💦ผ่านทางศีลล้างบาป คริสตชนทุกคนมีหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวดี เป็นธรรมทูตของพระคริสตเจ้า เป็นธรรมทูตแห่งความหวัง
📖พระวาจาพระเจ้าให้แนวทางไว้ด้วย มาอ่านและนำไปใชักัน
🌈ในทำนองเดียวกัน แสงสว่างของท่านต้องส่องแสงต่อหน้ามนุษย์ เพื่อคนทั้งหลายจะได้เห็นกิจการดีของท่าน และสรรเสริญพระบิดาของท่านผู้สถิตในสวรรค์” (มธ. 5:16)
🌈ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด” (มธ. 5:48)
🌈ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่าน แล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ (มธ. 18:19-20)
🌈แต่พระผู้ช่วยเหลือคือพระจิตเจ้า ที่พระบิดาจะทรงส่งมาในนามของเรานั้น จะทรงสอนท่านทุกสิ่ง และจะทรงให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราเคยบอกท่าน (ยน. 14:26)
🌈พระองค์ตรัสกับเขาอีกว่า “สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด พระบิดาทรงส่งเรามาฉันใด
เราก็ส่งท่านทั้งหลายไปฉันนั้น” (ยน. 20:21)
🌈พระจิตเจ้าจะเสด็จลงมาเหนือท่าน และท่านจะรับอานุภาพเพื่อจะเป็นพยานถึงเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย แคว้นสะมาเรียจนถึงสุดปลายแผ่นดิน (กจ. 1:8)
🌈เปโตรตอบว่า “ท่านทั้งหลายจงกลับใจเถิด แต่ละคนจงรับศีลล้างบาปเดชะพระนามพระเยซูคริสตเจ้า เพื่อจะได้รับการอภัยบาป แล้วท่านจะได้รับพระพรของพระจิตเจ้า (กจ. 2:38)
🌈เพราะถ้าท่านประกาศด้วยปากว่า พระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และมีความเชื่อในใจว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย ท่านก็จะรอดพ้น (รม. 10:9)
🌈จงยึดถือข้าพเจ้าเป็นแบบอย่างเหมือนกับที่ข้าพเจ้ายึดถือพระคริสตเจ้าเป็นแบบอย่างเถิด (1คร. 11:1)
🌈ทุกสิ่งมาจากพระเจ้า พระองค์ทรงทำให้เราคืนดีกับพระองค์เดชะพระคริสตเจ้า และทรงมอบภารกิจการคืนดีนี้ให้เรา (2คร. 5:18)
🌈พระเจ้าทรงทำให้โลกคืนดีกับพระองค์ในองค์พระคริสตเจ้า พระองค์มิได้ทรงเอาผิดกับมนุษย์ แต่ทรงมอบให้เราประกาศสารแห่งการคืนดีนี้ (2คร. 5:19)
🌈ดังนั้น เราจึงเป็นทูตแทนพระคริสตเจ้า ประหนึ่งว่าพระเจ้าทรงใช้เราให้เชิญชวนท่านทั้งหลาย เราจึงขอร้องแทนพระคริสตเจ้าว่า จงยอมคืนดีกับพระเจ้าเถิด (2คร. 5:20)
🌈ข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่พระคริสตเจ้าทรงดำรงชีวิตอยู่ในตัวข้าพเจ้า (กท. 2:20)
🌈พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านพบว่าใครคนหนึ่งทำผิด ท่านซึ่งมีพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ จงตักเตือนแก้ไขเขาด้วยความอ่อนโยน จงระวังตัว ท่านอาจถูกทดลองด้วย (กท. 6:1)
🌈ท่านได้รับความรอดพ้นเพราะพระหรรษทานอาศัยความเชื่อ ความรอดพ้นนี้มิได้มาจากท่าน แต่เป็นของประทานจากพระเจ้า มิได้มาจากการกระทำใดๆ ของท่าน เพื่อมิให้ใครโอ้อวดตนได้ (อฟ. 2:8-9)
🌈เราเป็นผลงานของพระองค์ ถูกสร้างมาในพระคริสตเยซูเพื่อให้ประกอบกิจการดี ซึ่งพระเจ้าทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าให้เราปฏิบัติ (อฟ. 2:10)
🌈ข้าพเจ้าเป็นทูตที่ถูกจองจำเพราะข่าวดีนี้ ขอให้ข้าพเจ้ามีความกล้าหาญที่จะพูดอย่างเหมาะสมด้วยเถิด (อฟ. 6:20)
🌈แต่บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ในสวรรค์ เราเฝ้าคอยพระผู้ไถ่จากแดนนี้ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า (ฟป. 3:20)
🌈จงระวังอย่าให้ผู้ใดใช้ปรัชญาหรือเล่ห์กลไร้แก่นสารหลอกลวงท่านdตามขนบประเพณีของมนุษย์ หรือตามจิตที่ควบคุมโลก ไม่ใช่ตามพระคริสตเจ้า (คส. 2:8)
🌈พระองค์มีพระประสงค์ให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น และรู้ความจริงที่สมบูรณ์ (1ทธ. 2:4)
🌈พระจิตเจ้าตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า ในยุคสุดท้าย บางคนจะละทิ้งความเชื่อ และเปลี่ยนไปสนใจจิตที่หลอกลวงและสนใจคำสอนของปีศาจ สนใจคำสอนของคนโกหกเจ้าเล่ห์ ซึ่งมโนธรรมของเขาถูกมารร้ายตอกตราไว้แล้ว (1ทธ. 4:1-2)
🌈อย่าอายที่จะเป็นพยานถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา หรืออายที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำเพราะพระองค์ แต่จงเข้ามามีส่วนร่วมทนทุกข์ทรมานกับข้าพเจ้าเพื่อข่าวดีโดยพระอานุภาพของพระเจ้า (2ทธ. 1:8)
🌈ท่านจงขวนขวายที่จะแสดงตนว่าพระเจ้าทรงรับรองท่านแล้ว เป็นคนงานที่ไม่ต้องอายใคร เป็นผู้สั่งสอนพระวาจาแห่งความจริงอย่างถูกต้อง (2ทธ. 2:15)
🌈ทุกถ้อยคำในพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และมีประโยชน์eเพื่อสั่งสอน ว่ากล่าวตักเตือนให้ปรับปรุงแก้ไข และอบรมให้ดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม คนของพระเจ้าจะได้เตรียมพร้อมและพร้อมสรรพเพื่อกิจการดีทุกอย่าง (2ทธ. 3:16-17)
🌈ความเชื่อก็เช่นเดียวกัน หากไม่มีการกระทำ ก็เป็นความเชื่อที่ตายแล้ว (ยก. 2:17)
🌈พี่น้องทั้งหลาย ถ้าท่านใดหลงผิดไปจากความจริงและอีกคนหนึ่งนำเขากลับมา (ยก. 5:19)
🌈จงรู้ไว้เถิดว่าi ผู้ที่ช่วยคนบาปให้กลับมาจากทางผิด ก็จะช่วยวิญญาณของตนให้รอดพ้นจากความตาย และจะได้รับการอภัยบาปมากมาย (ยก. 5:20)
🌈จงมีความประพฤติดีงามในหมู่คนต่างศาสนา แม้เขาจะใส่ร้ายท่านว่าประพฤติชั่วร้าย เขาจะต้องยอมรับว่ากิจการที่ท่านทำนั้นเป็นกิจการดี และจะสรรเสริญพระเจ้าในวันที่พระองค์เสด็จมา (1ปต. 2:12)
🌈เพราะไม่เคยมีถ้อยคำใดของบรรดาประกาศกที่มาจากเจตนารมณ์ของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระจิตเจ้าทรงดลใจ (2ปต. 1:21)
🌈ท่านที่รักทั้งหลาย สิ่งหนึ่งที่ท่านต้องไม่ลืมคือ สำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า เพียงหนึ่งวันก็เหมือน กับหนึ่งพันปี และหนึ่งพันปีก็เหมือนกับหนึ่งวัน (2ปต. 3:8)
🌈องค์พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงรีรอที่จะปฏิบัติตามพระสัญญาดังที่บางคนคิด แต่พระองค์ทรงอดกลั้นต่อท่านทั้งหลาย ไม่ทรงประสงค์ให้ผู้ใดต้องพินาศ แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจเปลี่ยนวิถีชีวิต (2ปต. 3:9)
🌈ผู้ที่พูดว่า “ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์” แต่ไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระองค์ เขาเป็นคนพูดคำเท็จและ “ความจริง” ไม่อยู่ในตัวเขา (1ยน. 2:4)
🌈แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์ ความรักของพระเจ้าcในผู้นั้นย่อมสมบูรณ์ โดยวิธีนี้เราจึงรู้ว่า เราอยู่ในพระเจ้า ผู้ที่พูดว่าเขาอยู่ในพระองค์ ก็ต้องดำเนินชีวิตเหมือนกับที่พระองค์ทรงดำเนินชีวิต (1ยน. 2:5-6)
🌈ท่านที่รักทั้งหลายอย่าเชื่อการดลใจทุกประการ แต่จงทดสอบการดลใจต่างๆ ก่อนว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะมีประกาศกเทียมอยู่ทั่วไปในโลก (1ยน. 4:1)
🌈เพื่อนรัก อย่าทำตามตัวอย่างที่เลว แต่จงพยายามทำตามตัวอย่างที่ดี คนที่ทำความดีมาจากพระเจ้า คนที่ทำความชั่วไม่เคยรู้จักพระเจ้า (3ยน. 1:11)
🌈ข้าพเจ้าเห็นว่า จำเป็นต้องเขียนเตือนท่านให้ต่อสู้เพื่อป้องกันความเชื่อที่พระเจ้าประทานแก่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ครั้งเดียวตลอดไป (ยด. 1:3)
🌈ดังนั้น จงระลึกว่าท่านตกจากสภาพเดิมที่เคยเป็น จงกลับใจและทำกิจการอย่างเดิม ถ้าท่านไม่กลับใจ เราจะมาพบท่านและจะยกเชิงตะเกียงของท่านออกจากที่ตั้ง (วว. 2:5)