พระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญยอห์น
พระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างส่องโลก
พระเยซูเจ้าทรงเป็นพยานให้ตนเอง
(ยน
. 8:12-30)

  1. กิจกรรม
  • ผู้สอนเลือกผู้เรียนหนึ่งคน โดยนัดแนะกันล่วงหน้าก่อน ตัวอย่างเช่น ผู้สอนยกตัวอย่างนักเรียนคนหนึ่งว่าเป็นคนที่เรียนดี ประพฤติดี และถามเพื่อน ๆ ในชั้นว่าเป็นจริงหรือไม่ ใครจะเป็นพยานได้บ้าง ผู้สอนให้ผู้เรียน   ยกมือ และกล่าวเป็นพยานว่าเพื่อนคนนั้นนเรียนดี ประพฤติดีอย่างไร
  1. วิเคราะห์
  • เมื่อเธอได้เป็นพยานถึงเพื่อนคนอื่น ๆ ที่เรียนดี ประพฤติดีแล้ว เธอมมีข้อตั้งใจอะไรบ้าง
  1. คำสอน
  • ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้ว่า ‘คำยืนยันเป็นพยานของคนสองคนเป็นที่น่าเชื่อถือ’ พระเยซูเจ้าทรงเป็นพยานให้ตนเองและพระบิดาทรงเป็นพยานถึงการเป็นบุตรของพระองค์ด้วย ซึ่งแทบไม่ต้องการพยานอื่นใดอีก คำพยานนี้จึงน่าเชื่อถือ คำพยานคือ พระเยซูเจ้าตรัสว่าพระองค์มาจากพระบิดาและกำลังจะกลับไปหาพระองค์ ผู้ใดรู้จักพระเยซูเจ้าเท่ากับรู้จักพระบิดาด้วย
  • พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราเป็นแสงสว่างส่องโลก” พระวรสารนักบุญยอห์นได้เป็นพยานแต่แรกแล้วว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นแสงสว่างที่ประทานชีวิตนิรันดร พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระวจนาตถ์ผู้มาจากพระเจ้าและทรงเป็นพระเจ้า(ยน. 1:1)
  • พระเยซูเจ้ายังกล่าวถึงการที่พระองค์จะจากไป และการยกบุตรแห่งมนุษย์ คือการสิ้นพระชนม์ กลับคืน พระชนมชีพและเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา ซึ่งเป็นการเผยแสดงที่ชาวยิวในขณะนั้นยังไม่เข้าใจ   แต่จะเข้าใจในภายหลังเมื่อได้รับพระจิตเจ้าแล้ว
  • พระเยซูเจ้าสอนเรื่อง ‘การตายเพราะบาป’ บาปคือการไม่เชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงมาจากพระบิดาและยังคงดำเนินชีวิตในบาป แม้ชาวยิวจะบอกว่าตนเองปฏิบัติตามธรรมบัญญัติ แต่พวกเขาก็เข้าใจธรรมบัญญัติอย่างผิวเผินและเข้าไม่ถึงแก่นของธรรมบัญญัติที่แท้จริง เพราะสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงเทศน์และปฏิบัติเป็นธรรมบัญญัติที่สมบูรณ์จากพระบิดา ผู้ที่เชื่อในพระองค์จึงนำสิ่งที่พระองค์เทศน์สอนและปฏิบัติมาเป็นแบบอย่าง เท่ากับพวกเขาได้เดินตามพระเยซูเจ้าผู้เป็นแสงสว่างส่องชีวิต

คำถาม

  • พระเยซูเจ้าทรงเป็นพยานให้ตนเองโดยกล่าวว่าอย่างไรเป็นสำคัญ
  • ใครเป็นพยานสำคัญที่สุดที่เป็นพยานให้กับพระเยซูเจ้า
  • ภารกิจหลักของพระเยซูเจ้าผู้เสด็จมาในโลกเพื่อเผยแสดงให้มนุษยชาติเชื่อถึงผู้ใด
  1. ข้อปฏิบัติ
  • ให้ผู้เรียนเลือกข้อตั้งใจหนึ่งข้อในการดำเนินชีวิตเช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า เพราะเท่ากับเราเป็นพยานถึงพระองค์