ศูนย์คริสตศาสนธรรมสังฆมณฑลราชบุรี
CATECHETICAL CENTER OF RATCHABURI DIOCCESE

 ccp038.jpgบทเรียนที่         1 เดือนกุมภาพันธ์ 1997

หัวข้อเรื่อง         นักบุญวินเซนต์เดอปอล บุรุษผู้อุทิศตนเพื่องานสังคมสงเคราะห์

จุดมุ่งหมาย      
เพื่อให้ผู้เรียนอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าคือ โดยมีความรัก เสียสละ รับผิดชอบ ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกันตามแบบอย่างของนักบุญวินเซนต์เดอปอล

ขั้นที่ 1 กิจกรรม
                  ให้ผู้เรียนอาสามานำเสนอปัญหาที่สำคัญๆ ในสังคมไทยปัจจุบัน
                   เช่น ปัญหายาบ้า ปัญหาโสเภณี ปัญหาการข่มขืน ปัญหาเด็กเร่ร่อน
                   ปัญหาโรคเอดส์ หน้าชั้น เสร็จแล้วผู้เรียนเข้ากลุ่ม ปรึกษาหารือกันจัดลำดับ
                   ปัญหาเหล่านั้นว่าปัญหาใดมีความสำคัญเป็นอันดับแรกที่ต้องการการป้องกัน
                   แก้ไขอย่างรีบด่วน ปัญหาใดมีความสำคัญเป็นอันดับสอง อันดับสาม ฯลฯ
                   ให้ผู้แทนของกลุ่มออกมารายงานผล พร้อมทั้งให้เหตุให้ผลประกอบหน้าชั้น

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์
 ครูเอาปัญหาที่ผู้เรียนนำเสนอมาจัดลำดับความสำคัญใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยอาศัยความเห็นส่วนใหญ่เป็นเกณฑ์ และ

- ชี้ให้เห็นผลร้ายที่เกิดขึ้นจากปัญหาดังกล่าว (ถ้ามีภาพจากหนังสือพิมพ์ ฯลฯ มาแสดงประกอบได้ด้วยก็จะเป็นการดี)
- ชี้ให้เห็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหานั้นๆ ซึ่งคงจะเป็นปัญหาของสังคมเหมือนๆ กันทั้งในยุคของนักบุญวินเซนต์เดอปอล และในยุคของเรานี้คือ
ก. ความเห็นแก่ตัวของผู้คน
ข. การแย่งชิงอำนาจทรัพย์สินกันและกัน
ค. ความแตกแยกในครอบครัว
ง. ลัทธิวัตถุนิยม บริโภคนิยม

            สรุป ตัวการของปัญหาในสังคมก็คือ “มนุษย์” เอง ซึ่งต้องการการเยียวยารักษายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เราจะแก้ปัญหาของสังคมไม่ได้ถ้าไม่แก้ที่ตัวมนุษย์ แล้วใครเล่าจะอาสาเข้ามาแก้ปัญหาในตัวมนุษย์

ขั้นที่ 3 คำสอน
 1.วินเซนต์เดอปอลเกิดจากครอบครัวชาวนาในประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1581 ดำเนินชีวิตเป็นเด็กท้องนาจนกระทั่งได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์เมื่ออายุเพียง 19 ปีเท่านั้น ท่านได้ผ่านความยกาลำบาก แม้กระทั่งคำเล่าขานว่าถูกจับจากโจรสลัดและนำไปขายเป็นทาสที่เมืองตูนีส แต่ก็หนีรอดมาได้หลังจากนั้นสองปี ทำให้ช่วยเพิ่มประสบการณ์ความยากลำบากมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้จึงมีส่วนช่วยหล่อหลอมใจของท่านให้สงสารและเมตตาคนยากจน คนจน คนที่ตกเป็นทาสในยุคสมัยของท่านนั้น จึงเกิดแรงบันดาลใจให้ก่อตั้ง “คณะธิดาแห่งความรัก” ขึ้นเพื่อรับใช้ช่วยเหลือคนยากจนและคนเจ็บป่วย ซึ่งต่อมาในปี ค.ศ. 1833 ได้มีผู้สืบทอดเจตนารมณ์และนำไปขยับขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยการริเริ่มของหนุ่มไฟแรงเจ็ดคน มีเฟรเดริค โอซานัม เป็นหัวหน้าที่เรารู้จักกันในชื่อ “สมาคมนักบุญวินเซนต์ปอล” ในปัจจุบัน ท่านยังเอาใจใส่กระแสเรียกและชีวิตของพระสงฆ์ในสมัยนั้นด้วยซึ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาสังคมไม่เบาเช่นเดียวกัน จึงได้อุทิศตนเพื่องานอบรมฟื้นฟูจิตใจต่างๆ ของสามเณรและพระสงฆ์ และท่านยังได้ก่อตั้ง “คณะสงฆ์แพร่ธรรม” ขึ้นมาคณะหนึ่งด้วย มีชื่อเรียกกันว่า ลาชาริสต์ มาจากชื่อบ้านแม่ของคณะที่ก่อกำเนิดมา แม้ว่าท่านจะล่วงลับไปแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 แต่จิตตารมณ์ของท่านซึ่งเป็นจิตตารมณ์แห่งความรักตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์มิได้ล่วงลับดับสูญไปด้วย แต่กลับงอกเงยโดยผ่านทางผู้ที่เลื่อมใสในสิ่งที่ท่านได้ริเริ่มไว้ วินเซนต์เดอปอลได้รับแต่งตั้งเป็นนักบุญเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ค.ศ. 1737 โดยพระสันตะปาปาเคลเมนส์ที่ 13 และพระสันตะปาปาเลโอที่ 13 ได้ประกาศยกย่องให้ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์ของกิจการด้านสงเคราะห์ทั้งหลาย
 
 2.ปัญหาต่างๆ ของสังคมเราในปัจจุบัน ซึ่งได้เห็นกันมาแต่แรกแล้วนั้นก็ต้องการคนอย่างนักบุญวินเซนต์เดอลปอลมาช่วยกอบกู้ จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากพวกเรานี่แหละ ก่อนอื่นหมด คนที่จะอาสเข้ามายืนตรงจุดนี้จะต้องพร้อที่จะต้านกระแสของสังคมที่กำลังปลูกฝังค่านิยมผิดๆ ให้แก่เยาวชนและคนที่อ่อนเชิง รู้ไม่เท่าทัน
 
 ตัวอย่าง เช่น
                   ปัญหายาบ้า ทั้งคนผลิต คนขาย คนเสพ จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
                                   ดีมีประโยชน์ กินแล้วกระฉับกระเฉง สมองปราดเปรื่อง
                                   เพิ่มความขยัน ฯลฯ
                   ปัญหาการขายตัว ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะถือว่าเป็นแฟชั่นที่ผู้คนนิยม
                                          อิสระ หาเงินคล่อง เป็นหนทางลัดไปสู่ความมีหน้ามีตา ฯลฯ
                   ปัญหาสิ่งเสพติด คนที่สูบบุหรี่จุถือว่าเป็นสิ่งโก้ เจนจัดสังคม เสริมบุคลิก 
                                         คนที่ดื่มสุราจะบอกว่าเป็นการเข้าสังคม เน้นความเป็นชาย
                                         ชาตรี ฯลฯ
          เราจะเป็นผู้แก้ปัญหาของสังคมได้ก็ต้องออกแรงต้านค่านิยมผิดๆ เหล่านี้
 โดยเริ่มต้นจากตัวเราเอง คือสร้างค่านิยมที่ถูกต้องที่ว่า ศักดิ์ศรีของมนุษย์มิใช่
 อยู่ที่สิ่งของภายนอก แต่อยู่ที่ตัวมนุษย์เองที่พระเป็นเจ้าทรงสร้างมาตามพระ
 ฉายาของพระองค์ (ปฐก 1:27) เป็นพระฉายาที่ประเสริฐที่ไม่บังควรที่เราจะทำ
 ให้เปรอะเปื้อนด้วยสิ่งที่ต่ำช้าสามานย์ดังที่กล่าวข้างต้นนั้นและเราควรจะช่วยกัน
 เตือนสติเพื่อนๆ ของเราให้ตื่นขึ้นมาจากความหลงผิด มีหูตาสว่าง โดยชักนำเขา
 มาร่วมกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์แทน เช่น การเล่นกีฬา การบำเพ็ญประโยชน์
 กิจเมตตาสงเคราะห์ต่างๆ ที่ทำแล้วก่อให้เกิดความสุขใจ
 
 3.เราควระคิดถึงคนที่ตกทุกข์ได้ยากอื่นๆ เช่น ความยากจน คนพิการ คนชรา เด็กเร่ร่อน ฯลฯ ด้วย และพยายามทำทุกอย่างตามความสามารถเพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากเหล่านั้น พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “ทุกสิ่งที่ท่านได้ทำต่อพี่น้องเราที่ต้องต่ำ ท่านได้ทำต่อเราเอง” (มธ 25:40) และรางวัลของท่านในสวรรค์จะใหญ่ยิ่งนัก

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ
ก.ข้อควรจำ
1.ปัญหาที่แท้จริงของสังคมอยู่ที่ตัวมนุษย์เอง เราจึงต้องแก้ปัญหาที่ตัวมนุษย์
2.พระเป็นเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาตามพระฉายาของพระองค์ ศักดิ์ศรีของมนุษย์อยู่ที่ตรงนี้ ไม่ใช่สิ่งภายนอกใดๆ
3.เราต้องสร้างค่านิยมที่ถูกต้องในตัวเราก่อน อย่าหลงตามค่านิยมผิดๆ ของโลก ครั้นแล้วจึงพยายามช่วยสร้างค่านิยมที่ถูกต้องในตัวเพื่อนๆ ด้วย
4.“ทุกสิ่งที่ท่านได้ทำต่อพี่น้องเราที่ต้อยต่ำ ท่านได้ทำต่อเราเอง” (มธ 25:40)
ข.กิจกรรม 
แบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มจัดทำโปสเตอร์รณรงค์ต่อต้านปัญหาของสังคม เช่น ยาบ้า ยาเสพติด โสเภณีเด็ก เด็กเร่ร่อน ฯลฯ
ค.การบ้าน
 บริจาคเสื้อผ้า สิ่งของ ให้กับแหล่งรับบริจากค เช่น สมาคมวินเซนต์เดอปอล
 โคเออร์ สังคมพัฒนา เป็นต้น เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ขัดสนต้องการต่อไป

เนื้อหาและบทเรียน

Download พิธีศีลศักดิ์สิทธิ์สำหรับเด็กและเยาวชน

Download พิธีโปรดศีลศักดิ์สิทธิ์