บทที่ 9
พระจิตคือพระผู้ช่วยที่พระบิดาและพระเยซูคริสต์ประทานให้เรา
จุดมุ่งหมาย  เพื่อให้นักเรียนรู้จักพระจิต ความสำคัญที่พระจิตมีต่อชีวิตคริสตชน และมีความกระตือรือร้นที่จะรับพระจิตนี้

 

ขั้นที่ 1 กิจกรรม
 ครูสอนให้นักเรียนสวดบท “เชิญเสด็จมาพระจิตเจ้าข้า”
 ให้นักเรียนสวดพร้อมกัน
 ให้นักเรียนสวดทีละคน

ขั้นที่ 2 วิเคราะห์

ครูถามนักเรียน
 -บทสวดนี้เป็นบทสวดอ้วนวอนใคร?
 -บทสวดนี้ใช้สวดตอนไหน?
 -บทสวดนี้อ้วนวอนขออะไรบ้าง?
สรุป  เรามักจะสวดบท “เชิญเสด็จมาพระจิตเจ้าข้า” ในตอนเริ่มวันใหม่ หรือกิจการใหม่ เพื่อวอน
พระจิตประทานความช่วยเหลือให้เริ่มวันใหม่หรือกิจการใหม่อย่างดี

ขั้นที่ 3 คำสอน

 1. พระบิดาและพระบุตร (เยซูคริสต์) ปรารถนาที่จะส่งพระจิตมาช่วยเหลือเรา พระเยซูคริสต์ตรัสว่า “เราจะทูลขอพระบิดา และพระองค์จะประทานพระผู้ช่วยอีกผู้หนึ่งให้แก่ท่านเพื่อจะได้อยู่กับทานตลอดไป คือพระจิตแห่งความจริง..(พระองค์) จะทรงสอนทุกสิ่งให้แก่ท่าน และจะทำให้ท่านระลึกถึงทุกสิ่งที่เราได้กล่าวไว้แก่ท่านแล้ว” (ยน.14,16-17 และ 26)

 2. ภารกิจของพระจิตมีปรากฏชัดในวันที่อัครสาวกได้รับพระจิตนั้น “เมื่อเทศกาลเปนเตกอสเตมาถึง พวกสาวกมารวมอยู่ในที่เดียวกันเพื่อสวดภาวนา ทันใดนั้นมีเสียงดังจากฟ้าเหมือนเสียงพายุแรงกล้าดังก้องไปทั่วบ้านที่พวกเขาชุมนุมกันอยู่นั้น และมีเปลวไฟรูปร่างเหมือนลิ้นลอยลงมาเหนือพวกเขาสิ้นทุกคน พวกเขาจึงเปี่ยมด้วยพระจิตและเริ่มต้นพูดภาษาต่าง ๆ ตามที่พระจิตดลใจให้พูด” (กจ.2,1-4) ครั้งนี้พระจิตเสด็จมาในรูปของลมพายุและลิ้นไฟ ทำให้พวกสาวกเปลี่ยนไป คือ เกิดมีความกล้าหาญ ความรอบรู้และความสามารถพูดภาษาต่าง ๆ ได้

 3. นี้คือสิ่งที่เกิดตามมาก็คือพวกสาวกเปิดประตูบ้านออกไปเผชิญหน้ากับประชาชนอย่างองอาจกล้าหาญ และเปโตรเริ่มเทศนาประกาศก้องว่าพระเยซูคริสต์คือพระเป็นเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขนสิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนม์ ผู้คนต่างตกตลึงเพราะต่างคนต่างได้ยินเปโตรพูดเป็นภาษาของตน และผลงานชิ้นแรกของพระจิตก็คือมีคนเชื่อและกลับใจประมาณสามพันคน และวันนั้นเป็นวันเริ่มต้นของพระศาสนจักรเพราะเริ่มมีสัตบุรุษกลุ่มแรก

 4. ทุกวันนี้ พระจิตยังทรงทำงานอยู่ในพระศาสนจักรและในตัวเราแต่ละคนเพื่อเปลี่ยนชีวิตให้เป็นเหมือนพวกสาวกในสมัยโน้น เราจึงควรร่วมมือกับพระองค์โดยปฏิบัติตามแบบอย่างของพวกสาวก คือสวดภาวนาวอนขอพระจิตบ่อย ๆ ขอพระองค์ประทานความกระตือรือร้น ความรู้พระธรรมคำสอน และความกล้าหาญที่จะออกไปประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์แก่เพื่อนฝูงโดยไม่อายหรือกลัวภยันตรายใด ๆ

ขั้นที่ 4 ปฏิบัติ

ก. จดเนื้อหาลงในสมุด
1. พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าจะส่งใครมาอยู่กับเรา?
 ตอบ  พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาจะส่งพระจิตมาอยู่กับเรา

2. พระจิตเสด็จมาอยู่กับพวกสาวกในลักษณะใด?
 ตอบ  พระจิตเสด็จมาอยู่กับพวกสาวกในลักษณะของลมพายุและลิ้นไฟ

3. เมื่อพระจิตเสด็จมาแล้วพวกสาวกเป็นอย่างไร?
 ตอบ  เมื่อพระจิตเสด็จมาแล้วพวกสาวกก็เปลี่ยนเป็นคนใหม่ มีความกล้าหาญ ความรอบรู้ และสามารถพูดภาษาต่าง ๆ ได้

ข. กิจกรรม
ร้องเพลง “เชิญพระจิต” (ปรารถนา หน้า 406 เอ)
ตัดกระดาษเป็นรูปลิ้นไฟ ระบายสี แล้วแจกให้นักเรียนเอาไปติดที่บ้าน เป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงพระจิตและสวดอ้อนวอนพระองค์บ่อย ๆ

เชิญพระจิต

1. เชิญพระจิตฤทธิเดชเสด็จมา    เยือนวิญญาณ์ข้าพระองค์ที่ทรงสรรค์
    เชิญประสิทธิ์โปรดพระพรวรนันต์  เป็นมิ่งขวัญแก่วิญญาณ์ข้าพระองค์

  (รับ)เชิญเสด็จ เชิญเสด็จ พระจิตเจ้า  เชิญเสด็จ เชิญเสด็จ พระจิตเจ้า

2. พระเจ้าคือผู้บรรเทาเหล่าทุกข์ร้อน  พระคือพรจากเจ้าฟ้าค่าสูงส่ง
   พระท่อธารชูชีวีอัคคียง    พระคือรักปักปลงใจให้ปรีดา (รับ)

3. พระประทานสัปตพรแก่มนุษย์   พระประดุจดัชนีพระหัตถ์ขวา
       ของพระองค์ทรงนามะพระบิดา   ตามสัญญาพระแจ้งไขไว้เด่นดี (รับ)

4. โปรดประทานแสงสว่างกระจ่างจ้า  โปรดนำมาซึ่งแรงรักประจักษ์ศรี
   ให้มนุษย์ผู้ใจอ่อนหย่อนฤทธี   ดับอัคคีคือกิเลสเผด็จไป (รับ)

5. ขอพระโปรดขับศัตรูหมู่อมิตร   โปรดประสิทธิสันติสุขทุกสมัย
   ขอพระโปรดได้นำทางให้ห่างภัย  ใต้ร่มชัยวิญญาณรอดปลอดมลทิน (รับ)

6. ขอพระโปรดดวงใจเกล้าเข้ารู้จัก  สามิภักดิ์พระบิดามหาศาล
   อีกพระบุตรและพระจิตนิจกาล   พระคือธารท่อความเชื่อเพื่อชีวัน (รับ)

7. สาธุการพระบิดา และพระบุตร   พระประยุทธ์ทรงชัยในมรณา
   อีกพระจิตพระทรงฤทธิ์ทรงศักดา  เลื่องลือชาเกรียงพระยศปรากฏเทอญ (รับ)