสมข้าวและเก็บรักษาไว้ให้ดีในเมืองเสบียงอาหารนี้จะสำรองไว้สำหรับแผ่นดิน ระหว่างเจ็ดปีที่กันดารอาหารในแผ่นดินอียิปต์ และดังนี้ความกันดารอาหารก็จะไม่ทำลายแผ่นดิน กษัตริย์ฟาโรห์เมื่อได้เห็นสติปัญญาอันชาญฉลาดของโยเซฟจึงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้สำเร็จราชการดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์ เมื่อเกิดการกันดารไปทั่วแผ่นดิน โยเซฟก็เปิดยุ้งฉางทั้งหมดออกขายข้าวให้ชาวอียิปต์ และผู้คนจากทั่วแผ่นดินต่างมายังอียิปต์เพื่อขอซื้อข้าวจากโยเซฟ รวมถึงพี่ ๆ ของโยเซฟด้วย โยเซฟจำพี่ชายได้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ส่วนพี่ชายจำเขาไม่ได้ ที่สุดโยเซฟได้แสดงตนแก่พี่น้องว่า “ฉันคือโยเซฟ น้องชายของพี่ที่พี่ขายมาอียิปต์ อย่าเสียใจและอย่าโกรธที่ขายฉันมาที่นี่ เพราะพระเจ้าทรงส่งฉันมาล่วงหน้า เพื่อช่วยชีวิตของพี่ ๆ ดังนั้น จึงไม่ใช่พวกพี่ที่ส่งฉันมาที่นี่ แต่เป็นพระเจ้า” โยเซฟเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับตนให้พวกพี่ฟัง โยเซฟบอกให้พี่ ๆ พายาโคบผู้เป็นบิดาและครอบครัวมาอาศัยอยู่ในอียิปต์ ซึ่งโยเซฟได้ทูลขอที่ดินจากกษัตริย์ฟาโรห์ให้บิดาและครอบครัวอยู่ด้วยกัน ชาวอิสราเอลมาอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ในแคว้นโกเชนและมีลูกหลานมากมาย โยเซฟถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี

 

            3. การเลือกที่รักมักที่ชัง การแสดงออกที่ทำให้รู้สึกว่าลำเอียงในเรื่องราวของโยเซฟ ก่อให้เกิดความอิจฉาริษยาและความชั่วร้ายอื่น ๆ ตามมา แม้โยเซฟจะเป็นคนดี ไม่เคยคิดร้ายต่อพี่ชาย แต่เพราะความรักที่บิดามีให้เขามากกว่าพี่ ๆ ส่งผลให้เขาถูกพี่ ๆ ทำร้ายและไม่ต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ แม้โยเซฟจะเจอกับสถานการณ์ร้าย ๆ ในชีวิต แต่โยเซฟก็เลือกที่จะให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธเคืองบรรดาพี่ชาย

 

            4. เราได้เห็นถึงความรักของพระเจ้าที่ทรงช่วยเหลือประชากรของพระองค์ผ่านชีวิตของโยเซฟ และพระเจ้ายังช่วยเหลือเราในเหตุการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันด้วย ดังนั้น พระเจ้าอาจเลือกใครคนใดคนหนึ่งให้เป็นผู้ร่วมงานของพระองค์เพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ให้ได้รับความรอด

 

            5. แบบอย่างของโยเซฟเรื่อง “การให้อภัยด้วยใจจริง” ให้บทเรียนกับเราว่าทุกคนทำผิดพลาดกันได้ ไม่ว่าจะเป็นคนรอบข้าง เพื่อนสนิทมิตรสหาย คนใกล้ตัว โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่เราต้องคลุกคลีและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในทุกวัน เราจึงต้องให้อภัยเหมือนที่เราก็อยากได้รับการอภัย ดังที่เราภาวนาว่า “โปรด​ประ​ทาน​อภัย​แก่​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย เหมือน​ข้าพ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ให้​อภัย​แก่​ผู้อื่น” ในบทภาวนาที่พระเยซูเจ้าทรงสอน (เทียบ ลก. 11:1-4) เพราะการให้อภัยผู้อื่นจะทำให้ใจเรามีสันติและมีความสุขในชีวิตมากยิ่งขึ้น

 

 

ปฏิบัติ
ก. ข้อควรจำ         
        1. เมื่อเกิดความขัดแย้ง หรือการการทะเลาะกันในครอบครัว สิ่งที่ควรทำ คือการให้อภัย เพื่อทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีดั่งเดิมกลับคืนมา ดั่งเช่นครอบครัวของโยเซฟ
        2. โยเซฟเป็นบุตรคนที่ 11 ของยาโคบและนางราเคล ยาโคบรักโยเซฟมากกว่าบุตรคนอื่น ๆ เพราะว่าโยเซฟเกิดมาในขณะที่ยาโคบชราแล้ว
        3. โยเซฟเป็นคนที่มีพรสวรรค์เรื่องการทำนายฝัน และเขาคอยรายงานสิ่งไม่ดีไม่งามที่พี่ชายกระทำให้บิดารู้
        4. โยเซฟถูกขายไปอียิปต์ เป็นแผนการของพระเจ้าเพื่อช่วยชาวอิสราเอล
        5. ครอบครัวของโยเซฟและชาวอิสราเอล ได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในอียิปต์ ในแคว้นโกเชนและมีลูกหลานมากมายโยเซฟถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี
        6. ผลของการให้อภัยผู้อื่นก็คือ ใจที่มีสันติและชีวิตที่มีความสุข

 

ข. กิจกรรม    

- ให้ผู้เรียนสวด “บทข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” พร้อมกัน
- จากนั้นให้พูดประโยค “โปรดประทานการอภัยแก่ข้าพเจ้า” 3 ครั้ง ด้วยท่าทีของการภาวนา

ค. การบ้าน              

        1. อ่านใบความรู้เรื่องโยเซฟ เพิ่มเติม

       ::: Download  บทเรียนที่ 6 ::

 

 โยเซฟ

(บทที่ 37-47:1-6; 50:26)

          โยเซฟ เป็นบุตรคนที่ 11 ในบรรดาบุตร 12 คนของยาโคบและนางราเคล เมื่อโยเซฟอายุสิบเจ็ดปีเขาดูแลฝูงแพะแกะอยู่กับบรรดาพี่ชาย และคอยรายงานสิ่งไม่ดีไม่งามที่พี่ชายทำให้บิดารู้ ยาโคบรักโยเซฟมากกว่าบุตรคนอื่น ๆ เพราะโยเซฟเกิดมาเมื่อยาโคบชราแล้ว ยาโคบตัดเสื้อยาวที่สวยเป็นพิเศษให้โยเซฟเมื่อพี่ชายเห็นว่าบิดารักโยเซฟมากกว่าบุตรคนอื่น ๆ ต่างก็เกลียดชังเขามากจนไม่ยอมพูดดีด้วย

          วันหนึ่งโยเซฟฝัน เขาเล่าความฝันให้พี่ชายฟัง “ในความฝันทุกคนกำลังมัดฟ่อนข้าวในทุ่งนา ฟ่อนข้าวของน้องลุกขึ้นตั้งตรง ส่วนฟ่อนข้าวของพวกพี่ ๆ ก็เข้ามาห้อมล้อม และกราบไหว้ฟ่อนข้าวของน้องและต่อมาโยเซฟก็ฝันอีกว่า เห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์และดวงดาวสิบเอ็ดดวงมากราบไหว้เขา ยาโคบตำหนิเขาว่า “ลูกฝันอะไรกัน พวกเราทุกคนทั้งพ่อแม่กับพี่ ๆ ของลูกจะต้องมากราบลงที่พื้นต่อหน้าลูกกระนั้นหรือ”ความฝันของโยเซฟสร้างความไม่พอใจให้กับพี่ชายเป็นอย่างมาก บรรดาพี่ชายเกลียดชังและอิจฉาโยเซฟแต่บิดาไตร่ตรองถึงเรื่องนี้

โยเซฟ          ในขณะที่โยเซฟกำลังออกไปเฝ้าดูพี่ชายที่ออกไปเลี้ยงแพะแกะของบิดา พวกพี่ ๆ เห็นโยเซฟแต่ไกลจึงวางแผนฆ่าโยเซฟ “เราจงฆ่ามัน โยนศพมันลงไปในบ่อ แล้วบอกว่าสัตว์ป่ากัดกินมันแล้ว เราจะได้เห็นกันว่าฝันของมันจะเป็นจริงเพียงใด” แต่รูเบนพี่ชายคนโตคิดหาทางช่วยโยเซฟ จึงเสนอให้โยนโยเซฟทิ้งไว้ในบ่อเพื่อให้พ้นจากการถูกฆ่า แล้วจะนำไปส่งคืนให้บิดา พวกเขาจึงช่วยกันจับโยเซฟ แล้วถอดเสื้อยาวที่สวยเป็นพิเศษซึ่งเขาสวมอยู่ออกแล้วโยนเขาลงไปในบ่อ บ่อนั้นแห้งไม่มีน้ำ เวลานั้น กอง​คาราวาน​ของ​ชาว​อิช​มา​เอล​กำลัง​เดินทาง​มา​จาก​แคว้น​กิเล​อาด​จะ​ไป​อียิปต์ พี่ ๆ จึงดึงโยเซฟขึ้นจากบ่อ แล้วขายเขาให้แก่ชาวอิชมาเอลเป็นราคาเงินหนักยี่สิบบาท พ่อค้าเหล่านี้จึงพาโยเซฟไปอียิปต์ เมื่อรูเบนกลับไปที่บ่อ ไม่พบโยเซฟจึงฉีกเสื้อผ้าของตนแสดงความเสียใจ แล้วกลับไปหาน้อง ๆ พูดว่า “เด็กไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ฉันจะทำอย่างไรดี” เมื่อกลับไปถึงบ้าน พวกเขานำเสื้อยาวที่จุ่มเลือดแพะส่งให้ยาโคบพร้อมกับบอกว่า “เราพบเสื้อนี้ พ่อจงดูเถิดว่าเป็นเสื้อของลูกพ่อหรือไม่” ยาโคบจำได้ พูดว่า “ใช่แล้ว เป็นเสื้อของลูกฉัน สัตว์ร้ายคงกัดกินเขาแล้ว โยเซฟคงถูกมันฉีกเนื้อละเอียดแล้ว” ยาโคบเสียใจเป็นอย่างมาก เขาไม่ยอมรับการปลอบโยนจากใคร ๆ พูดว่า “ฉันจะไว้ทุกข์จนกว่าจะไปอยู่กับลูกของฉันในแดนผู้ตาย” แล้วร่ำไห้ถึงโยเซฟต่อไป

           ที่อียิปต์ พ่อค้าที่รับซื้อโยเซฟไปนั้น ขายเขาให้แก่โปทิฟาร์ที่ปรึกษาของกษัตริย์ฟาโรห์และผู้บังคับบัญชาทหารรักษาพระองค์ พระเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงกระทำให้กิจการงานที่เขาทำประสบความสำเร็จทรงอวยพระพรครอบครัวของชาวอียิปต์คนนั้น เพราะเห็นแก่โยเซฟด้วย และด้วยความที่โยเซฟมีรูปร่างสง่างาม หน้าตาดี ภรรยาของเจ้านายจึงมองโยเซฟด้วยความเสน่หา แต่โยเซฟปฏิเสธที่จะมีความสัมพันธ์ด้วย จึงถูกใส่ร้ายว่าพยายามข่มขืนภรรยาของเจ้านาย โยเซฟจึงถูกนำไปขังไว้ในคุก แต่พระเจ้าสถิตกับโยเซฟ ทรงสำแดงความรักมั่นคงต่อเขา ที่นั่นเขาทำนายฝันให้กับข้าราชการของกษัตริย์ฟาโรห์ ที่ถูกจองจำเพราะทำผิด ต่อมาหนึ่งในสองคนนั้นคือหัวหน้าพนักงานถวายน้ำจัณฑ์ ได้รับการคืนตำแหน่งตามคำทำนายของโยเซฟ

           สองปีต่อมา กษัตริย์ฟาโรห์ทรงพระสุบินว่า เห็นแม่โคที่น่าเกลียดและผอมโซเจ็ดตัว กินแม่โคลักษณะดีอ้วนพีเจ็ดตัว และรวงข้าวที่เมล็ดลีบเจ็ดรวงกลืนรวงข้าวเมล็ดเต็มทั้งเจ็ดรวง แต่ไม่มีโหรหรือปราชญ์คนไหนทำนายฝันได้ พนักงานถวายน้ำจัณฑ์จึงคิดถึงโยเซฟ จึงทูลกษัตริย์ฟาโรห์ให้ทราบเรื่องราวของโยเซฟที่เคยทำนายฝันแก่เขา กษัตริย์ฟาโรห์จึงรับสั่งให้เรียกโยเซฟเข้าเฝ้า พระองค์ทรงเล่าความฝันให้โยเซฟฟัง โยเซฟทำนายว่าพระสุบินทั้งสองครั้งมีความหมายอย่างเดียวกัน คือจะมีอาหารบริบูรณ์ทั่วอียิปต์ถึงเจ็ดปี และต่อมาจะเกิดกันดารอาหารครั้งใหญ่อีกเจ็ดปี พระเจ้าทรงกำหนดไว้แน่นอนแล้ว และจะทรงบันดาลให้เกิดขึ้นในไม่ช้า โยเซฟยังบอกกษัตริย์ฟาโรห์อีกว่า ขอให้ทรงหาผู้ที่ฉลาดและมีปรีชา แต่งตั้งให้เขามีอำนาจในแผ่นดินอียิปต์ ให้เก็บหนึ่งในห้าของพืชผลในแผ่นดินตลอดเจ็ดปีที่อุดมสมบูรณ์ สะสมข้าวและเก็บรักษาไว้ให้ดีในเมือง เสบียงอาหารนี้จะสำรองไว้สำหรับแผ่นดิน ระหว่างเจ็ดปีที่กันดารอาหารในแผ่นดินอียิปต์และดังนี้ความกันดารอาหารก็จะไม่ทำลายแผ่นดิน กษัตริย์ฟาโรห์เมื่อได้เห็นสติปัญญาอันชาญฉลาดของโยเซฟ จึงแต่งตั้งเขาให้เป็นผู้สำเร็จราชการดูแลทั่วแผ่นดินอียิปต์ โยเซฟมีบุตรชายสองคน เขาตั้งชื่อบุตรคนแรกว่า มนัสเสห์ หมายถึงพระเจ้าทรงทำให้ข้าพเจ้าลืมความทุกข์ยากทั้งสิ้น รวมทั้งบ้านของบิดาของข้าพเจ้า และตั้งชื่อบุตรคนที่สองว่า เอฟราอิม หมายถึงพระเจ้าประทานให้ข้าพเจ้ามีบุตรในแผ่นดินที่ข้าพเจ้าเคยตกทุกข์ได้ยาก

           เมื่อเกิดการกันดารไปทั่วแผ่นดิน โยเซฟก็เปิดยุ้งฉางทั้งหมดออกขายข้าวให้ชาวอียิปต์ และผู้คนจากทั่วแผ่นดินต่างมายังอียิปต์เพื่อขอซื้อข้าวจากโยเซฟ เพราะการกันดารอาหารทวีความรุนแรงไปทั่ว รวมถึงบรรดาพี่ของโยเซฟด้วย เมื่อพี่ชายมาถึงก็กราบคำนับโยเซฟศีรษะจรดพื้น โยเซฟจำพี่ชายได้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้จัก ส่วนพี่ชายจำเขาไม่ได้ ที่สุดโยเซฟได้แสดงตนแก่พี่น้องว่า “ฉันคือโยเซฟ น้องชายของพี่ที่พี่ขายมาอียิปต์ บัดนี้ อย่าเสียใจไปเลย อย่าโกรธตนเองที่ขายฉันมาที่นี่ พระเจ้าทรงส่งฉันล่วงหน้ามาก่อนเพื่อช่วยชีวิตของพี่ ๆ ไม่ใช่พวกพี่ที่ส่งฉันมาที่นี่ แต่เป็นพระเจ้า พระองค์ทรงตั้งให้ฉันเป็นเหมือนพระบิดาของกษัตริย์ฟาโรห์ เป็นผู้รับผิดชอบราชสำนักและเป็นผู้สำเร็จราชการทั่วแผ่นดินอียิปต์” โยเซฟบอกให้พี่ ๆ รีบกลับไปบอกยาโคบผู้เป็นบิดาและพาครอบครัวมาอาศัยอยู่ในอียิปต์ ซึ่งโยเซฟได้ทูลขอที่ดินจากกษัตริย์ฟาโรห์ให้บิดาและครอบครัวอยู่ด้วยกัน

           ชาวอิสราเอลอาศัยอยู่ในแผ่นดินอียิปต์ในแคว้นโกเชน เขาได้กรรมสิทธิ์ที่ดินและมีลูกหลานทวีจำนวนมากมาย โยเซฟถึงแก่กรรมเมื่ออายุได้หนึ่งร้อยสิบปี

 

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025

ปีศักดิ์สิทธิ์ ค.ศ. 2025 "บรรดาผู้จาริกแห่งความหวัง"

เนื้อหาและบทเรียน