จดหมายเปิดผนึก...ถึงเพื่อน...ผู้ร่วมงาน
Love Letter 19 “เมตตาธรรมฝ่ายกาย "
เพื่อนผู้ร่วมงานที่รัก
                      

           ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเมตตาธรรม (8 ธันวาคม 2015 – พฤศจกายน 2016) เป็นปีที่นำความยินดีมาให้เราอย่างเป็นรูปธรรม ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมต่างๆที่พวกเราคาทอลิกได้กระทำกันทั้งเป็นการส่วนตัว ครอบครัว และหมู่คณะ ระดับวัด เขต และสังฆมณฑล การกระทำกิจเมตตาทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิตเป็นแรงกระเพื่อมสำคัญที่ทำให้โลกสดใสขึ้น จึงอยากจะบันทึกคำสอนเรื่องกิจเมตตาไว้ในหนังสือเล่มนี้ เพราะถึงแม้ว่ากำหนดการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมจะจบลงไปแล้ว แต่กิจการแห่งเมตตาธรรมจะต้องคงอยู่เป็นกิจนิสัยของเราคริสตชนต่อไป


           เราจะแสดงความเมตตาของพระเจ้าต่อผู้อื่นได้อย่างไร เราพูดว่าพระจ้าทรงเป็นผู้ที่มีความเมตตากรุณา ทรงเห็นอกเห็นใจต่อเรา แต่เรากลับเมินเฉยต่อคนยากไร้ เราพูดว่าพระเจ้ารักเราและมีเมตตาต่อเรา แต่เรากลับหยาบคายกับเพื่อนๆของเรา เราจำเป็นต้องทบทวนกิจการพระเมตตาของพระเจ้า ซึ่งเราสามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้ในหลายๆกิจกรรมในแต่ละวัน

เมตตาธรรมฝ่ายกาย
เมตตาธรรมฝ่ายกาย
         เราพบกิจเมตตาธรรมฝ่ายกายได้จากคำสอนของพระเยซูเจ้าที่พระองค์ทรงกระทำเป็นแบบอย่างว่าเราควรที่จะปฏิบัติตนอย่างไรกับผู้อื่น ให้เราคิดว่า “การปฏิบัติกับผู้ที่ต่ำต้อยก็เท่ากับปฏิบัติต่อพระองค์เอง” การปฏิบัติกิจเมตตาแห่งความรักนี้เป็นการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในเรื่องความต้องการฝ่ายร่างกาย เป็นการตอบสนองหรือการช่วยเหลือต่อความจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต

           กิจเมตตาธรรมฝ่ายการมีทั้งหมด 7 ประการ แต่ละประการมีข้อแนะนำในการนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันซึ่งแต่ละคนอาจจะกระทำเพิ่มเติมในรูปแบบกิจกรรมอื่นๆได้ตามความเหมาะสม

1. ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย1. ให้อาหารแก่ผู้หิวโหย
             ในสังคมของเรายังมีคนอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีอาหารจะรับประทาน ขณะที่หลายคนมีอย่างเหลือเฝือและบางครั้งก็กินทิ้งกินขว้าง เราควรคิดหาวิธีที่จะทำอย่างไรให้การรับประทานอาหารของเราได้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นบ้าง
- ในงานเลี้ยงฉลอง เรามีอาหารที่อร่อยมากมายเหลือเฝือ เราจะบริจาคหรือนำไปให่คนที่ไม่มีอะไรจะรับประทานบ้างได้หรือไม่
- เราจะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือองค์กรหรือหน่วยงานที่ช่วยเหลือคนยากจนบ้างได้ไหม
- เมื่อมีของกินที่สามารถนำมาเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ให้เก็บไว้แล้วนำไปให้คนที่ไม่มีได้ไหม
- พยายามที่จะไม่ตักอาหารเกินความต้องการ ถ้าท่านเห็นว่าของที่เหลือจะต้องถูกนำไปทิ้ง ให้ท่านขอจากเจ้าภาพเพื่อนำไปให้คนยากจนได้หรือไม่
- บางร้านค้าที่ขายของไม่หมด จะนำของเหล่านั้นไปให้คนยากจนแทนที่จะนำไปทิ้งได้หรือไม่
- เก็บเงินที่จะซื้อขนมหรืออาหารแล้วสะสมไว้นำไปถวายในวัดเพื่อช่วยเหลือคนยากจน
- หาองค์กรกุศลเพื่อช่วยระดมทุนหรืออาสาสมัครในการช่วยเหลือคนยากจน หรือสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์กรการกุศลที่มีอยู่แล้ว 
 2. ให้น้ำแก่ผู้กระหาย2. ให้น้ำแก่ผู้กระหาย
           พี่น้องของเราจำนวนมากไม่มีน้ำดื่มที่สะอาดและต้องทุกข์ทรมานจากการขาดปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต เราควรช่วยเหลืออย่างเต็มความสามารถของเราเพื่อให้พวกเขาได้เข้าถึงปัจจัยที่จำเป็นต่างๆเหล่านั้น
- ช่วยบริจาคเพื่อขุดบ่อน้ำเพื่อให้พวกเขาได้มีน้ำใช้ที่สะอาด
- จัดตั้งกลุ่มเด็กๆอาจจะเป็นทีมฟุตบอลหรือกีฬาอย่างอื่น หลังเล่นแล้วให้ช่วยกันรณรงค์นำขวดน้ำ ใส่น้ำสะอาดไปแจกจ่ายให้บ้านที่ไม่มีน้ำสะอาดใช้
- ทำเช่นเดียวกันกับเยาวชนและผู้ใหญ่ในหมู่บ้าน
- พยามยามใช้น้ำอย่างประหยัด จงปิดน้ำทุกครั้งที่ใช้เสร็จแล้วไม่ว่าจะแปรงฟันหรือล้างถ้วยชาม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ขาดน้ำ
 3. ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ไม่มีนุ่งห่ม3. ให้เสื้อผ้าแก่ผู้ไม่มีนุ่งห่ม
             เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มมีความจำเป็นต่อมนุษย์ทุกคน บางคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่มีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ตัว ในขณะที่บางคนมีอย่างเหลือเฟือ ถ้าสำรวจดูแต่ละคนจะเห็นได้ว่ามีเสื้อผ้าที่เกินความต้องการ ดังนั้นการแบ่งปันเสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องที่เราสามารถกระทำได้ไม่ยากเลย
- สำรวจในตู้เสื้อผ้าเพื่อนำเสื้อผ้าไปบริจาคให้กับคนที่ต้องการ
- ตั้งกล่องที่วัดแล้วเชิญชวนให้คนนำเสื้อผ้ามาบริจาค
- รวบรวมเงินเพื่อซื้อชุดนักเรียนให้กับเด็กๆในท้องที่ยากจน
- รวบรวมเสื้อผ้าเด็ก เครื่องใช้ ของเล่นสำหรับเด็กๆไปมอบให้กับเด็กๆในครอบครัวยากจน
 4. ให้ที่พักแก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่4. ให้ที่พักแก่ผู้ที่ไร้ที่อยู่
             มีหลายๆสถานการณ์ที่ทำให้บางคนจำเป็นที่จะต้องไร้ที่อยู่อาศัย พระเยซูเจ้าทรงสนับสนุนเราให้ออกไปหาบุคคลเหล่านั้น ยืนยันถึงคุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ของพวกเขา หาทางช่วยเหลือพวกเขาให้พบทางออกที่กำลังท้าทายชีวิตของพวกเขา
- ปรึกษากับสมาชิกของวัดหรือสังฆมณฑลเพื่อจะได้หาทางช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีบ้านอยู่อาศัย และอาสาสมัครออกไปช่วยเหลือ
- บริจาคเงินให้กับองค์กรกุศลที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยสร้างบ้านให้กับคนที่ไร้บ้านอยู่อาศัย
- คนที่ไร้บ้านจำนวนมากมีความต้องการผ้าห่มเพื่อความอบอุ่นในการพักผ่อนหลับนอน ท่านสามารถตัดเย็บหรือจัดหามาให้พวกเขาเพื่อบรรเทาทุกข์ได้
- มีเด็กเป็นจำนวนล้านๆและครอบครัวจำนวนมาที่ต้องอพยพย้ายถิ่น หนีจากภัยสงคราม ความหิวกระหาย และกำลังแสงหาความปลอดภัยและสันติสุขในชีวิต เราอาจจะระดมพลังของเด็กและเยาวชนในเขตวัดของเรา รวมทั้งบรรดาเยาวชนและผู้ใหญ่ในการสำรวจความจำเป็นและความต้องการ นำเสนอต่อหน่วยงานด้านสังคมของพระศาสนจักร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น คณะกรรมการด้านสังคม คณะกรรมเพื่อความยุติธรรมและสันติ ทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติเพื่อหาทางช่วยเหลืออย่างเป็นระบบและยั่งยืน
5. เยี่ยมผู้ป่วย 5. เยี่ยมผู้ป่วย
               บุคคลที่เจ็บไข้ได้ป่วยมักจะถูกหลงลืมหรือมองข้ามไป เราแต่ละคนจึงควรที่จะจัดเวลาเพื่อไปเยี่ยมและให้กำลังใจบุคคลเหล่านั้นบ่อยๆ เท่าที่สามารถ สิ่งที่เราสามารถทำได้ เช่น
- การบริจาคโลหิต
- การสละเวลาเพื่อเป็นอาสาสมัครพยาบาลคนเจ็บป่วยที่บ้าน – ใช้พระพรที่พระเจ้าประทานให้ให้เป็นประโยชน์ เช่น การอ่านหนังสือ การพูดคุย การร้องเพลง การวาดภาพ ฯลฯ
- ออกไปเยี่ยมเพื่อนบ้านที่คนสูงอายุในวัดหยุด
- อาสาช่วยคนที่ต้องพยาบาลคนเจ็บไข้หรือคนชราเป็นประจำทุกๆวัน ให้เขาได้พักผ่อนบ้าง
- ถ้าท่านทำอาหาร ให้ทำเผื่อครอบครัวที่มีคนเจ็บป่วยที่สมาชิกในบ้านไม่มีเวลาในการทำอาหาร
 6. เยี่ยมผู้ต้องขัง6. เยี่ยมผู้ต้องขัง
            คนที่ต้องถูกจองจำในคุกยังคงเป็นบุคคลที่ต้องการกำลังใจ พวกเขายังคงเป็นพี่เป็นน้องกับพวกเรา เป็นฉายาลักษณ์ของพระเจ้าเช่นเดียวกับเรา ไม่ว่าพวกเขาจะได้กระทำอะไรลงไป พวกเขาก็ยังคงรอโอกาสหรือมีสิทธิที่จะได้รับฟังข่าวดีของพระเจ้าและแสวงหาแนวทางที่ถูกต้องจากพระวาจาของพระเจ้าในการดำเนินชีวิต
- อาสาสมัครเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มหรือองค์กรที่เกี่ยวกับการอภิบาลคนที่ถูกคุมขัง หรือจัดกลุ่มกันเพื่อทำงานอภิบาลในด้านนี้
-  จัดกลุ่มออกไปเยี่ยมหรือหาสิ่งของเพื่อนำไปมอบให้ผู้ที่ถูกจองจำในโอกาสคริสต์มาสหรือปีใหม่

7. ร่วมงานฝังศพ7. ร่วมงานฝังศพ
           การไปฝังศพเป็นโอกาสที่เราสามารถแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจเพื่อนในยามที่พวกเขาตกอยู่ในห้วงเวลาแห่งความทุกข์ยาก เราอาจจะภาวนาและการช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่งที่เราสามารถกระทำได้ เป็นการแสดงออกถึงการให้ความเคารพต่อชีวิต ซึ่งเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้ และยังเป็นการให้กำลังใจหรือการปลอบโยนแก่บุคคลที่กำลังโศกเศร้า
- ส่งการ์ดหรือข้อความเพื่อแสดงความเสียใจให้กับบุคคลที่ต้องสูญเสียบุคคลที่เขารัก ท่านอาจจะทำการ์ดและเขียนคำภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ
- การไปเยี่ยมที่ป่าช้าและภาวนาสำหรับดวงวิญญาณของผู้ล่วงลับ
- ให้คำแนะนำในการจัดงานศพแบบคริสตชน
- ศึกษาพิธีกรรมหรือคำสอนเรื่องความตายและการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า และความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายของคาทอลิก
- ขอมิสซาเพื่อผู้ล่วงลับ


              เพื่อนผู้ร่วมงานที่รัก คงมีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างที่เราได้กระทำกันอยู่แล้ว และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราคิดว่าเราสามารถกระทำเพิ่มเติมได้ อย่าลืมคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ว่า “พระอาณาจักรของพระเจ้าไม่อยู่ในคำพูด แต่อยู่ในการกระทำซึ่งแสดงพระอานุภาพของพระจิตเจ้า” (1โครินธ์ 4:20)  “เพราะเราทุกคนจะต้องปรากฏเฉพาะพระบัลลังก์ของพระคริสตเจ้า เพื่อแต่ละคนจะได้รับสิ่งตอบแทนสมกับที่ได้กระทำเมื่อยังมีชีวิตอยู่ในร่างกาย ขึ้นอยู่กับการกระทำนั้นว่าจะดีหรือชั่ว” (2 โครินธ์ 5:10) “แต่ละคนจงพิจารณาการกระทำของตน แล้วจะภูมิใจในตนเอง โดยไม่ต้องเปรียบเทียบกับผู้อื่น” (กาลาเทีย 6:4) “พี่น้องทั้งหลาย จะมีประโยชน์ใดหากผู้หนึ่งอ้างว่ามีความเชื่อแต่ไม่มีการกระทำ ความเชื่อเช่นนี้จะช่วยให้เขารอดพ้นได้หรือ” (ยากอบ 2:14)

             ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านพ้นไปแต่ คำสอนของพระเจ้าจะยังคงอยู่ตลอดไป

ขอให้สนุกกับงานรับใช้พระเจ้า
คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริญ


***ภาพประกอบโดย คุณมธุรวรรณ  โลกวิทย์