ccpcommandment01.jpgบทที่หนึ่ง
“จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของเจ้าสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญา”

พระบัญญัติประการแรก
“เราเป็นพระเจ้าของท่าน ท่านต้องไม่มีพระอื่นใดนอกจากเรา”

9. เราจะต้องปฏิบัติตนอย่างไร เมื่อเรารู้ว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของเรามนุษย์ทุกคน  (เทียบ อพย 20:2)

(คำสอนฯข้อ 2083-2094,2133-2134)
 เมื่อเรารู้ว่าพระเป็นเจ้าทรงเป็นพระเจ้าของเรา เราต้องรักษาและปฏิบัติตามคุณธรรมที่พระเยซูเจ้าทรงสั่งสอน คือ ความเชื่อ ความไว้วางใจ และความรัก และพยายามหลีกเลี่ยงบาปที่ขัดกับคุณธรรมนั้น

(ความเชื่อ คือ เชื่อในพระเป็นเจ้าและปฏิเสธทุกสิ่งที่ตรงข้ามเช่นความสงสัยโดยจงใจ ความไม่เชื่อ การถือนอกรีต การละทิ้งความเชื่อ การแยกตัวออกจากพระศาสนจักร ความไว้ใจหรือความหวัง คือ รอคอยความสุขแท้จริงจากพระเป็นเจ้าด้วยความเชื่อมั่นและความช่วยเหลือของพระองค์   โดยการหลีกเลี่ยงความสิ้นหวังและความวางใจเกินควร    และความรัก คือ รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งทั้งปวง นั่นคือ การขับไล่ความเย็นเฉย ความอกตัญญู  ความเย็นเฉย ความเกียจคร้านหรือความไม่รู้ร้อนรู้หนาวฝ่ายจิต และความเกลียดชังพระเป็นเจ้าอันเนื่องมาจากความจองหอง)

10.  พระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ว่า “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น” (มธ 4:10) หมายความว่าอะไร 

(คำสอนฯข้อที่ 2095-2105, 2135-2136)
หมายความว่า เรามนุษย์จะต้องกราบไหว้ บูชา นมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ทั้งโดยการกระทำที่เป็นส่วนตัวและทำเป็นหมู่คณะ ให้เราอธิษฐานภาวนาถึงพระองค์ด้วยการสรรเสริญ ขอบพระคุณ และวิงวอนขอพระพรจากพระองค์ 


11. มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่ถวายคารวกิจแด่พระเป็นเจ้าด้วยใจอิสระตามสิทธิของตนได้หรือไม่และอย่างไร

(คำสอนฯข้อ 2104-2109, 2137) มนุษย์แต่ละคนมีสิทธิและหน้าที่ที่จะแสวงหาความจริง โดยเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวกับพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักรของพระองค์ เมื่อได้รู้จักแล้วก็จะรับและรักษาไว้อย่างซื่อสัตย์ด้วยการถวายคารวกิจที่ถูกต้องแท้จริงแด่พระเป็นเจ้า ในขณะเดียวกันในเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อในศาสนานี้ ไม่มีใครสามารถบังคับให้ใครกระทำอะไรที่ขัดกับมโนธรรมของตน หรือขัดขวางมิให้ปฏิบัติตามมโนธรรมภายในของตน สิทธิการนับถือศาสนาเป็นสิทธิพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ทุกคน

12. พระบัญชาที่ว่า “ท่านต้องไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากเรา” (อพย 20:2) หมายความว่าอย่างไร 

(คำสอนฯข้อ 2110-2128, 2138-2140)
พระบัญชานี้มีความหมายว่า เราจะต้องเคารพสักการะพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว ไม่ไปศรัทธาหรือบูชาพระอื่นใด ไม่เชื่อในเวทมนต์คาถา ไม่ดูหมิ่นบุคคลหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ยอมรับว่ามีพระเจ้าอยู่จริงในโลกนี้

13. พระบัญชาที่ว่า “ท่านต้องไม่ทำรูปเคารพสำหรับตน” (อพย 20:3)หมายความว่าอะไร
 
(2129-2132, 2141)
พระบัญชานี้มีความหมายว่า ในพันธสัญญาเดิมนั้นห้ามมิให้มีอะไรมาแทนที่พระเป็นเจ้าได้ เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนือรูปเคารพใดๆ แต่ต่อมาในพันธสัญญาใหม่เมื่อพระเยซูเจ้าทรงบังเกิดมารับสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงมีร่างกายเหมือนมนุษย์ทุกประการ พระศาสนจักรจึงยอมรับและจัดให้ภาพของพระเยซูเจ้าเป็นภาพศักดิ์สิทธิ์ที่เราแสดงความเคารพได้ เพราะเมื่อเราแสดงความเคารพต่อพระรูป เราไม่ได้เคารพรูปนั้นๆ แต่เราได้เคารพพระบุคคลที่วาดอยู่ในภาพนั้นเอง