ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCCESE

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2011
คนชอบธรรมเป็นคนอย่างไร
1พกษ. 3:5-12; โรม 8:28-30; มัทธิว 13:44-52

        ข่าวดีของพระเจ้าที่เราได้รับฟังในวันนี้ เป็นคำสัญญาของพระเจ้าที่มอบให้แก่เรามนุษย์ทุกคนว่า ใครก็ตามที่เป็น “คนชอบธรรม” คนผู้นั้นจะได้รับ “พระสิริรุ่งโรจน์” ของพระองค์เป็นรางวัล หรือจะพูดอีกด้านหนึ่งก็ว่า ใครที่ไม่เป็นคนที่ชอบธรรม คนนั้นก็จะไม่ได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า

              เมื่อเป็นดังนี้ เราทุกคนต้องคนจึงต้องพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะดำเนินชีวิตให้เป็นผู้ชอบธรรม แต่ความชอบธรรมคืออะไร? หมายความว่าอะไร? ....คนที่ได้ชื่อว่าเป็น “คนชอบธรรม” ก็คือ บุคคลที่กระทำถูกต้องในสายตาของพระเจ้า ประพฤติตนดีงามโดยไม่ยึดติดกับบาปหรือความเลวร้ายต่างๆ มีชีวิตที่อยู่ในศีลและพระพรของพระเจ้า ผูกพันอยู่กับพระเจ้า เป็นผู้ที่มีความศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับอาดัมในระยะแรกที่พระเจ้าทรงสร้างเขามา เขาเป็นคนที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง นี่แหละเป็นเงื่อนไขของบุคคลที่จะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้า

              บางคนอาจจะสงสัยว่า เรื่องนี้จะเป็นไปได้หรือ หรือเป็นไปไม่ได้ ใครจะทำได้ ขอให้เราได้ทบทวนคำสอนจากพระคัมภีร์ที่สอนเราเกี่ยวกับเรื่องของความชอบธรรม พระคัมภีร์ได้สอนเราว่าเราสามารถเป็นผู้ชอบธรรมในพระคริสตเจ้าได้ในสองช่วงเวลา คือ การได้รับความชอบธรรมระหว่างการรับศีลล้างบาป กับการได้รับความชอบธรรมหลังจากการรับศีลล้างบาป ซึ่งทั้งสองต่างมีความจำเป็นที่จะทำให้เราได้เป็นทายาทแห่งเมืองสวรรค์ ได้เป็นบุตรบุญธรรมของพระเจ้า และได้รับพระสิริรุ่งโรจน์

             พี่น้องที่เคารพ เราอาจจะพูดว่า ผม/ฉันรู้พระธรรมคำสอนดีแล้ว ฉันเรียนมาหมดแล้ว ฉันนี้แหละเป็นคนชอบธรรมและสมควรได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าแล้ว แต่แท้จริงแล้ว แค่เป็นรู้หรือฟังมาเท่านั้นยังไม่พอ เพราะ “เพราะผู้ที่พระเจ้าจะทรงบันดาลความชอบธรรมนั้น มิใช่ผู้ที่ได้ยินได้ฟังธรรมบัญญัติเท่านั้น แต่เป็นผู้ที่ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติด้วย” (รม.2:13)

             เราอาจจะได้ยินบางคนบอกว่า ผม/ฉันมีความเชื่อในพระเจ้า ฉันสวดภาวนาทุกวัน ฉันมีรูปพระติดตัวตลอดเวลา ฉันนี้แหละเป็นผู้ชอบธรรมและสมควรจะไดรับสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้า ฉันสามารถเอาตัวรอดไปสวรรค์ได้แล้ว แต่แท้จริงแล้ว ความเชื่ออย่างเดียวก็ไม่ได้นำความชอบธรรมมาสู่ตัวของเราเพราะ “มนุษย์จะเป็นผู้ชอบธรรมได้ก็ด้วยการกระทำมิใช่ด้วยความเชื่อแต่อย่างเดียว”(ยก.2:24)

            บางคนบอกว่า ผม/ฉัน รับศีลล้างบาปแล้ว ฉันเป็นผู้คนชอบธรรมแล้ว แน่นอน โดยผ่านทางศีลล้างบาป พระเยซูเจ้าได้ทรงยอมตายบนไม้กางเขน หลั่งโลหิต เป็นเครื่องบูชาชดเชยบาป หรือจ่ายค่าปรับจากความผิดบาปของเรามนุษย์แล้ว ทำให้เราเป็นอิสระไม่ถูกลงโทษจากบาปในอดีตของเรา(รม.3:25) นอกจากนั้นพระเยซูเจ้าทรงตรัสอีกว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านว่าไม่มีใครเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า ถ้าเขาไม่เกิดจากน้ำและพระจิต”(ยน.3:5) การได้รับพิธีล้างบาปนั้นทำให้เราเป็นผู้ชอบธรรมแล้วก็จริง แต่หลังจากนั้น เราได้ประพฤติตนอย่างไร เราได้ใช้อิสรภาพของเราอย่างไร ความชอบธรรมที่เราได้รับมานั้น เราได้รักษาไว้อย่างดี วิญญาณของเรายังคงบริสุทธิ์ผุดผ่องหรือไม่ ดังนั้น ศีลล้างบาปจึงเป็นก้าวแรกของการเป็นผู้ชอบธรรม ชีวิตแห่งการเป็นบุตรของเจ้าได้เริ่มต้นจากจุดนี้เอง 

           ดังนั้นใครล่ะจะเป็น “ผู้ชอบธรรม และได้รับพระสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้า” อย่างแท้จริง ผมจะพยายามเรียบเรียงการดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระศาสนจักรเพื่อเราจะได้ตรวจสอบตนเอง และมั่นใจว่าเราเป็นผู้ชอบธรรมและเหมาะสมจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า หรือพูดง่ายๆว่าได้ไปสวรรค์ ดังนี้  บุคคลที่จะได้รับความชอบธรรมนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ได้รับพระหรรษทาน(ความช่วยเหลือ)จากองค์พระผู้เป็นเจ้า โดยที่พระเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้เข้าหาหรือแสวงหาพระองค์ พระเจ้าประทานอิสระให้แก่เรา หลายคนรู้แล้วเลือก แต่อีกหลายคนไม่เลือก เมื่อเราเลือกพระองค์และฝากชีวิตไว้กับพระองค์ ยอมเข้ามาร่วมชีวิตกับพระเจ้าโดยผ่านทางศีลล้างบาป เข้าเป็นส่วนหนึ่งแห่งพระวรกายศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ซึ่งทรงทำให้เราเป็นสิ่งสร้างใหม่ เป็นคนใหม่ โดยพระหรรษทานของพระเจ้า ผ่านทางฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า อาศัยความเชื่อศรัทธาในองค์พระเยซูเจ้าและศีลล้างบาป เราได้รับหัวใจใหม่และจิตใจใหม่ซึ่งทำให้เราหลุดพ้นจากบ่วงแร้วของความบาปต่างๆที่เราได้หลงผิดทั้งจากการกระทำของตัวเราเองและผลของบาปที่ติดตัวมาอันเนื่องมาจากบาปกำเนิด เราได้เกิดใหม่ด้วยพระจิตเจ้า(ยน.3:5) เราได้รับพระจิตเจ้า พระจิตเจ้าทรงเป็นผู้นำทางเราให้สามารถดำเนินชีวิตในฐานะคริสตชนได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม การเป็นสิ่งสร้างใหม่หรือคนใหม่นี้แหละที่เป็นหลักประกันถึง “ความหวังในชีวิตนิรันดรของเรา”

           แต่นี้ยังไม่จุดหมายปลายทางของการเป็นคริสตชน นี้เป็นเพียงการเริ่มต้นบนถนนแห่งความเชื่อของเราในฐานะคริสตชนเท่านั้น เราจะต้องดำเนินชีวิตใหม่ในฐานะที่เป็นคนใหม่ของพระคริสตเจ้า นั้นก็คือ เราต้องดำเนินชีวิตตามความเชื่อที่เรามีนั้น เราต้องเป็นคนชอบธรรมในสายพระเนตรของพระเจ้า นั้นคือ เราต้อง “รักพระเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด” เหนือสิ่งของฝ่ายโลก และเราต้อง “รักเพื่อนมนุษย์เหมือนหนึ่งรักตนเอง” และเราต้องเข้ารับศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆของพระศาสนจักรคาทอลิกอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากการรับศีลล้างบาปแล้ว เราอาจจะหลงผิดไปได้อีก เราจึงต้องเข้ารับศีลอภัยบาป เพื่อให้เรากลับมาเป็นผู้ชอบธรรมอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต้องสูญเสียความชอบธรรมไปเพราะบาปของเรา แต่เท่านี้ยังไม่พอ เราต้องรับศีลมหาสนิท ซึ่งพระเยซูเจ้าทรงบอกกับเราว่านี้คือพระกายของพระองค์เอง พระองค์ทรงเป็นอาหารทรงชีวิต ถ้าเราไม่รับประทานอาหารทรงชีวิตนี้แล้ว จิตวิญญาณของเราจะแห้งแล้ง และจะต้องตายอย่างแน่นอน การรับศีลมหาสนิทอย่างสม่ำเสมอนี้แหละจะเป็นหลักประกันเพื่อการรับพระสิริรุ่งโรจน์จากพระเจ้า

           แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับบทอ่านในวันนี้อย่างไร พี่น้องที่เคารพพระอาณาจักรของพระเจ้าเปรียบเหมือนขุมทรัพย์ที่ซ่อนไว้ในดิน ไม่ใช่ทุกคนจะรู้และเข้าใจถึงข่าวดีที่พระเยซูเจ้าต้องการที่จะบอกเรา บางคนมองแต่ไม่เห็น ได้ยินแต่ไม่เข้าใจ เพราะพวกเขาต้องการดูและฟังเฉพาะเรื่องที่พวกเขาสนใจเท่านั้น

           ในบทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือพงศ์กษัตริย์ เราได้รับฟังว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานรางวัลให้กษัตริย์ซาโลมอนเพราะเขาเป็นกษัตริย์ที่ไม่แก่ตนเอง เขาต้องการเป็นคนชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า และพระเจ้าไม่ทรงเปลี่ยนแปลง พระองค์ยังคงประทานพระพรให้กับบุคคลที่ดำเนินชีวิตแบบไม่เห็นแก่ตัวตลอดไป พระองค์ทรงห่วงใยบุคคลที่มีความต้องการหรือขัดสนทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

           ส่วนบทอ่านที่สองจากบทจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวโรมนั้น เราได้ฟังว่าพระเจ้าทรงรู้จักเราก่อนที่เราจะเกิดมาแล้ว และเราจะต้องตอบสนองพระคุณของพระองค์ด้วยใจอันอิสระ พระองค์ทรงรู้จักเราและทรงประทานความชอบธรรมให้แก่เรา นี้เป็นเกียรติที่เราทุกคนจะต้องรักษาไว้ เราจะต้องสำนึกอยู่เสมอว่า ท่ามกลางประชากรมากมายพระเจ้าทรงเรียกเราให้มารู้จักพระองค์ รักพระองค์และปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ มีหลายคนที่ได้รับการเรียกจากพระเจ้าแต่ไม่เขาไม่ตอบรับเสียงเรียกนั้น ในวันนี้พระวรสารจึงต้องการที่จะเปิดดวงตาของเราให้มองเห็นถึงความสำคัญของการเป็นผู้ชอบธรรม การเรียกของพระองค์ และตอบสนองต่อการเรียกของพระองค์

             พระอาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา เมื่อใครพบเข้าก็จะมีความยินดี จะขายทุกอย่างเพื่อรวบรวมเงินมาซื้อที่ดินบริเวณนั้น ขุมทรัพย์ที่ว่านั้นคือชีวิตแห่งความสุขนิรันดร ซึ่งจะเป็นสิริรุ่งโรจน์ของชีวิตที่พระเจ้าประทานให้ แต่การจะได้มาซึ่งความสุขแท้จริงนี้จะต้องขายทุกอย่าง คือ ไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆฝ่ายโลก สละความสนุกฝ่ายเนื้อหนัง ความเห็นแก่ตัว ความโลภ ฯลฯ เราต้องขายสิ่งเหล่านี้ออกไป แล้วรวบรวมสรรพกำลังทั้งหมดของเราเพื่อเอาสวรรค์มาครอบครองให้ได้

              พระอาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้กับอวนที่หย่อนลงในทะเล ติดปลามากมาย แต่ปลาที่ได้มานั้นเป็นทั้งปลาดีและปลาที่ไม่เป็นประโยชน์ เขาเก็บปลาดีๆไว้ ส่วนปลาที่ไม่ดีเขาก็จะโยนทิ้งไป คำอุปมานี้หมายถึงอะไร ปลาดีกับปลาไม่ได้ดีหมายถึงใคร แน่นอนตามความเชื่อของเรา เมื่อถึงวันแห่การพิพากษา วันที่พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่งนั้น พระองค์จะเสด็จมาเพื่อพิพากษาเราแต่ละคน และจะทรงคัดเลือกเรา ใครจะเป็นปลาดีหรือปลาเน่าก็ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเรา นี้เป็นเรื่องที่เราแต่ละคนจะต้องรับผิดชอบตนเอง 

           พี่น้องที่เคารพ ข่าวดีของพระเจ้าประจำสัปดาห์นี้ เตือนใจของเราแต่ละคน ให้คิดถึงอนาคตที่แท้จริงของตัวเรา เราทุกคนจะต้องเป็นผู้ชอบธรรม เพื่อเราจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า เราจะต้องอาศัยความช่วยเหลือจากพระเจ้า ที่เราเรียกว่าพระหรรษทาน พระศาสนจักรได้ให้อุปกรณ์ต่างๆมาช่วยเหลือเราเพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย ได้แก่ ศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ การสวดภาวนา การอ่านพระคัมภีร์ การทำกิจเมตตา การดำเนินชีวิตตามที่พระศาสนจักรได้กำหนดไว้ นี้แหละเป็นข่าวดีที่เราจะต้องรับรู้และปฏิบัติตาม และเราจะต้องนำไปประกาศข่าวดีให้กับผู้ที่ยังไม่รู้ที่ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก
---------------------------------------------------
บทบัญญัติพื้นฐานของพระศาสนจักร
1. จงร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณ และหยุดทางานในวันอาทิตย์ และวันฉลองบังคับ
2. จงรับศีลอภัยบาปอย่างน้อยปีละครั้ง
3. จงรับศีลมหาสนิทอย่างน้อยปีละครั้งในกาหนดปัสกา
4. จงอดอาหาร และอดเนื้อ ในวันที่กาหนด
5. จงบำรุงพระศาสนจักรตามความสามารถ

ข่าว-ประชาสัมพันธ์

ฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิกชั้น ม.3 สังฆมณฑลราชบุรี
"พระเจ้ารักเธอและฉัน" ฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิกชั้น ม.3 สังฆมณฑลราชบุรี วันเสารที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 ศูนย์คริสตศาสนธรรมราชบุรี จัดการฟื้นฟูจิตใจนักเรียนคาทอลิกชั้นมัธยมศึกษาปีที่...
ค่ายคำสอนภาคฤดูร้อนสังฆมณฑลราชบุรี ปี 2024
Download :::: รายละเอียดโครงการ :::: ใบสมัครเข้าค่าย ::::
“ความสุขแท้ในชีวิตคริสตชน” ชุมนุมคริสตชนใหม่สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 2
“ความสุขแท้ในชีวิตคริสตชน” ชุมนุมคริสตชนใหม่สังฆมณฑลราชบุรี ครั้งที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2023 ศูนย์คริสตศาสนธรรม...

Youcat-คำสอนเยาวชน

Youcat 48 ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลก ?
📍ทำไมพระเจ้าทรงสร้างโลก ?#YOUCAT 48 บอกเราว่า...🌻“โลกถูกสร้างมา เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า”...
Youcat 95 ทำไมพระเยซูเจ้าจึงทรงเลือกวันในเทศกาลปัสกาของชาวยิวเป็นวันสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ?
📍ทำไมพระเยซูเจ้าจึงทรงเลือกวันในเทศกาลปัสกาของชาวยิวเป็นวันสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ ? #YOUCAT 95 บอกเราว่า......
Youcat 94 พระเยซูเจ้าทรงทราบหรือไม่ว่าพระองค์ จะสิ้นพระชนม์เมื่อเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ?
📍 พระเยซูเจ้าทรงทราบหรือไม่ว่าพระองค์ จะสิ้นพระชนม์เมื่อเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ?#YOUCAT 94...

พระวาจานำชีวิต

กางเขน เครื่องหมายแห่งความรัก เครื่องหมายแห่งความรอด
สัปดาห์แห่งพระมหาทรมานกำลังเริ่มขึ้นแล้ว ขอพระวาจาพระเจ้าเตือนใจให้เราร่วมแบกกางเขนไปพร้อมกับพระเยซูเจ้าด้วยใจยินดี ผู้ใดไม่รับเอาไม้กางเขนของตนแบกตามเรา ผู้นั้นก็ไม่คู่ควรกับเรา (มธ....
เวลาของพระเจ้า
ไม่มีใครล่วงรู้เวลาของพระเจ้า ฉะนั้นจงเตรียมพร้อมเสมอ ให้พระวาจาพระเจ้านำทางและเสริมกำลังแก่เรา จงมีหนังสือธรรมบัญญัตินี้ติดอยู่กับริมฝีปากของท่านเสมอ และจงไตร่ตรองถึงทุกเช้าค่ำ...
พระเยซูเจ้าทรงเป็นความสว่าง
มหาพรตผ่านไปครึ่งทางแล้ว ยังตั้งใจดีกันอยู่ไหม ขอพระวาจาขององค์พระเยซูเจ้าผู้เป็นความสว่าง ช่วยให้การเดินทางสู่ปัสกาของเรามีความหมายมากยิ่งขึ้น ข้าแต่พระยาห์เวห์...

คู่มือแนะแนวการสอนคำสอน ค.ศ.2020

DC175 การสอนคำสอนจำเป็นต้องถ่ายทอดความงดงามของพระวรสารอยู่เสมอที่ดังก้องจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเจ้าแก่ทุกคน
📖”การประกาศพระคริสตเจ้าหมายถึงการแสดงให้เห็นว่าการเชื่อในพระองค์และการติดตามพระองค์นั้นมิได้เป็นเพียงแค่สิ่งจริงแท้และถูกต้องเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งงดงาม สามารถเติมเต็มชีวิตด้วยความงดงามใหม่และเป็นความชื่นชมยินดีที่ลึกซึ้งแม้ในปัญหาความทุกข์ยาก” 👉การสอนคำสอนจำเป็นต้องถ่ายทอดความงดงามของพระวรสารอยู่เสมอที่ดังก้องจากพระโอษฐ์ของพระเยซูเจ้าแก่ทุกคน คือ...
DC174 การสอนคำสอนทั้งหมดต้องเป็น “การสอนคำสอนเรื่องพระหรรษทาน เพราะเราจึงได้รับความรอดพ้นอาศัยพระหรรษทานและพระหรรษทานยังช่วยให้เราทำงานบังเกิดผลสำหรับชีวิตนิรันดร”
📖อีกหลักเกณฑ์หนึ่งของวิสัยทัศน์แห่งชีวิตคริสตชนก็คือ ความเป็นเอกของพระหรรษทาน การสอนคำสอนทั้งหมดต้องเป็น “การสอนคำสอนเรื่องพระหรรษทาน เพราะเราจึงได้รับความรอดพ้นอาศัยพระหรรษทานและพระหรรษทานยังช่วยให้เราทำงานบังเกิดผลสำหรับชีวิตนิรันดร”...
DC173 การประกาศเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้านั้นครอบคลุมไปถึงสารแห่งการช่วยให้บรรลุอิสรภาพและการพัฒนามนุษย์ให้เจริญก้าวหน้าด้วย
📖การประกาศเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้านั้นครอบคลุมไปถึงสารแห่งการช่วยให้บรรลุอิสรภาพและการพัฒนามนุษย์ให้เจริญก้าวหน้าด้วย ซึ่งเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับการดูแลรักษาและการรับผิดชอบต่อสิ่งสร้าง ความรอดพ้นที่พระเจ้าประทานให้และที่พระศาสนจักรประกาศนั้นเกี่ยวข้องกับทุกแง่มุมของชีวิตด้านสังคม ดังนั้น จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงความซับซ้อนของโลกปัจจุบันและความเชื่อมโยงภายในที่มีอยู่ระหว่างวัฒนธรรม...

เนื้อหา Update ล่าสุด

สถิติการเยี่ยมชม

0.png0.png6.png5.png0.png6.png3.png
วันนี้2042
เมื่อวานนี้2420
สัปดาห์นี้4462
เดือนนี้64907
ทั้งหมด65063

ขณะนี้มีผู้เยี่ยมชม

7
Online

วันอังคาร, 23 เมษายน 2567 20:16

เนื้อหาและบทเรียน

คำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก

หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก(CCC)

สารคำสอน 181 (พ.ย.2022 - มี.ค. 2023)

สารคำสอนสังฆมณฑลราชบุรี ปีที่ 28 ฉบับที่ 181 เดือนพฤศจิกายน 2022 - มีนาคม 2023

เรียนคำสอนกับพ่อวัชศิลป์

สมัครเรียนพระคัมภีร์ไปรษณีย์

สมัครเรียนพระคัมภีร์ไปรษณีย์ "ภาคปัญจบรรพ"

สมัครเรียนพระคัมภีร์ทางไปรษณีย์และทางไลน์ "หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัย นารูธ 1ซามูแอล 2ซามูแอล"

สมัครเรียนพระคัมภีร์ทางไปรษณีย์และทางไลน์ "พระวรสารทั้งสี่และกิจการอัครสาวก"

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์